[G.O.]
ณ
ตระกูลสายลม
หลังจากที่ความจริงถูกเปิดเผย
คุณฮิมชานที่หนีไปและคุณยงกุกที่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ที่นี้
รอเวลาที่ทุกอย่างจะคลี่คลายลง ในระหว่างนั้นผมเองก็ต้องมาอาศัยอยู่ที่นี้ด้วย
สำหรับตัวผมเองนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร
แต่คนที่มีปัญหาก็น่าจะเป็นใครบางคนที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าผมซักเท่าไหร่
“ก๊อกๆๆ”
“เข้ามาสิจีโอ”ผมเปิดประตูเข้าไป
ท่านอดีตผู้นำหรือจะเรียกว่าตอนนี้ยังเป็นผู้นำอยู่ดีนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน
กับบอดี้การ์ดที่ผมบอกว่าคงเป็นคนเดียวที่มีปัญหาสำหรับการที่ผมมาอยู่ที่นี้ยืนอยู่ในห้องด้วย
เขาเหล่สายตามามองผมนิดนึง ผมยกยิ้มให้ก่อนจะก้มโค้งแล้วเดินเข้าไป
“ยงกุก
ลูกชายของฉันเป็นยังไงบ้าง”ท่านอดีตผู้นำถามผม
“คุณยงกุกดูท่าทางจะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากครับ
ผมเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ต้องขอโทษด้วยนะครับที่เราก่อความวุ่นวาย”ผมเอ่ยตอบพร้อมกับก้มหัวขอโทษ
“ไม่เป็นอะไรหรอก
ถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นฉันก็อาจจะตามหาตัวลูกชายที่แท้จริงไม่เจอ
และความจริงก็อาจไม่ถูกเปิดเผย”ผมนิ่งเงียบรับฟัง
“เฮ้อ....
หลังจากนี้คงมีเรื่องวุ่นวายอีกเยอะ ทั้งเรื่องของลูกชายฉันที่จะไม่ยอมอยู่ที่นี้
ทั้งเรื่องความจริงที่ถูกเปิดเผยออกไป และยังเรื่องของฮิมชานอีก”แววตาของท่านอดีตผู้นำหมองลง คงจะลำบากใจไม่น้อยเลยทีเดียว
“อีจุน...
ในระหว่างที่ทุกอย่างยังไม่ลงตัว นายคอยช่วยเหลือจีโอและลูกชายของฉันด้วยนะ”
“เอ๊ะ ค ครับ”คนข้างกายผมทำสีหน้าอึกอัก ก่อนจะหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ผมยกยิ้มให้
********
“นั้นคือห้องของนาย
หวังว่าคงอยู่ได้นะ”น้ำเสียงแดกดันเอ่ยบอก
ผมก้าวเข้าไปในห้องที่เป็นโซนของห้องพักพวกบอดี้การ์ดก่อนจะมองสำรวจไปรอบๆ
พบว่าห้องนี้ยังไม่ได้ถูกทำความสะอาดเลยแม้แต่น้อย ทั้งฝุ่นทั้งหยักไย้เต็มไปหมด
ผมหันไปมองหน้าของคนที่พามา
“ทำไม...อยู่ไม่ได้หรอ
ถ้าอยู่ไม่ได้นายก็คงต้องไปนอนที่ห้องคนรับใช้แล้วหละ”ใบหน้านั้นเหยียดยิ้มบอก
ผมกระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างนั้น อีจุนก้าวถอยหลังหนีผม
ผมยกแขนขึ้นมาท้าวกับกำแพงกันไม่ให้หนี
“อยู่ได้สิทำไมจะอยู่ไม่ได้
แต่ฉันอยากรู้ว่าห้องนายอยู่ไหนต่างหาก”
“ห๊ะ! ว ว่าไงนะ ท ทำไมฉันต้องบอกนาย แล้วถอยไปนะเว้ย อยู่ใกล้นายแล้วฉันจะอ้วก“เขาบอกด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนจะผลักผมออก
“อย่าคิดว่าท่านอดีตผู้นำสั่งให้ฉันดูแลพวกนายแล้วฉันต้องรับใช้นายด้วยหละ
สำหรับคุณยงกุกไม่เป็นไร แต่นาย....ไม่มีวันซะหรอก”พูดจบเขาก็เดินออกไปจากห้อง
ผมมองตามยิ้มๆ ไม่รู้ทำไมเวลาผมได้ปะทะกับอีกฝ่ายแล้วได้เห็นสีหน้าไม่พอใจนั้น
ผมกลับรู้สึกดีนี้ผมเป็นโรคจิตรึเปล่าเนี้ยหรือจะติดมาจากคุณยงกุกกับคุณเซโล่....
แล้วผมก็ต้องกับมามองรอบตัวของตัวเอง
ห้องสกปรกแบบนี้จะจัดการยังไงไหวหละเนี้ย กี่วันกว่าผมจะทำความสะอาดเสร็จ หึ
คอยดูเถอะงานนี้ต้องมีเอาคืนกันบ้าง
“คุณบอดี้การ์ดอีจุน.....”
********
[Lee Joon]
ผ่านไปหลายวันหลังจากที่ไอ้บ้านั้นมาอยู่ที่นี้ผมก็ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่
วันๆที่ต้องทนเห็นหน้ามันผมแทบจะคลั่งตาย
ใบหน้าที่คอยกวนประสาทผมอยู่ตลอดเวลาทำให้ผมหงุดหงิด
“เอ้าทุกคน
แข็งแรงกันหน่อย เป็นบอดี้การ์ดจะมาเหยาะแหยะไม่ได้”ผมร้องบอก
ตอนนี้บอดี้การ์ดทุกคนกำลังอยู่ในช่วงฝึก
ส่วนผมเองนั้นที่เป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดก็ต้องคอยดูแลการฝึกของทุกคน
“ขยันฝึกกันจังเลยนะ
อย่างงี้คงฝีมือเก่งกันน่าดู”จู่ๆเสียงหนึ่งก็พูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามา
ผมหันไปมองก่อนจะต้องชักสีหน้าหงุดหงิดทันที
“มาทำไม
ใครเชิญไม่ทราบ”ผมถามน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
“ไม่มีใครเชิญหรอก
ก็แค่อยากมาดูคุณบอดี้การ์ดฝึกลูกน้องเท่านั้นเอง อยากรู้ว่าจะเก่งแค่ไหน”
“ถ้าอยากรู้นักจะลองดูไหมหละ
จะได้รู้ว่าเก่งกว่าพวกอันธพาลข้างถนนอย่างนาย ก็แค่ระดับลูกน้องจะเก่งได้ซักแค่ไหนกัน”ผมพูดก่อนจะยกยิ้ม อีกฝ่ายหันมาจ้องหน้าผมอย่างไม่พอใจ
“ก็ดีเหมือนกันนะ
อันธพาลข้งถนนอย่างฉันจะได้สั่งสอนบอดี้การ์ดอย่างนาย”เราทั้งคู่จ้องตากันเขม็ง
“สู้เลย สู้เลย
สู้เลย”เสียงบรรดาลูกน้องร้องเชียร์ คงถึงเวลาสะสางแล้วสินะ
…….
…………
……………….
ท่ามกลางวงล้อมของบรรดาลูกน้อง
ผมและอีกฝ่ายยืนประชันหน้ากัน เราจ้องหน้ากันและกันพร้อมที่จะปะทะ
“การต่อสู้ครั้งนี้จะสู้จนกว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดลุกขึ้นมาสู้ต่ออีกไม่ไหวแล้ว
ถ้าพร้อมแล้ว....สู้ได้!”เสียงประกาศเริ่มต้นดังขึ้น
ผมพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายทันที
หมัดแรกของผมปล่อยออกไปแต่ก็ชกได้เพียงอากาศก่อนจะตามด้วยหมัดที่สองและที่สามก็เช่นเคย
ทำไมมันถึงไหวอย่างงี้ว่ะ
“ฟรึบบบ....”ผมเบี่ยงตัวหลบหมัดที่สวนกลับมา
เราทั้งคู่ตอบโต้กันไปมาโดยที่ยังไม่มีใครโดนอะไร
บรรดาลูกน้องต่างยืนดูพร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องอย่างเมามันส์
“เก่งกว่าที่คิดใช่ไหมหละ”อีกฝ่ายบอกพร้อมกับยกยิ้ม ผมชักสีหน้าอย่างเจ็บใจ
“ก็แค่นั้นแหละ
ฉันยังไม่ได้เอาจริงต่างหาก”ผมพุ่งเข้าใส่อีกครั้งก่อนจะง้างหมัดชก
และก็เป็นอีกครั้งที่มันหลบหมัดของผมได้อย่างที่คิดแต่มันไม่หมดแค่นั้นหรอก
ผมหมุนตัวแล้วตวัดขาเตะ เท้าของผมกระแทกหน้ามันอย่างจัง
“พลั๊ก! อึก!”ไอ้จีโอหยุดชะงัก เลือดไหลออกมาจากหางคิ้ว
มันยกมือขึ้นจับก่อนจะยกยิ้มออกมา
“ต่อไปตากูบ้างนะ”มันบอก
“พลั๊ว!”และในทันทีผมก็โดนชกเข้าที่หน้าเต็มๆ ผมและมันปะทะกันต่ออย่างดุเดือด
ไม่มีใครอ่อนกว่าใครฝีมือของพวกเราสูสีกันมาก
“เฮ้.... หัวหน้าสู้ๆ
หัวหน้าสู้ๆ”
“ปึก! พลั๊ว! พลั๊ก! อัก!”ผมโดนเตะเข้าที่ท้อง ใบหน้าแสดงออกถึงความเจ็บ
แต่การต่อสู้รั้งนี้ผมจะยอมแพ้ไม่ได้
เพราะมันหมายถึงศักดิ์ศรีของผมบวกกับความเกลียดขี้หน้าอีกฝ่ายด้วย
“มาทำให้จบๆกันดีกว่า”ผมบอกด้วยอาการเหนื่อยหอบ
“ได้อยู่แล้ว”ไอ้จีโอยกยิ้ม ผมพุ่งตัวเข้าใส่ทันที ไอ้จีโอเตรียมตัวตั้งรับ
และในขณะที่ผมพุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับหมัดที่ง้างขึ้น
ไอ้จีโอดันเบี่ยงตัวกะทันหันทำให้ผมพุ่งตัวเลยมันไป แต่ขาดันไปสะดุดขาของมันเข้า
หน้าของผมจึงกำลังจะคว่ำลงพื้น
“เหวอออ....”ผมร้องออกมาหลับตาแน่น
เตรียมรับความเจ็บที่จะเกิดขึ้นจากการที่หน้าฟาดลงพื้น
“อุ๊บ!”และแล้วตัวผมก็ล้มลง
“เห้ย!!! หัวหน้า!!!!”ผมได้ยินเสียงลูกน้องร้องตระโกน
มันคงต้องน่าอายมากแน่ๆที่ผมดันมาล้มแบนนี้
แต่แปลกที่ผมกับไม่รู้สึกเจ็บที่หน้าเพียงแต่เจ็บที่ปากเท่านั้น ผมค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะต้องเบิกตากว้าง
“ว้ากกก....”ผมร้องตระโกนออกมาก่อนจะรีบลุกขึ้น ไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ผมล้มลงจูบกับไอ้จีโอ....!
“โอ้ย!”มันร้องออกมาจับที่ปากของตัวเอง ปากของมันแตกมีเลือดไหลซึม
ผมยกมือขึ้นจับปากของตัวเองก็เป็นเช่นเดียวกับมัน ปากของเราทั้งคู่แตก
“ท
ทำไม...เกิดอะไรขึ้นว่ะ”ผมตระโกนถาม
“หัวหน้าจูบกับจีโอ”เสียงของลูกน้องตระโกนบอก
ผมหันไปมองมันด้วยสายตาอำมหิตเป็นเชิงว่ามึงไม่ต้องย้ำก็ได้
“ฉันแค่เห็นนายกำลังจะล้มเลยเข้าไปช่วย
ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเป็นแบบนี้”ไอ้จีโอบอก
ใบหน้าของผมค่อยๆแดงขึ้นจนถึงแดงจัด มือกำหมัดแน่น ทั้งโกรธทั้งอาย
ดันพลาดล้มไปจูบกับมันซะได้แถมยังต่อสายตาของลูกน้องทุกคนอีก
“โธเว้ย!”ผมสบถก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีจากไป ก็ใครจะอยู่กันหละน่าอายขนาดนี้
ขอผมหนีไปทำใจก่อนละกัน ส่วนพวกลูกน้องค่อยกลับมาจัดการทีหลัง
ผมต้องล้างสมองพวกมันให้หมด!
*********
[G.O.]
หลังจากการต่อสู้เมื่อตอนบ่ายตอนนี้ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว
ผมออกมานั่งสูดอากาศข้างนอก ท้องฟ้าที่มืดสนิทประดับไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ
ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์มากมาย
เรื่องที่ว่าคุณฮิมชานเป็นทายาทตระกูลไฟที่แท้จริงทำให้ผมใจหายมาก
แต่ตอนนี้ผมตัดสินใจอะไรได้บางอย่างแล้วถึงหน้าที่ของผม เพียงแค่รอเวลา
เวลาที่คุณฮิมชานจะกลับมา......
“อ๊ะ!”เสียงร้องดังขึ้นผมหันหน้าไปมองก่อนจะพบว่าเป็นคู่ต่อสู้ของผมนั้นเอง
“ว่าไงครับคุณบอดี้การ์ด”ผมเอ่ยทักทาย อีจุนชักสีหน้าอย่างไม่พอใจก่อนหันหลังจะเดินจากไปแต่ผมกลับคว้ามือนั้นไว้
“นี่! นาย! ปล่อยมือฉันนะ”
“ก็นายเพิ่งเดินมาไม่ใช่หรอแล้วจะเดินกลับไปไหนหละ”ผมว่า
“ฉันแค่บังเอิญเดินผ่านมา”
“อ่อหรอ...
ฉันคิดว่านายอยากจะหนีหน้าฉันมากกว่ามั้ง”อีจุนทำสีหน้าตกใจ
ผมยกยิ้มนิดๆนั้นคงเป็นความจริงหละสิ อย่าบอกนะว่าเขาเก็บเรื่องจูบมาใส่ใจ
“เปล่าซักหน่อย
ทำไมฉันต้องหนีหน้านายด้วย”เขาปัดมือผมออกก่อนจะหันมาประชันหน้า
ใบหน้านั้นแดงเล็กน้อย นั้นเป็นเพราะโกรธหรือเพราะอายกันแน่นะ
“ก็ฉันคิดว่านายคงกำลังคิดมากเรื่องที่จูบกับฉันใช่ไหมหละ”ผมพูด อีกฝ่ายทำตาโต
“เปล่าเว้ย! ทำไมฉันต้องเก็บมาคิดมากด้วย มันไม่ได้มีอะไรซักหน่อยก็แค่ล้มลงไปแล้ว....
แล้ว......”ผมจ้องมองท่าทางอึกอักที่พูดไม่ออกนั้น
“นายไม่คิดแต่ฉันคิดนะ”ผมพูด อีจุนชะงักงันก่อนจะมองหน้าผมนิ่งเหมือนตกใจ
“ห๊ะ ว ว่าอะไรนะ”เขาถาม
“ฉันบอกว่าฉันรู้สึกนะที่จูบกับนาย
รู้สึกชอบ....”ผมย้ำให้ฟังอีกครั้ง อีจุนถึงกับนิ่งค้าง
ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่รู้สึกแบบนั้น
แต่มันชัดเจนขึ้นตั้งแต่ได้สัมผัสกับริมฝีปากนั้นที่วันๆคอยแต่จะพูดกระทบกระทังกับผม
“ฉันชอบนายอีจุน
เราเลิกเป็นศัตรูแล้วมาเป็นคนรักกันได้ไหม....”ผมเอ่ยถาม
อีจุนที่นิ่งเงียบไปไม่พูดไม่จาก้มหน้าลงตัวสั่นเทา
“จะบ้ารึไงว่ะ!!!!”ผมหันหน้าหนีเสียงระโกน อีจุนร้องตระโกนใส่ผมเสร็จก็วิ่งหนีจากไป
ผมหันกลับมามองตามแผ่นหลังนั้น
“คนสารภาพรักก็หาว่าบ้าฉันไม่ทำแบบคุณยงกุกก็ดีเท่าไหร่แล้ว”พูดจบผมก็กลับมานั่งมองท้องฟ้าเหมือนเดิมก่อนจะต้องอมยิ้ม
***********
[Lee Joon]
เช้าวันใหม่ที่อากาศหมองมัวเพราะหิมะที่ตกลงมา
ผมเดินตรวจความเรียบร้อยอยู่บริเวณรอบบ้าน ช่วงนี้มีคนเข้าออกมากมาย
ไหนจะพวกตำรวจไหนจะพวกนักข่าวจึงต้องดูแลความปลอดภัยให้ดี
แต่แล้วจู่ๆผมก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา
‘ฉันชอบนายอีจุน
เราเลิกเป็นศัตรูแล้วมาเป็นคนรักกันได้ไหม’
.ใบหน้าของผมแดงเรื่อ
ทำไมจู่ๆก็นึกเรื่องแบบนั้นขึ้นมา
เป็นเพราะไอ้บ้าจีโอคนเดียวเมื่อคืนนี้ผมก็เลยนอนไม่หลับทั้งคืน
จากศัตรูจะให้กลายไปเป็นคนรักมันง่ายขนาดนั้นเลยหรอ ผมยืนนิ่งครุ่นคิด
แต่จะว่าไปหัวใจของผมมันก็เต้นแปลกๆเหมือนกัน
“หัวหน้าครับ...
คุณฮิมชานกลับมาแล้วครับ”ลูกน้องของผมคนหนึ่งวิ่งเข้ามาบอก
“จริงหรอ
แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน”ผมถามน้ำเสียงร้อนรน
“กำลังคุยอยู่กับท่านอดีตผู้นำครับ”
“ขอบใจมาก”ผมบอกก่อนจะรีบวิ่งไปทันที
เมื่อผมวิ่งมาถึงก็พบกับคุณฮิมชานกำลังเดินออกมาจากบ้าน
ทำไมกัน
“คุณฮิมชาน....
คุณจะไปไหนครับ”ผมวิ่งเข้าไปดักข้างหน้าเอ่ยถาม
คุณฮิมชานฉีกยิ้มให้ผม
“ฉันจะไปจากที่นี้แล้วหละอีจุน”
“ท ทำไมหละครับ”ผมถามอย่างไม่เข้าใจ
“ฉันไม่ใช่คนของตระกูลนี้
ฉันควรจะคืนทุกอย่างให้กับเขา ขอบคุณนะอีจุนที่คอยดูแลฉันมาตลอด ฉันไปก่อนนะ”พูดจบคุณฮิมชานก็เดินจากไป ทำไมทุกอย่างถึงต้องเป็นแบบนี้นะ
“อ๊ะ!”ผมร้องอุทานออกมาเมื่อถัดจากคุณฮิมชานแล้วผมก็พบกับจีโอ เขาจะไปไหนกัน
“นาย....”ผมอ้าปากจะพูด
“ฉันเองก็ต้องไปเหมือนกัน”คำพูดนั้นทำให้ผมถึงกับนิ่งค้าง หมายความว่าไง
“หมายความว่าไง
นายจะไปไหนกัน....”ผมถาม จีโอฉีกยิ้มให้ผม
“ฉันต้องไปดูแลทายาทของตระกูลไฟตัวจริงน่ะ
นายคงสบายใจแล้วนะที่ฉันจากไป คงไม่ต้องทนเห็นหน้าฉันอีกแล้ว”
“พูดบ้าอะไรน่ะ!
ถ้าตัดสินใจจะไปอยู่แล้วแล้วเมื่อคืนนี้บอกชอบฉันทำไม”ผมพูดเสียงดัง จีโอหุบรอยยิ้มลง
ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงพูดออกไปแบบนั้น
อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกของผมมันเปลี่ยนไปแล้วก็ได้
“ขอโทษแต่ฉันจำเป็นต้องไปจริงๆ
ขอโทษนะ”นั้นไม่ใช่สื่งที่ผมอยากฟังเลย
พูดจบเขาก็เดินผ่านผมไป ข้างในหัวใจผมรู้สึกเจ็บแปลบ... ทำไมกันนะ ทำไมผมไม่รู้สึกตัวให้เร็วกว่านี้
บางทีเขาอาจจะไม่ไปจากผมก็ได้
“แต่ว่า...ถ้าเราได้เจอกันอีก
นายต้องมาเป็นแฟนฉันนะ”ผมทำตาโตหันกลับไปมองคนพูด
จีโอส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ก่อนจะเดินตามคุณฮิมชานจากไป ผมฉีกยิ้มออกมา
“แล้วฉันจะรอนาย
จีโอ.....”
*********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น