[อึนกวัง]
หลังจากไอ้ฮยอนชิกลุกออกไป
ที่หน้ากองไฟก็เหลือผมกับมินฮยอกแค่สองคน ผมกระเทิบเข้าไปนั่งใกล้ร่างเล็กมากขึ้น
มินฮยอกทำเพียงแค่นั่งจ้องเปลวไฟข้างหน้า ในมือเล็กมีขวดเบียร์อยู่
“อากาศหนาวจังนะ”ผมพูดขึ้นแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา ผมบีบมือตัวเองที่เย็นเฉียบแน่น
อยากจะโอบกอดร่างเล็กให้หายหนาวเหลือเกิน แต่คงทำไม่ได้
“มินฮยอกนายเลิกดื่มเหอะนะ”ผมว่าเมื่อร่างเล็กกระดกเบียร์เข้าปากอีกครั้ง ผมยื่นมือออกไปจะแย้งขวดเบียร์
“นี่!
ฉันจะกินแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย”มินฮยอกหันมาตะวาดใส่ผม
ก่อนจะทำท่าจะลุกหนี
“เดี๋ยวมินฮยอก”ผมคว้าแขนเล็กไว้ ก่อนจะดึงเข้ามากอด ผมกอดรัดเอวเล็กแน่น
ฝังใบหน้าลงที่บ่าเล็ก
“ฉันรักนาย
เมื่อไหร่นายจะยอมใจอ่อนสักที”ผมบอกด้วยความน้อยใจ
ทำไมร่างเล็กนี้มองไม่เห็นความรักของผมสักทีนะ
มินฮยอกไม่ได้พูดอะไร
เขาทำเพียงแค่นั่งนิ่งๆ แต่มันก็ดีแล้ว ขอให้ผมได้อยู่อย่างนี้สักพัก
แม้จะได้แค่นี้ ผมก็พอใจแล้ว
“นายใจร้ายมากเลยนะมินฮยอก
ฉันตามจีบนายมาตั้งนาน แต่นายก็ไม่ยอมตกลงสักที ทำไมใจร้ายแบบนี้นะ
ตัวก็เล็กแค่นี้แท้ๆ”ผมพร่ำพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
ร่างในอ้อมกอดนิ่งเงียบฟัง
“แต่นายไม่ผิดหรอก
ที่ผิดคงเป็นฉัน ที่ตัดใจจากนายไม่ได้สักที ไม่ว่านายจะเมินฉันสักกี่ครั้ง
แต่ฉันก็ยังมองแต่นาย ฉันจะไม่มีวันตัดใจจากนายแน่นอน”ทุกอย่างที่ผมพูดคือความจริง
ผมไม่มีวันตัดใจจากมินฮยอกได้จริงๆ
“พูดอะไรของนาย
ปล่อยฉันได้แล้ว”ผมค่อยๆคลายอ้อมแขนออกจากเอวเล็ก
ทำไมเวลาของผมมันสั่นจังนะ
มินฮยอกลุกขึ้นยืน
ก่อนจะเดินจากไป ผมได้แต่มองตามหลังด้วยสายตาเจ็บปวด อีกเท่าไหร่กัน
อีกเท่าไหร่ที่ผมต้องทำ เพื่อให้เขาหันมามอง….
[มินฮยอก]
ผมเดินจากมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย
นี้ผมเป็นคนใจร้ายมากเลยใช่ไหม ผมหันกลับไปมองนิดหนึ่ง
สายตาที่กำลังมองผมอยู่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
พาลให้ผมรู้สึกเจ็บปวดไปด้วยกับสายตานั้น เลิกมองผมด้วยสายตาแบบนั้นสักทีเหอะ
ยังไงฉันก็รักนายไม่ได้
ผมเดินเข้าบ้านมาพบกับซองแจนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
ความรู้สึกเมื่อกี้หายไปจนสิ้น หัวใจเต้นตึกตักทันที
“ทำไมมานั่งอยู่นี้หละ”ผมเอ่ยถาม ใบหน้าคมเงยขึ้นมองผม ทำไมสีหน้าเขาถึงดูไม่ดีเลยนะ
“คุณมินฮยอก”ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆกับเขา รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ
“นายเป็นอะไรรึเปล่า”ผมถาม
“เปล่า
ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ”ซองแจตอบ
เราทั้งคู่นั่งอยู่ท่ามกลางความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรต่อ ผมแอบจ้องเสี่ยวหน้าของเขา
หัวใจเต้นแรง
“เออ...ผมถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”จู่ๆซองแจก็หันมาพูดกับผม ผมตกใจและตื่นเต้นมากที่เขาเป็นฝ่ายชวนคุยก่อน
“อะไรหรอ”
“คุณมินฮยอกเคยแอบชอบใครมั้ยครับ”ผมนิ่งงัน ทำไมเขาถามเรื่องนี้กับผมนะ
“เคยสิ”ตอนนี้ก็เป็นอยู่ ประโยคหลังผมไม่ได้พูดออกไป
“แล้วความรู้สึกมันเป็นแบบ
อยากอยู่ใกล้เขา อยากสัมผัสเขา อยากจะ....เออ....รึเปล่าครับ”ถึงไม่พูดผมก็เข้าใจว่าซองแจหมายถึงอะไร เขารู้สึกแบบนั้นกับใครกันนะ
ทำไมผมถึงรู้สึกปวดใจจังนะ
“ฉันว่าถ้ารู้สึกขนาดนั้นคงไม่ใช่แค่ชอบแล้วหละ
เขาเรียกว่ารักเลยต่างหาก”ผมตอบเสียงเรียบ
ซองแจนิ่งไปเหมือนกำลังคิดอะไรซักอย่างอยู่
ผมพาวนาขออย่าให้เขาไปรู้สึกแบบนั้นกับใครเลย เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงเจ็บมาก
“ขอบคุณนะครับ
ผมเข้าใจความรู้สึกของตัวเองแล้ว”เขาหันมาพูดกับผมยิ้มๆ
ผมจึงแสร้งฝืนยิ้มตอบ ก่อนที่ซองแจจะลุกขึ้นเดินจากไป ทำไมผมรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้นะ
ทั้งๆที่ยังไม่รู้ซะหน่อยว่าเขารู้สึกแบบนั้นกับใคร
[ซองแจ]
ตอนนี้ผมเข้าใจความรู้สึกตัวเองแล้ว
แต่มันคงไม่สายไปใช่ไหม พีเนียลยังไม่ได้เกลียดผมใช่ไหม
ผมควรจะบอกความรู้สึกนี้ให้เขารู้ได้ยังไงดี
ผมเดินเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง
พีเนียลกำลังหลับอยู่ที่ฝั่งหนึ่งของเตียง เขาใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว
ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาอีกครั้ง
ผมเดินไปนั่งลงบนเตียง
พีเนียลรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เขาลืมตามองผมนิ่งๆ
สายตานั้นกำลังบ่งบอกว่าเกลียดผมใช่ไหม
“พีเนียลฉัน....”คำพูดของผมกลืนหาย เมื่อคนที่นอนอยู่ดึงผมลงไปกดจูบ ผมเบิกตากว้างตกใจแต่ก็ตอบรับรสจูบนี้
เป็นจูบที่เชื่องช้าและหอมหวาน สองลิ้นเราเกี้ยวกระหวัดเหมือนจะปลอบโยนสิ่งที่ค้างคาในใจให้กันและกัน
คนข้างใต้ค่อยๆถอนจูบออก
ผมอ้อยอิ่งเก็บเกี่ยวความหอมหวานครั้งสุดท้าย สองสายตาเราจ้องมองกันและกัน
ผมเห็นความหวั่นไหวในแววตาคู่นั้น
“ทำไม...”ผมถามออกไปอย่างไม่รู้ตัว
“แล้วนายหละ
ทำแบบนั้นทำไม” นั้นสิเราทำแบบนั้นทำไม
“ตอนแรกที่ฉันเห็นนาย
ฉันก็เริ่มรู้สึกหวั่นไหว พออยู่ใกล้นายมากขึ้น ก็เริ่มจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่
ฉันรู้สึกอยากจะจับนายกดตลอดเวลา ฉันกลัวนายจะหาว่าฉันเป็นโรคจิต
ฉันพยายามอดทนมาตลอดเพื่อจะไม่แสดงให้นายรู้ว่าฉันคิดอะไร
แต่แล้ว...ฉันก็ห้ามตัวเองไว้ไม่ได้ นายมันยั่วยวนฉันเกิดไปจริงๆ”ผมพูดรั่วเร็วเหมือนคนไม่ได้สติ ก่อนจะหยุดหายใจ พีเนียลจ้องมองผมอึ้งๆ
“ค...คือว่า
ฉันรักนาย”และนี้คือคำพูดสุดท้ายที่ผมอยากบอก เมื่อผมพูดจบ
ก็พบว่าคนที่นอนอยู่ใบหน้าแดงแจ๋ เสหน้ามองไปทางอื่น
นี้ผมเข้าใจผิดไปเองรึเปล่าว่าพีเนียลกำลังเขิลผมอยู่
“พีเนียล...”ผมก้มลงกระซิบที่ข้างหู
“อ
อะไร”เสียงหวานถาม แต่ก็ยังไม่ยอมหันหน้ามามองผม
ผมกระตุกยิ้มนิดๆ นี้พีเนียลกำลังเขินผมอยู่ใช่ไหม
“นายเป็นของฉันแล้วนะ”พีเนียลหันควับมามอง ผมประทับจูบอย่างรวดเร็ว
“อื้อ...”พีเนียลเหมือนจะขัดขืนนิดๆ แต่แล้วก็ยอมเอนอ่อนตามผม
ผมค่อยๆโน้มตัวลงไปมากขึ้น บทรักกำลังจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
.
.
.
.
ที่ทะเลสาบ
“ฮัดเช่ยยย
ไอ้บ้าฮยอนชิกเป็นเพราะนายคนเดียว ทำฉันเป็นหวัดเลย”
“เป็นเพราะฉันคนเดียวที่ไหน
นายอยากจะเอาชนะเองไม่ใช่รึไง ฉันอุตส่าห์บอกให้ยอมแพ้แล้วแท้ๆ”
“หึย
ใครจะยอมแพ้นายกัน”
“งั้นครั้งหน้าเรามาแข่งกันใหม่
ฉันชนะนายแน่”
“ใครจะแข่งกับนายกัน
ฉันไม่ตกหลุมพรางนายอีกหรอก”
“งั้นก็ถือว่ายอมแพ้สินะ
หึๆ”
“ฝันไปเหอะ
ครั้งหน้าฉันชนะนายแน่ไอ้บ้าฮยอนชิก”
“แล้วฉันจะรอนะที่รัก”
“ที่รักบ้าอะไรของนาย
ไปให้พ้นเลย”
“ฮุนนี่....ที่รัก
รอเค้าด้วยสิ ฮุนนี่จ๋า.....”
“ไปให้พ้นเลยไอ้บ้า!!!”
********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น