ก่อนบาร์เปิด
2 ชั่วโมง
ซองแจที่มาถึงบาร์ก่อน
ใช้กุญแจที่อึนกวังแจกให้ลูกน้องทุกคน เผื่อจะได้เข้ามาจัดบาร์ก่อน
ไขประตูหลังร้านเข้าไป ภายในบาร์เงียบเชียบ แถมยังปิดไฟมืดสนิท
“เรามาเป็นคนแรกหรอเนี้ย”เขาพูดกับตัวเอง
ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของพนังงาน
เพื่อจะได้เปลี่ยนชุด
และเริ่มจัดเตรียมเครื่องดื่มต่างๆให้เรียบร้อยก่อนบาร์จะเปิด
ซองแจหยิบชุดพนักงานในล็อกเกอร์ของตัวเองออกมา
ในขณะที่เขากำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาก็นึกได้ว่าควรจะอาบน้ำก่อนดีไหม
เพราะบาร์เปิดตอนกลางคืน ในตอนกลางวันเขาเองก็ต้องไปโรงเรียน เนื้อตัวก็สกปรก
ถ้าลูกค้าเห็น อาจจะรังเกียจได้
เมื่อนึกได้ดังนั้น
ซองแจจึงคว้าเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวเดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำ
แต่เมื่อเขาเปิดประตูห้องอาบน้ำเข้าไป
ก็พบว่าที่ห้องอาบน้ำห้องหนึ่งมีคนกำลังอาบน้ำอยู่
“อ๊ะ
มีคนมาก่อนเรานิ”เขาพูดกับตัวเอง
“นี่
ใครอยู่ข้างนอกน่ะ”จู่ๆคนที่กำลังอาบน้ำก็ตะโกนถามออกมา
ซองแจเมื่อได้ยินเสียงก็จำได้ทันทีว่าเป็นเสียงของพีเนียล
แต่เขายังไม่ทันได้ตอบ ประตูห้องอาบน้ำก็ถูกแง้มเปิดออก
พร้อมกับใบหน้าใสที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำ ยื่นหน้าออกมามอง
“อ๊ะ
ซองแจ…”พีเนียลเรียกชื่ออีกฝ่ายยิ้มๆ ยิ้มที่ดูบริสุทธิ์
“ใช่
ฉันเอง…”ซองแจตอบรับอีกฝ่ายด้วยหัวใจที่เต้นรั่ว
เพราะใบหน้าใสที่พลั้งพราวไปด้วยหยาดน้ำ
และเส้นผมที่เปียกลู่ กับริมฝีปากแดงกล่ำเพราะความอุ่นของน้ำ
ทำให้เขาจ้องมองอย่างไม่ว่างตา
“ซองแจ
คือ…ฉันลืมหยิบผ้าเช็ดตัวมา ขอยืมของนายหน่อยสิ”พีเนียลบอก
และเมื่อซองแจได้ยินดังนั้น
เขาก็อดคิดไม่ได้ว่า ที่หลังประตูบานนี้
ตอนนี้อีกฝ่ายร่างกายกำลังเปล่าเปลื่อยอยู่
และมันทำให้เด็กหนุ่มอย่างเขาอดที่จะจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนไม่ได้
“แจ…ซองแจ…ซองแจ”ไม่รู้ว่าพีเนียลเรียกเขานานขนาดไหนแล้ว
แต่แล้วเขาก็ได้สติกลับมา พร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่อ
“ห๊ะ
ม มีอะไรหรอพีเนียล”เขาถามน้ำเสียงอึกอัก
เพราะภาพจินตนาการเมื่อกี้ยังอยู่ในหัวสมอง
“ฉันขอยืมผ้าเช็ดตัวหน่อย”พีเนียลบอกอีกครั้ง
“อ
อือ ได้สิ”ซองแจยื่นผ้าเช็ดตัวในมือให้อีกฝ่าย
พีเนียลรับมายิ้มๆก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง
แล้วออกมาด้วยสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่ท่อนล่าง
ซองแจเมื่อเห็นก็ถึงกับตาโต
หัวใจเต้นถี่รั่วแรง รู้สึกเหมือนเลือดกำเดาจะไหลออกมา
จนเขาต้องเบือนหน้าหนีอีกฝ่าย
“ขอบใจนะ
งั้นฉันไปก่อนนะ”พีเนียลพูดยิ้มๆ ก่อนจะเดินออกไป
และเมื่ออีกฝ่ายออกไปแล้ว
ซองแจก็รีบเข้าไปในห้องอาบน้ำที่อีกฝ่ายเพิ่งออกมาทันที
ภายในห้องอาบน้ำยังคงมีกลิ่นสบู่เหลวและแชมพูที่อีกฝ่ายใช้ กลิ่นนี้ทำให้เขาจินตนาการถึงตอนที่อีกฝ่ายกำลังอาบน้ำอยู่
ว่ามือที่มีสบู่เหลวกำลังลูบไล้ไปบนร่างกายขาวของตัวเองยังไง
แล้วลูบไล้ไปตรงส่วนไหนอีก
ซองแจเมื่อจินตนาการดังนั้น
ส่วนอ่อนไหวของเขาก็ชักจะตื่นตัวขึ้นมา ทำให้เขาต้องล่วงมือลงไปสัมผัสมัน
“อึก
อ้า….”เสียงทุ้มครางออกมา ใบหน้าแดงซ่าน
มือเรียวชักรูดส่วนอ่อนไหวของตัวเอง ในขณะที่ในหัวก็นึกถึงร่างๆนั้นไปด้วย
และเพียงไม่นาน เขาก็ถึงจุดๆนั้น
“ฮ้า…แฮ่กๆ”ซองแจหอบหายใจกับกิจกรรมของตัวเอง
ก่อนที่เขาจะถอดเสื้อผ้าออก และเริ่มต้นอาบน้ำสักที เพราะถ้าเขาออกไปช้า
อาจจะโดนสงสัยได้
…………………….
…………………………………
………………………………………..
ตอนนี้บาร์เปิดให้บริการแล้ว
มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนมากมาย อึนกวังนั่งมองผู้คนในบาร์อย่างพอใจ
เพราะนี้ขนาดวันแรกยังมีลูกค้ามากขนาดนี้ เพราะฉะนั้นก็ถือว่ากิจการของเขาประสบความสำเร็จ
วันนี้ตลอดทั้งวัน
อิลฮุนมีเรื่องให้ต้องหัวเสียตลอดเวลา เพราะหลังจากเมื่อคืนที่เขาขึ้นไปเต้นยั่วยวนบนเวที
ก็มีบรรดาผู้ชายมาคอยตามตื้อ ร่วมถึงตอนนี้ก็ด้วย ที่หน้าเคาเตอร์มีแต่ชายหนุ่ม
แสร้งทำเป็นสั่งนู้นสั่งนี้ แต่สุดท้ายก็ลงเอ่ยที่ไม่ขอเบอร์ ก็ติดต่อขอซื้อบริการ
เขาสะอิดสะเอียนคนพวกนี้ที่สุด เพราะมันทำให้เขานึกถึงผู้ชายคนนั้น
“ขอไวท์แก้วหนึ่งครับ”
ในขณะที่เขากำลังหันหลังอยู่
ก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยสั่งเครื่องดื่ม อิลฮุนพยักหน้ารับนิดนึงโดยที่ไม่ได้หันไปมอง
เขาหยิบขวดไวท์มารินใส่แก้วทรงสวย ก่อนจะยื่นให้กับลูกค้าที่สั่ง
โดยที่ยังไม่ได้มองหน้า
ลูกค้าคนนั้นยื่นมือออกมารับแก้วไวท์
แต่แทนที่จะจับแก้วไวท์ มือแกร่งกับจับมือของเขาแทน อิลฮุนตกใจจึงเงยหน้าขึ้นมอง
เขาพบว่าเป็นผู้ชายคนนั้นนั่นเอง
“นาย…”อิลฮุนขมวดคิ้วจ้องหน้า
“ฉันชื่อฮยอนชิก
นายนี้ความจำสั้นจังน่ะ ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันเมื่อคืนแท้ๆ”ฮยอนชิกบอกพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
รอยยิ้มที่ดูกวนประสาทในสายตาของอิลฮุน
“ทำไมฉันต้องจดจำนายด้วย
ปล่อย”อิลฮุนชักมือกลับ แต่อีกฝ่ายกลับจับไว้แน่น
“คืนนี้นายจะเต้นอีกไหม”ฮยอนชิกถามโดยไม่สนใจท่าทีไม่พอใจของอีกฝ่าย
“เกี่ยวอะไรกับนาย
ปล่อยมือฉันนะ”อิลฮุนว่า ก่อนจะสะบัดมือออกอย่างแรง
“ก็ถ้านายเต้น
ฉันจะได้ไปนั่งดูที่โต๊ะวีไอพีไงหละ แถมด้วยการถ่ายวีดีโอไว้ดูตอนที่…..”ฮยอนชิกลากเสียงเว้นคำพูด สายตาหื่นจ้องมองใบหน้าบาร์เทนเดอร์หนุ่ม
“ลามก!
นายมันทุเรศที่สุดเลย”อิลฮุนชี้หน้าด่าอีกฝ่าย
ใบหน้าโกรธจัด เพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะถ่ายวีดีโอตัวเองไว้เพราะเรื่องอย่างว่า
“ลามก?
ฉันลามกตรงไหน ก็แค่จะถ่ายวีดีโอไว้ดูตอนที่เซ็งๆต่างหาก
หรือว่านายคิดไปถึงไหนแล้ว”ฮยอนชิกแกล้งบอกอย่างขำๆ
ที่จริงเขาก็รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะคิดอะไร แต่ก็อยากแกล้งให้หน้าแตกเล่นๆ
อิลฮุนอ้าปากค้าง
ท่าทางอึกอัก ทั้งโกรธและอายคนตรงหน้า ที่แกล้งให้เขาคิดเลยเถิด
“ก
ก็ใครมันจะไปรู้เล่า ทำไมนายไม่พูดให้มันจบๆหละ”
ฮยอนชิกยักไหล่ยิ้มๆก่อนจะหยิบแก้วไวท์มากระดก
และในขณะนั้นก็มีหญิงสาวสุดเซ็กซี่สองนาง เดินเข้ามาประกบข้างเขา
ก่อนจะใช้สายตาเชิญชวน
ฮยอกชิกยกยิ้ม
เขาวางแก้วไวท์ลง ก่อนจะใช้แขนแกร่งโอบกอดเอวคอดของหญิงสาวทั้งสองไว้
เขาหันไปยักคิ้วให้บาร์เทนเดอร์หนุ่ม เหมือนกับจะอวดในเสน่ของตัวเอง
“ชิ
หล่อตายแหละ”อิลฮุนเมื่อเห็นอย่างนั้นก็เบ่ปากหมันไส้
หญิงสาวทั้งสองเมื่อเห็นว่าฝ่ายชายเล่นด้วย
ก็เริ่มที่จะนัวเนียลูบไล้ไปทั่ว โดยที่ฮยอนชิกก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาจงใจจะแกล้งคนตรงหน้า
อิลฮุนที่เห็นอย่างนั้นก็ชักเลือดขึ้นหน้า
ไม่คิดว่าผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิทของเจ้านายตัวเองจะทุเรศขนาดนี้
กล้าทำเรื่องแบบนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย แต่แล้วเรียวปากสวยก็ต้องยกยิ้มออกมา
เมื่อมีความคิดดีๆผุดขึ้นมาในหัว
ฮยอนชิกที่หันไปสนใจสองสาวที่กำลังนัวเนียเขาอยู่
เริ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวแปลกๆตรงหน้า
และเมื่อเขาหันหน้ากลับไปมองก็ต้องตาโตลุกวาว
เมื่อบาร์เทนเดอร์หนุ่มขึ้นไปยืนบนเค้าเตอร์
ในมือถือขวดผสมเหล้า เรียวปากสวยยกยิ้มอย่างยั่วยวน ก่อนจะกระพริบตาส่งวิ้งหนึ่งที
ทำให้บรรดาชายหนุ่มต่างรีบกรูกันมาห้อมล้อมหน้าเค้าเตอร์อย่างบ้าคลั่ง
ดีเจเปิดเพลงเหมือนเป็นใจ
รีบเปลี่ยนเป็นเพลงแดนซ์เร้าใจทันที
ร่างบางของบาร์เทนเดอร์หนุ่มเริ่มโย้กย้ายไปตามจังหวะเพลง
ในมือถือขวดผสมเหล้าเขย่าไปด้วย เล่นทำเอาหัวใจของบรรดาชายหนุ่มแทบละลาย
ฮยอกชิกปล่อยอ้อมแขนออกจากเอวคอดของสาวสวยทั้งสองทันที
สายตาลุกวาวมองร่างที่กำลังเต้นอยู่บนเค้าเตอร์ด้วยหัวใจที่เต้นแรง
สองสาวที่ถูกทอดทิ้ง
ชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ
ทั้งฮยอนชิกและบรรดาชายหนุ่มทุกคนที่ห้อมล้อมอยู่หน้าเค้าเตอร์
อิลฮุนเมื่อเห็นร่างสูงยอมปล่อยผู้หญิงแล้วหันมาสนใจตัวเองด้วยสายตาลุ่มหลง
ก็ต้องยกยิ้มอย่างสะใจ เพราะผู้หญิงคนไหน จะสู้ความเซ็กซี่ของเขาได้
อิลฮุนแกล้งนั่งคุกเข่าแล้วแหกขาต่อหน้าฮยอนชิก
ทำให้ฮยอนชิกแทบนั่งไม่อยู่กับที ก่อนที่เอวบางจะเวฟด้วยท่าทางเซ็กซี่ ยั่วยวน ทอดสายตาเชิญชวน
ฟันคมกัดลงบนเรียวปากสวย
ฮยอนชิกที่เหมือนกับกำลังถูกหยอกล้อ
เขาชักจะทนกับภาพตรงหน้าไม่ไหว อยากจะกระชากร่างนั้นเขามาขย้ำให้หนำใจไปเลย
บรรดาชายหนุ่มที่ห้อมล้อมอยู่หน้าเค้าเตอร์ต่างอิจฉาฮยอนชิก
ที่บาร์เทนเดอร์สุดเซ็กซี่ไปเต้นยั่วยวนอยู่ตรงหน้า
อิลฮุนเมื่อแกล้งอีกฝ่ายจนพอใจ
เขาก็เอาเหล้าที่ผสมเสร็จแล้ว เทใส่แก้วยื่นให้คนตรงหน้า
ฮยอนชิกรับแก้วเหล้ามาอย่างเต็มใจ
แต่จริงๆแล้วเขาอย่างได้บาร์เทนเดอร์หนุ่มมากกว่า
อิลฮุนยกยิ้มอย่างสะใจ
ก่อนจะกระโดดลงจากเค้าเตอร์ แล้วเดินหายไปจากตรงนั้น แต่ก่อนที่เขาจะไป
ก็ได้ส่งวิ้งให้บรรดาชายหนุ่มได้ส่งเสียงฮือฮา
ฮยอนชิกที่นิ่งค้างเหมือนโดนมนต์สะกด
กลับมารับรู้ความเป็นจริงอีกครั้ง ก่อนจะเห็นแก้วเหล้าในมือ เขาก็ต้องยกยิ้มออกมา
“ร้ายจริงนะ”เขาพูด ก่อนจะยกแก้วเหล้าในมือขึ้นจิบ
“รสชาติดีซะด้วย”
อึนกวังที่นั่งมองอยู่ไกลๆ
ยิ้มอย่างพอใจให้กับการแสดงของลูกจ้างของตัวเอง
ที่สามารถทำให้บรรยากาศในบาร์ครึกครื้นมากกว่าเดิม
“เพิ่งรู้นะว่าบาร์นายเป็นบาร์เกย์”จู่ๆเสียงหนึ่งก็พูดขึ้นข้างๆเขา
และเมื่อเขาหันไปมองก็ต้องยิ้มกว้างกว่าเดิม
“มินฮยอก
นายมาหาฉันหรอ”เขาถามอย่างกระดี๊กระด๊า
“อย่าหลงตัวเองหน่อยเลย
ฉันก็แค่เบื่อๆเลยแวะมา”มินฮยอกตอบ
แต่สายตากำลังมองหาใครบางคนอยู่
“แค่นั้นเองหรอ
ไม่เป็นไร ยังไงนายก็มา ฉันดีใจนะที่ได้เห็นหน้านายวันนี้”อึนกวังบอก
ก่อนจะจับมือของอีกคนขึ้นมาแนบอก
“นี่
วันนี้เด็กเสริฟนายไปไหน”มินฮยอกถามโดยที่ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายสักนิด
“หืม
เด็กเสริฟฉันก็ทำงานอยู่น่ะสิ นายถามทำไม อยากได้เครื่องดื่มหรอ
เดี๋ยวฉันไปสั่งให้”
“เปล่าๆ
ไม่ต้องเดี๋ยวฉันไปสั่งเอง”มินฮยอกว่า
ก่อนจะดึงมือออกจากอีกฝ่าย แล้วเดินออกไปทันที
“อ๊ะ
อ้าว มินฮยอกรอฉันด้วย”อึนกวังหน้าเหว่อ รีบเดินตามอีกคนไป
มินฮยอกหันซ้ายหันขวา
มองหาร่างสูงโปร่งของเด็กเสริฟที่เป็นรักแรกพบ
และแล้วเขาก็เจอว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ที่เค้าเตอร์เครื่องดื่ม
เขาจึงเดินตรงเข้าไปนั่งหน้าเค้าเตอร์ทันที และตามด้วยอึนกวังที่เข้ามานั่งข้างๆ
ยิ้มกว้างให้
“อ้าว
ซองแจแล้วอิลฮุนไปไหนหละ”อึนกวังถามลูกน้องตัวสูงของตัวเอง
เมื่อไม่เห็นคนที่ควรจะยืนทำหน้าที่อยู่ตรงนี้
“เออ…ไม่รู้สิครับ”ซองแจตอบยิ้มๆ
“ซองแจ…”
“ครับ”ซองแจขานรับ เมื่อบุคคลข้างๆเจ้านายเรียกชื่อของเขา
“อ๊ะ
ป เปล่า ไม่มีอะไร”มินฮยอกที่เผลอเรียกชื่ออีกฝ่ายบอกยิ้มๆ บอกตามตรงว่าตอนนี้หัวใจเขาเต้นรั่วแรงมาก
ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าว เมื่อเห็นร่างสูงตรงหน้ากำลังชงเครื่องดื่ม มือเรียวยาวที่จับแก้วเหล้า
ใบหน้าหล่อเหลา ตาเฉี่ยวคม ผมสีดำที่ปรกหน้าผาก ทำให้เขารู้สึกตกหลุมรัก
“นี้
มินฮยอกวันนี้นายทำอะไรบ้างหรอ”อึนกวังหันไปถามร่างเล็กข้างๆ
“เธออายุเท่าไหร่
ทำไมมาทำงานแบบนี้หละ”แต่มินฮยอกกลับถามร่างสูงของบาร์เทนเดอร์ชั่วคราวตรงหน้าแทน
เขาไม่ได้สนใจคนที่นั่งอยู่ข้างๆสักนิด
“เออ…ผมยังเรียนหนังสืออยู่ครับ เผอิญว่าผมอาศัยอยู่คนเดียว
แล้วไม่อยากรบกวนเรื่องค่าใช้จ่ายจากทางบ้านนัก เลยหางานทำนะครับ”ซองแจตอบอย่างเกรงๆ เพราะเห็นสีหน้าที่ดูไม่ดีของเจ้านาย
ที่ซึมๆเมื่ออีกฝ่ายไม่สนใจในคำถามของตัวเอง
“นายเก่งจังนะ
แล้วอยู่คนเดียวไม่ลำบากหรอ”มินฮยอกยังคงถามต่อ
โดยที่ไม่รู้สึกเลยว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆกำลังรู้สึกยังไง
“ไม่ครับ
ผมไม่ลำบากเลย เออ…ผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ อิลฮุนมาแล้ว”ซองแจรีบตัดบท ก่อนจะเดินจากไป เพราะขืนอยู่นานกว่านี้
มีหวังเขาอาจจะถูกไล่ออกได้ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้
ว่าเจ้านายตัวเองกำลังตามจีบคนข้างๆอยู่
มินฮยอกเมื่ออีกฝ่ายเดินจากไปก็มองตามด้วยสีหน้าเสียดาย
เขาอยากจะรู้จักให้มากกว่านี้แท้ๆ
อึนกวังที่คอยจ้องมองร่างเล็กข้างๆตลอด
เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำสีหน้าและอาการแบบนั้น
ก็เข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ายตกหลุมรักลูกน้องของเขาเข้าซะแล้ว
เขารู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ
รู้สึกเหมือนขอบตาร้อนผ่าว แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา
“นายอยากดื่มอะไรมั้ย
ฉันจะสั่งให้”เขาถามด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ
“ห๊ะ
อ อ่อ ขอเป็นพั้นหละกัน”มินฮยอกหันมาตอบ
สายตายังคงคอยมองตามร่างนั้น
อึนกวังได้แต่เก็บความรู้สึกบางอย่างไว้ข้างใน
แต่ก็อดไม่ได้ที่แววตาจะฉายความเจ็บปวดออกมาให้เห็น
………………..
…………………………….
………………………………………..
ฮยอนชิกเดินออกมานอกร้าน
ตอนแรกเขาคิดว่าจะเดินตามอิลฮุนไป เพื่ออีกฝ่ายจะยอมไปกับตัวเองคืนนี้
แต่แล้วเขากลับต้องไปซะแล้ว เพราะโทรศัพท์จากใครบางคน ที่ขอให้เขาไปหา
“เฮ้อ…เสียดายชะมัด”เขาหันกลับไปมองในบาร์อีกครั้ง
ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของตัวเอง
…….
……………….
ฮยอนชิกเดินเข้าไปในบาร์อีกที่หนึ่ง
ที่ๆเขาเคยมาบ่อยๆ แต่ตอนนี้เขาไปบาร์ของอึนกวังเพื่อนรักแทน
เขามองหาร่างของคนที่โทรมาหา ก่อนจะเจอว่ากำลังฟุบอยู่ที่โต๊ะ
ท่ามกลางเสียงดนตรีที่อึกทึกครึกโครม
“ชางซอบ
ชางซอบ…”เขาทั้งเรียกทั้งเขย่าตัว
แต่อีกคนกลับไม่รู้สึกอะไรเลย ยังคงฟุบอยู่กับโต๊ะ เหมือนกับว่าเมามากจนไม่ได้สติ
“ชางซอบ
ทำไมนายถึงดื่มนักขนาดนี้เนี้ย”เขาพูดเมื่ออีกฝ่ายยังคงไม่มีปฏิกิริยา
ก่อนจะชำเลืองไปเห็นแก้วบนโต๊ะ
“นี้มันน้ำส้มนิ
แล้วนายเมาได้ยังไงกันชางซอบ”เขาขมวดคิ้วสงสัยมองคนที่ยังฟุบอยู่กับโต๊ะ
ก่อนที่อีกฝ่ายจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยตาปลือๆ
“อ๊ะ
มาแล้วหรอฮยอนชิก”น้ำเสียงงัวเงียถาม
“นี้
นายดื่มน้ำส้มไม่ใช่หรอ แล้วทำไมถึงเมาไม่ได้สติอย่างนี้หละ”ฮยอนชิกถาม
“อ่อ
ใช่ฉันดื่มน้ำส้ม แต่ฉันไม่ได้เมาซะหน่อย แค่ง่วงนะ”ชางซอบตอบยิ้มๆ
“ห๊ะ
ง่วง? นายง่วงแล้วมาหลับตรงนี้เนี้บนะ”ฮยอนชิกทำตาโตถาม
“แหะๆ
ก็นายมาช้าอ่ะ ฉันรอนานเลยหลับไป”ชางซอบบอก
ฮยอนชิกทำสีหน้าเหนื่อยใจ
ไม่เข้าใจอีกฝ่ายเลยว่าทำไมถึงเป็นคนแปลกๆแบบนี้
“แล้วนายโทรเรียกฉันมาทำไม”ฮยอนชิกถามเข้าเรื่อง พร้อมกับนั่งลงตรงข้ามอีกฝ่าย
“ก็ไม่ได้เจอหน้านายตั้งหลายวัน
ฉันรู้สึกเหงาๆน่ะ”ชางซอบบอกสายตาดูเหงาหงอย
“ฉันบอกแล้วใช่ไหม
ว่าฉันไม่มีทางคิดกับนายแบบนั้น”
“ใช่
ฉันรู้ แต่แค่ขอให้ฉันได้เจอนายก็ยังดี”
ชางซอบพูด
สายตาลึกซึ้งมองคนตรงหน้า
“เฮ้อ…พอเถอะ ฉันจะไปส่งนายที่บ้านเอง”ฮยอนชิกตัดบท เขาคว้าแขนอีกฝ่าย
ก่อนจะลากออกไปด้วยกัน
หลังบาร์ปิด
ลูกจ้างทั้งสามคนที่มีสภาพเหนื่อยล้าจากงานคืนนี้
ยังต้องทำความสะอาดบาร์ก่อนกลับบ้าน
ซองแจและพีเนียลช่วยกันขนกล่องลังเครื่องดื่มไปเก็บที่ห้องเก็บของหลังจากเก็บกวาดเสร็จแล้ว
โดยที่อิลฮุนก็กำลังเช็ดทำความสะอาดอยู่ที่เคาร์เตอร์
พีเนียลยกกล่องลังของตัวเองเข้าไปวางแล้วเรียบร้อย
และกำลังจะไปขนกล่องลังใบอื่นต่อ แต่แล้ว…
“โอ้ยๆ
ไหล่ฉัน”จู่ๆซองแจก็ร้องออกมา พร้อมกับจับที่ไหล่ของตัวเอง
พีเนียลรีบหันกลับมาดูอีกฝ่าย
“ซองแจ
นายเป็นอะไรน่ะ”เขาถาม
“สงสัยจะยกของหนักน่ะ”ซองแจตอบ สีหน้าแสดงความเจ็บปวด
“งั้นเดี๋ยวฉันนวดให้นายนะ”พีเนียลบอก ก่อนจะดึงอีกคนให้นั่งลงบนกล่องเก็บของ
ทั้งๆที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตอบตกลงสักนิด จากนั้นเขาก็เข้าไปนั่งซ้อนที่ด้านหลัง
ก่อนจะเริ่มบีบนวดที่ไหล่ให้อีกฝ่าย
ซองแจที่ถูกดึงให้นั่งลงอย่างงงๆ
ก็ยอมให้อีกฝ่ายนวดให้ เพราะเขาก็ปวดจริงๆ แต่ในระหว่างที่อีกฝ่ายนวดให้อยู่นั้น เขาก็สัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆที่กำลังรดต้นคอ
รวมถึงกลิ่นหอมอ่อนๆของครีมอาบน้ำและชมพูที่เขาเคยได้กลิ่น
ทำให้เขานึกถึงตอนที่เจออีกฝ่ายในห้องน้ำ ร่างกายนวลเนียลที่มีหยดน้ำเกาะอยู่
ใบหน้าใสกับผมที่เปียกลู่ และริมฝีปากที่แดงกล่ำ
ยิ่งคิด
ซองแจก็ยิ่งรู้สึกว่าลมหายใจของเขาชักติดขัด ในกายชักรู้สึกรุ่มร้อน
เขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเอง ไม่ให้อีกฝ่ายรู้
แต่เป็นเพราะมือของอีกคนที่กำลังออกแรงบีบนวดที่ไหล่ของเขา การสัมผัสตัวเขาของอีกฝ่าย
ทำให้เลือดในกายเด็กหนุ่มอย่างเขาเดือดขึ้นมา และเมื่อระงับความต้องการในตัวไม่ไหว…
ซองแจจับมือบางที่กำลังบีบนวดที่ไหล่ของตัวเอง
“อ๊ะ
มีอะไรหรอซองแจ”พีเนียลเอียงคอถาม
ซองแจออกแรกกระชากให้อีกฝ่ายนอนลง
แล้วตัวเองก็คร่อมร่างนั้นไว้ เขาเริ่มหายใจถี่แรงขึ้น เพราะแรงอารมณ์ที่โหมขึ้นมา
พีเนียลที่ตกใจ
เบิกตากว้างจ้องมองหน้าของร่างสูง มือบางดันไหล่กว้างของอีกคนไว้
เมื่อซองแจทำท่าจะก้มลงมาหาเขา
“จ
จะทำอะไร”เขาถาม เสียงสั่น
“พีเนียล
ผมไม่ไหวแล้ว”ซองแจบอก สายตาลุกวาว จ้องมองแผ่นอกขาวของอีกฝ่ายที่โผล่พ้นเสื้อออกมา
ก่อนที่เขาจะจับข้อมือบางไว้ แล้วก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาว
“ย
อย่านะ ซองแจ…”พีเนียลพยายามดิ้นขัดขืน
แต่เขาก็ไม่สามารถจะสู้แรงอีกคนได้ เสื้อเชิ้ตตัวบางของเขา ถูกมือแกร่งกะชากขาด
ริมฝีปากร้อนก้มลงดูดเม้มที่แผ่นอกขาวของเขา
“อึก
อ้า…อย่า….”พีเนียลร้องห้าม
แต่แล้วเขาก็ถูกอีกฝ่ายปลุกปั้นแรงอารมณ์ขึ้นมา
มือบางจิกลงบนกลุ่มผมสีดำของอีกฝ่าย เพื่อระบายอารมณ์……
“ซองแจ
ซองแจๆ”เสียงเรียกชื่อร่างสูงดังขึ้นแว่วๆ
ก่อนที่ซองแจจะทันรู้สึกตัว
และแล้วเขาก็ค้นพบว่าตัวเองยังคงนั่งให้อีกฝ่ายนวดให้อยู่ที่เดิม
เหตุการณ์เมื่อกี้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง
“ซองแจ
นายหายปวดไหล่รึยัง”คนที่กำลังนวดให้อยู่ถาม
“ห
ห๊ะ อ อ่อ หายแล้ว ขอบใจมากนะ”ซองแจที่กำลังสับสนอยู่ ตอบ
ที่จมูกของเขามีเลือดกำเดาไหลออกมา
“อ๊ะ
ซองแจ นายมีเลือดกำเดา”พีเนียลบอกพร้อมกับทำสีหน้าตกใจ
ชี้ไปที่จมูกของอีกคน
“ห๊ะ
อ๊ะ เลือดกำเดาจริงๆด้วย”ซองแจใช้หลังมือปาดเลือดที่จมูกของตัวเอง
นี้สงสัยเป็นเพราะเมื้อกี้เขาคิดเรื่องลามกแน่ๆ เลือดกำเดาถึงได้ไหลออกมา
“นายเป็นอะไรมากมั้ย”พีเนียลถามอย่างเป็นห่วง
“อ่อ
ไม่เป็นไรมากหรอก สงัยอากาศจะร้อนน่ะ แหะๆ”ซองแจตอบพร้อมกับหัวเราะกลบเกลื่อน
“เราออกไปจากห้องนี้กันเถอะ”เขาบอกก่อนจะรีบร้อนลุกขึ้นแล้วเดินออกไป เพราะถ้าอยู่นานกว่านี้ กลัวว่าอีกฝ่ายจะจับได้ว่าเมื่อกี้เขากำลังจินตนาการ
ว่าตัวเองปล้ำอีกฝ่าย
พีเนียลเมื่อซองแจรีบร้อนเดินออกไปแล้ว
เขาก็ได้แต่ทำหน้างงๆ ก่อนจะเดินตามออกไป
*******
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น