ที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ เด็กน้อยตาคมกำลังแอบยืนอยู่หลังรั่ว
จ้องมองไปที่ครอบครัวที่กำลังหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
ผู้เป็นพ่อโยนลูกชายตัวน้อยขึ้นกลางอากาศก่อนจะรับไว้
เด็กน้อยในอ้อนแขนหัวเราะร่าอย่างสนุกสนาน โดยมีผู้เป็นแม่ยืนดูยิ้มๆ
ช่างเป็นครอบครัวที่มีความสุขเหลือเกิน
“คนพวกนั้นคือตระกูลสายลม”เสียงชายแก่เอ่ยขึ้นที่ด้านหลัง
เด็กน้อยตาคมยังคงจ้องมองสามพ่อแม่ลูก ตระกูลที่ทำลายตระกูลของเขาตระกูลไฟ!
“คนพวกนั้นทำลายครอบครัวของฉันจริงๆหรอ...”เด็กน้อยตาคมเอ่ยถามชายแก่ผู้ที่คอยเลี้ยงดูตัวเองแทนพ่อแม่ที่จากไป
สายตาที่เศร้าสร้อยจ้องมองเด็กน้อยอีกคนที่กำลังวิ่งเล่น
“ใช่ครับคุณหนูยงกุก
คนพวกนั้นจะต้องชดใช้ให้แก่ครอบครัวและตระกูลของคุณหนูครับ”ชายแก่บอกอย่างเจ็บแค้นและส่งความเจ็บแค้นนี้ให้แก่คุณหนูของเขา
“โอ้ย!”จู่ๆเสียงเล็กก็ร้องขึ้นใกล้ๆกับที่พวกเขาแอบยืนอยู่
เด็กน้อยบังยงกุกรีบหันมองหาที่มาของเสียง เป็นเด็กน้อยอีกคนที่เมื่อกี้กำลังวิ่งเล่นอยู่นั้นเอง
ทำไมมาหกล้มอยู่ตรงนี้นะ เขาจ้องมองอย่างสงสัย
“ฮึก เจ็บอ่า... ฮิมชานเจ็บอ่า...ฮือ....”เด็กน้อยร้องไห้ออกมา
ใบหน้าขาวใสน่ารักแบะปากร้องไห้โยเย เด็กน้อยยงกุกไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี เขาอยากเข้าไปช่วยแต่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นศัตรู
เขากำมัดแน่นหันหลังเตรียมจะเดินจากไป...
“ฮือ...มีเลือดด้วยอ่า...ใครก็ได้ช่วยฮิมชานด้วย... ฮึก ฮือ....”เด็กน้อยที่หกล้มร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม
นั่งจ้องมองแผลที่หัวเข่าอย่างหวาดกลัว เด็กน้อยยงกุกตัดสินใจหันหน้ากลับมา
เขากระโดดปีนข้ามรั่วบ้านเข้าไป
“อ๊ะ! คุณหนูครับ”เสียงชายแก่ร้องห้ามแต่ไม่ทันแล้วเด็กน้อยยงกุกปีนข้ามไปแล้ว
“นี่ จะร้องไห้ทำไมแผลแค่นั้น ทำตัวเป็นเด็กผู้หญิงไปได้”เด็กน้อยยงกุกบอกสายตามองอย่างเหยียดๆ
เด็กน้อยฮิมชานเงยหน้ามองด้วยน้ำตาแปลกใจว่าอีกคนนั้นเป็นใครกัน
“ฮึก ก็มันเจ็บอ่า...”เด็กน้อยฮิมชานแบะปากบอก
เด็กน้อยยงกุกจึงก้มลงดูแผลให้
เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อออกมาก่อนจะพันแผลให้
เด็กน้อยฮิมชานหยุดร้องแล้วมองการกระทำของอีกคนอย่างงงๆ
“นายทำอะไรน่ะ”เสียงเล็กเอ่ยถาม
“นายโง่รึไง ก็พันแผลให้นะสิ ไหนนายลองยืนขึ้นสิ”เด็กน้อยยงกุกเอ่ยสั่ง
เด็กน้อยฮิมชานก็ทำตามอย่างว่าง่าย แต่พอยืนขึ้นก็ต้องล้มลงไปนั่งอีกครั้ง
“ฮึก ฮือ...เจ็บอ่า...”เด็กน้อยฮิมชานร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
ใบหน้าน่ารักๆที่ร้องไห้งอแง จมูกเล็กๆที่แดงแจ๋ทำให้เด็กน้อยยงกุกต้องชะงัก
เขารู้สึกว่าเด็กน้อยตรงหน้าช่างดึงดูดสายตาของเขาน่า
แต่แล้วก็ต้องสะบัดหัวไล่ความคิด
เพราะอีกฝ่ายนั้นเป็นเด็กผู้ชายแถมยังเป็นศัตรูอีกด้วย
“หึย! ฉันจะช่วยนายแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ”เด็กน้อยยงกุกว่าก่อนจะช้อนตัวเด็กน้อยฮิมชานขึ้นมา เด็กน้อยฮิมชานหยุดร้องทันที
ดวงตาแป๋วจ้องมองอีกคน เด็กน้อยยงกุกอุ้มร่างที่เล็กกว่าตนเดินไปที่คฤหาสน์.....
*********
[Kim Him Chan]
ผมสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา
เมื่อกี้นี้ผมฝันไป มันเป็นฝันที่เป็นความทรงจำในวัยเด็กของผมเอง
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงฝันถึงเรื่องที่แทบจำไม่ได้แล้ว ผมมองไปรอบๆที่นี้คือห้องนอนแต่ไม่ใช่ห้องเดิม
เสื้อผ้าก็ถูกเปลี่ยนแล้ว ผมรู้สึกปวดหัวจัง
“แกร๊ก...”เสียงประตูเปิดออก ผมหันไปมองก็ต้องแปลกใจ เพราะคนที่เดินเข้ามาคือจีโอ...
“ตื่นแล้วหรอครับ
ผมเอาโจ๊กมาให้ คุณไม่สบายหลับไปตั้งหนึ่งวันเต็มๆ”จีโอบอกพร้อมกับยกถาดที่มีชามโจ๊กกลิ่นหอมฉุยมาไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
ผมไม่แปลกใจเลยที่ตัวเองจะไม่สบาย
ก็ตอนนั้นผมเปียกไปทั้งตัวแถมยังโดนไอ้ยงกุกทำแบบนั้นอีก
ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นโดยมีจีโอคอยช่วยพยุง
รู้สึกปวดร้าวที่ช่วงล่างไปหมด พอนั่งพิงหัวเตียงได้แล้วจีโอก็เอามือมาทาบที่หน้าผากของผม
ผมรู้สึกขัดเขินยังไงไม่รู้สิที่จีโอทำแบบนั้น
“ไข้ลดแล้วนะครับ
เดี๋ยวทานโจ๊กแล้วทานยาด้วยนะครับ”จีโอบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
อ่อนโยนจนผมอดเปรียบเทียบเขากับใครอีกคนไม่ได้ ทำไมไม่เป็นจีโอนะที่จับตัวผมมา ถ้าเป็นจีโอคงไม่ทำร้ายผมแบบนี้ใช่ไหม...
“ขอบคุณนะ
แต่ทำไมนายถึงมาเองหละ แล้วฮยอนอาไปไหนหรอ...”ผมเอ่ยถามเสียงของผมแหบแห้ง
ปกติต้องเป็นฮยอนอาที่เข้าออกห้องผมนอกจากไอ้ยงกุก แต่ทำไมวันนี้เป็นจีโอกัน
“ฮยอนอาไม่ว่างครับ
ผมเลยเอามาให้แทน คุณยังปวดหัวอยู่ไหมครับ”ไม่ว่างงั้นหรอ?
ผมพยักหน้ารับ
“ยังปวดอยู่นิดหน่อย
แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ห้องนี้หละ”ผมตอบก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง
ผมมองไปรอบห้อง ห้องนี้ไม่ได้ต่างจากห้องเดิมเท่าไหร่ แต่เล็กลงมานิดนึง
ไม่มีระเบียง หน้าต่างติดกรงเหล็กอย่างแน่นหนา จริงๆไม่ต้องถามผมก็หน้าจะรู้ดี
เอาไว้ขังผมสินะ.... ผมหันไปมองหน้าจีโอ เขาทำเพียงแค่ยิ้มนิดๆให้ผมเท่านั้น
“นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันจีโอ...
ฉันไปทำอะไรให้เจ้านายของนายกัน ถ้าฉันถูกจับมาแล้วรู้สาเหตุซักนิดฉันจะไม่ต่อต้านเลย
แต่ฉันกลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรผิด...”จีโอทำเพียงแค่นั่งรับฟังสิ่งที่ผมพูดเงียบๆ
ยิ่งพูดผมก็ยิ่งอยากร้องไห้
สิ่งที่ผมรู้เพียงอย่างเดียวคือตระกูลของผมกำลังตกอยู่ในความไม่ปลอดภัย
ผมไม่สามารถจะทำอะไรได้เลยในฐานะผู้นำคนต่อไปของตระกูลเพราะถูกขังอยู่ที่นี้...
สร้อยคอรูปสายลมที่คอ ผมกำมันไว้แน่น อยากกลับบ้านจัง ถึงมันจะต้องพังพินาศผมก็ยังอยากจะกลับไปอยู่ดี
“อย่าเพิ่งคิดอะไรเลยครับ
คุณกินโจ๊กก่อนเถอะนะ เดี๋ยวมันจะหายร้อนแล้วไม่อร่อย”จีโอบอกยิ้มๆก่อนจะหยิบชามโจ๊กขึ้นมา
ผมรับไว้ก่อนจะยิ้มตอบ อย่างน้อยที่นี้ก็ยังมีคนที่ทำดีกับผมบ้าง....
**********
[Yoo Young Jae]
ตอนนี้ผมกำลังเดินเล่นอยู่แถวทงแดมุน
ทั้งๆที่จริงแล้วผมจะต้องเข้าไปที่บริษัทของพ่อเพื่อเรียนรู้งาน
เห็นผมอย่างงี้แต่ผมก็ทำงานนะจะบอกให้ แต่ผมก็ถูกไอ้เซโล่ลากมาที่นี้
“ไอ้เซโล่...
กูถามมึงจริงๆเหอะ มึงไม่มีงานไม่มีการทำรึไงว่ะ เป็นถึงผู้นำตระกูลแล้วแท้ๆ
วันๆเห็นเอาแต่ลากกูไปนู้นไปนี้...”ผมเอ่ยถามไอ้ร่างสูงที่เดินนำหน้าจูงมือผมอยู่
มันหันกลับมามองผมนิดนึงแต่ก็ยังไม่หยุดเดิน นี้มันจะเดินไปไหนของแม่งว่ะ
“ก็มีอ่ะ
แต่ทำตอนกลางคืน...”มันตอบก่อนจะมองซ้ายมองขวา
แล้วนี้มันมองหาอะไรอีกหละเนี้ย....
“ห๊ะ ทำกลางคืน
งานอะไรว่ะต้องทำตอนกลางคืน ตระกูลมึงจับกบขายหรอว่ะ”ผมพูดอย่างติดตลก
แต่แล้วจู่ๆไอ้เซโล่ก็หยุดเดิน
มันหยุดเดินกะทันหันจนผมที่เดินตามหลังหน้ากระแทกเข้าแผ่นหลังของมันเต็มๆ
“โอ้ย! เจ็บนะเว้ย... มึงจะหยุดเดินแล้วทำไมไม่บอกว่ะ”ผมว่ามัน
“เจอแล้ว...
กูเจอแล้ว... ไปเร็วไอ้ยองแจ...”ผมมึนงงว่ามันพูดถึงอะไรกัน
มันยิ้มแก้มแทบปริอย่างดีใจ ก่อนจะลากผมไปทันที
“เฮ้ย... เดี๋ยว...
ไอ้เซโล่... มึงจะลากกูไปหนายยยยย....”
ไอ้เซโล่มันลากผมไปโดยไม่ฟังเสียงร้องของผมที่อยู่ข้างหลังเลย
ผมที่โดนลากก็ชนคนนู้นคนนี้ไปทั่ว จนในที่สุดมันก็ลากผมเข้ามาในร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่ง
ผมขมวดคิ้วมุ่น ตกลงที่มันลากผมมาด้วยความเร็วแสง ก็แค่จะมาซื้อเสื้อผ้างั้นหรอ....
“ไอ้เซโล่...
กูรู้ว่ามึงชอบแฟชั่นนะ แต่มึงไม่เห็นต้องรีบขนาดนี้เลย ร้านแม่งไปบินหนีมึงหรอก”ผมบอก มันหันมายิ้มให้ผม เออดีเนอะผมหลอกด่ามันแต่มันดันยิ้มกลับมาให้แทน มันเดินตรงเข้าไปหาพนักงานทั้งๆที่ยังจูงมือผมอยู่
“สวัสดีค่ะ
ต้องการเสื้อผ้าแบบไหนค่ะ”พนักงานสาวเอ่ยถาม
“ผมอยากได้เสื้อคู่ครับ
ใส่คู่กับแฟนผมคนนี้ครับ”ผมเบิกตากว้างจ้องหน้าไอ้เซโล่
มันยิ้มกว้างพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ผมให้พนักงานดู พนักงานสาวยิ้มหวานให้
“งั้นเชิญทางนี้ค่ะ”ไอ้เซโล่จูงมือผมเดินตามหลังพนักงานไป ในขณะที่ผมยังอึ้งไม่หาย ตกลงว่าไอ้ที่มันมองหาอยู่นานคือเสื้อคู่รักงั้นหรอ....
…….
…………..
…………………
ผมเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้าด้วยอาการขัดเขินไปตลอดทาง
ไอ้เซโล่พาผมมานั่งในร้านไอศกรีม ผมพยายามก้มหน้ามองมือตัวเอง
ไม่สนใจสายตาของคนรอบข้าง
“ไอ้เซโล่...
ทำไมต้องให้กูใส่ด้วยว่ะ กูอายคนอื่นเขานะเว้ย”ผมบอก
เพราะตอนนี้มันกับผมกำลังใส่เสื้อคู่รักคู่กันอยู่
หลังจากที่มันบังคับให้ผมใส่อยู่นาน ซึ่งผมก็ตัดรำคาญด้วยการยอมใส่
มันเป็นเสื้อคู่รักสีขาวที่สกรีนลายสีชมพู
ผมจะไม่อายเลยถ้าที่เสื้อไอ้เซโล่ไม่เขียนว่า ‘สามี’ แล้วที่เสื้อผมเขียนว่า ‘ภรรยา’ แล้วดูสายตาของคนอื่นที่มองผมกับไอ้เซโล่สิ
จ้องมองมาแล้วทำท่าเขินอาย ถ้าเป็นผู้หญิงกับผู้ชายก็คงไม่แปลก
แต่นี้ผมกับไอ้เซโล่ดันเป็นผู้ชายทั้งคู่
“ก็กูอยากให้คนอื่นรู้ว่ากูกับมึงเป็นอะไรกัน”มันตอบพร้อมกับยิ้มร่า ใช่มันยิ้มแต่ผมนี้สิยิ้มไม่ออก
ผมทนอยู่ท่ามกลางสายตาของคนอื่นไม่ไหวแล้ว ผมจึงลุกขึ้นยืน
“มึงจะไปไหน...”ไอ้เซโล่ถามขึ้น ผมเหลือบมองผู้คนนิดนึงก่อนจะหันไปตอบมัน
“กูจะไปห้องน้ำ”ผมบอกก่อนจะรีบร้อนเดินจากไป ไอ้เซโล่มองตามผมยิ้มๆ
นี้มันสนุกมากมั้ยเนี้ยที่แกล้งให้ผมอายได้
ผมเดินตรงไปทางห้องน้ำ
แต่เพราะว่าก้มหน้าเดินจึงทำให้ผมมองไม่เห็นคนที่เดินสวนมา
ผมจึงชนกับเขาเข้าอย่างจัง
“ปึก! โอ้ย!”ผมล้มลงไปกับพื้น
ก่อนจะต้องเอามือลูบก้นตัวเองที่กระแทก เจ็บฉิบ... ใครกันว่ะที่เดินไม่หลบคนไม่มองทางอย่างผม...
“เป็นอะไรมากมั้ยครับ
เดี๋ยวผมช่วยนะ”เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกอย่างเป็นห่วงก่อนจะยื่นมือมาให้
ผมจับมือหนานั้นไว้ก่อนจะดึงตัวเองให้ยืนขึ้น
“เป็นอะไรมากมั้ยครับ”เสียงนั้นถามผมอีกครั้ง ผมที่กำลังจะอ้าปากด่า
แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องอ้าปากค้างแทน หล่อ... บอกได้คำเดียวว่าหัวใจผมเต้นรั่ว
อาการเจ้าชู้ของผมกำเริบอีกแล้วสิ
“จ...เจ็บครับ
เจ็บก้น เจ็บขา เจ็บแขน เจ็บไปหมดเลย...”ผมโกหกออกไปอย่างไม่รู้ตัว
สายตาจดจ่อแต่ใบหน้าหล่อเหลานั้น อีกฝ่ายมีสีหน้าเป็นห่วง
“งั้นผมจะพาคุณไปโรงพยาบาลนะครับ”เขาบอกก่อนจะเข้ามาพยุงตัวผม ผมรีบดันตัวออกห้ามเอาไว้
“อ เออ...ไม่ต้องครับ
ผมหายแล้ว”เขาทำสีหน้างงๆมองหน้าผม
ก็ขืนผมไปโรงพยาบาลแล้วพบว่าผมไม่ได้เป็นอะไรเลยก็แย่นะสิ ผมยกยิ้มนิดๆให้เขา
“แล้วคุณชื่ออะไรหรอครับ”อันนี้ผมไม่ได้ถามนะ อีกฝ่ายเป็นคนถามเองต่างหาก ซึ่งผมก็เต็มใจตอบ...
“ยองแจครับ ยู ยองแจ”
“ครับยองแจ
ผมชื่อแจบอมนะครับ ผมขอเบอร์โทรคุณไว้ได้ไหม ผมจะได้โทรไปถามอาการของคุณ
ถ้าเกิดเป็นอะไรมากผมจะได้รับผิดชอบได้”อึ้งครับ
ผมถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรุกเข้ามาเอง
ผมไม่ได้โง่นะที่ฟังไม่ออกว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของประโยคนี้คืออะไร
ผมมีสีหน้ากังวล
เมื่อนึกถึงไอ้เซโล่ที่นั่งรออยู่ข้างนอก ผมสมควรแล้วหรอที่จะนอกใจมัน เพราะฉะนั้นผมก็ควรจะตอบออกไปว่า..........
“ครับ^^”
[Zelo]
ผมกำลังนั่งตักไอ้ศครีมเข้าปากอย่างอารมณ์ดี
วันนี้ผมมีความสุขที่สุด หลายอย่างที่ผมอยากทำกับไอ้ยองแจมานานก็ได้ทำซักที
ผมอยากประกาศออกไปให้ทุกคนรู้ว่าผมกับมันนั้นเป็นแฟนกัน
และยิ่งเห็นใบหน้าอายๆของมันผมก็ยิ่งมีความสุข
มันไม่รู้ตัวหรอกว่าเวลามันอายนั้นน่ารักขนาดไหน....
“ขอโทษค่ะ
ฉันชื่อจีฮยอน คุณมาคนเดียวหรอค่ะ”จู่ๆผู้หญิงคนหนึ่งก็เข้ามาแนะนำตัวกับผม
ผมดูออกว่าเธอคิดอะไร คิดจะจีบผมหละสิ ผมฉีกยิ้มกว้างให้เธอ
เธอก็ยิ้มหวานตอบกลับมา
“เปล่าครับป้า
ผมมากับแฟน...”ผมเน้นตรงคำว่าป้าให้เธอฟัง เธอหุบยิ้มลงทันที
ก่อนจะทำหน้าเหมือนอยากจะปรี๊ดแตก และแล้วเธอก็ปรี๊ดแตกจริงๆ
“กรี๊ดดด....
ไอ้เด็กบ้า! แกกล้าเรียกฉันป้าหรอ...
เห็นน่ารักหรอกนะเลยเข้ามาทักก่อน อยากรู้จริงๆว่าแฟนแกจะสวยสู้ฉันได้ไหม กรี๊ดดดด...”ผมอุดหูหนีเสียงแปดหลอดของป้าแก เธอกรี๊ดเสียงวี้ดๆอยู่ซักพักเพื่อนๆของเธอก็มาลากเธอออกไป
ผมละค่อยสบายหูหน่อย เบื่อจริงๆผู้หญิงสมัยนี้ชอบเข้าหาผู้ชายก่อน....
ผมจ้องมองไปทางห้องน้ำ
ทำไมไอ้ยองแจมันยังไม่ออกมาซักที... แล้วสาเหตุที่ผมไม่สนใจผู้หญิงคนนั้น
ก็เป็นเพราะไอ้คนที่ไปเข้าห้องน้ำตั้งนานแล้วนี้แหละ
ผมไม่คิดจะมองใครนอกจากไอ้ยองแจคนเดียว ผมรักมันจริงๆ และที่สำคัญผมจะนอกใจเมียผมได้ไงกันหละ
ผ่านไปซักพักไอ้ยองแจก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
แต่ดูสีหน้ามันจะร่าเริงขึ้นแหะ
มันกลับมานั่งที่โต๊ะก่อนจะตักไอศกรีมที่ละลายแล้วเข้าปากพร้อมกับอมยิ้มนิดๆ
นี้มันไปทำอะไรมาถึงอารมณ์ดีได้ขนาดนี้หละเนี้ย....
“ทำไมมึงไปนานจังว่ะ”ผมถามใบหน้าขมวดคิ้วนิดๆมองหน้ามัน
“กูปวดท้องน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”มันตอบ ผมหรี่ตามองมัน แต่ก็คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง
ผมจึงเปลี่ยนมาจ้องมองมันกินไอศกรีมแทน ทำไมไอ้ยองแจถึงทำให้ผมหลงได้ขนาดนี้นะ
ผมสาบานเลยว่าจะรักมันแค่คนเดียว....
********
[Jung Dae Hyun]
“ก๊อกๆๆ”เสียงเคาะประตูห้องทำงานผมดังขึ้น
“เข้ามาครับ”ผมที่กำลังนั่งดูเอกสารมากมายบนโต๊ะขานบอก คนที่อยู่ด้านนอกจึงเดินเข้ามา
“แดฮยอนลูก...ทำงานอยู่หรอ...”เป็นพ่อกับแม่ผมนั้นเอง
“ครับ”ผมตอบรับทั้งๆที่ยังก้มหน้าดูเอกสารอยู่
“เฮ้อ...ลูกเรานี้ดีจริงๆเลย
ขยันทำงานสร้างชื่อเสียงให้ตระกูลของเรา อีกไม่นานตระกูลของเราก็คงขึ้นเป็นใหญ่ที่สุด”แม่ของผมพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจกับพ่อ
ซึ่งเป็นคำพูดที่ผมมักได้ยินบ่อยๆเสมอๆ
“ใช่คุณ
ลูกเรานะมีความสามารถ อีกไม่นานตระกูลเราต้องขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน”
“ปึ้ง!”ผมตบโต๊ะเสียงดัง พ่อกับแม่หันมามองผม
“พอเถอะครับ
ถ้าพ่อกับแม่ไม่มีอะไรก็ช่วยออกไปได้ไหมครับ ผมจะทำงานต่อ...”ผมบอกอย่างหัวเสีย พ่อกับแม่ยกยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้ามาหาผมแทน
แม่เดินมาด้านหลังเอามือวางบนบ่าของผม
“แดฮยอน...แม่รู้ว่าลูกตั้งใจทำงาน
แม่กับพ่อก็ภูมิใจในตัวลูกมากเลยนะ
แต่แม่กับพ่อแค่หวังว่าซักวันตระกูลเราจะได้ขึ้นเป็นใหญ่เหนือตระกูลสายลม
ลูกทำได้ใช่ไหมจ๊ะ”เสียงหวานของแม่เอ่ยบอก
คำพูดคล้ายเหมือนเป็นคำสั่ง ผมหลับตาลงรู้สึกเหนื่อยกับความกดดันนี้
“ครับ”ผมตอบรับออกไปก่อนจะลืมตาขึ้น
“ดีมากลูก
ลูกเป็นผู้นำตระกูลที่มีความสามารถมาก แม่กับพ่อเชื่อว่าลูกทำได้”แม่ปล่อยมือจากบ่าผม ก่อนที่พ่อกับแม่จะพากันเดินออกไป
“เดี๋ยวครับ...”ผมเอ่ยรั้งไว้ ผมมีบางอย่างอยากจะพูดกับพ่อกับแม่ ท่านทั้งคู่หันมามองผม
“มีอะไรหรอจ๊ะแดฮยอน...”
“คือผม...ผมอยากจะขอยกเลิกการหมั้นกับตระกูลหิมะ”ผมตัดสินใจพูดออกไป สีหน้าของพ่อและแม่ดูเปลี่ยนไปนิดนึงแต่ก็รักษารอยยิ้มไว้
“ไม่ได้หรอกลูก...”
“ทำไมครับ”ผมลุกขึ้นยืนจ้องมองผู้เป็นพ่อกับแม่
“แดฮยอน...ปกติลูกไม่เคยย้อนถามคำถามแบบนี้ไม่ใช่หรอ
ลูกดูเปลี่ยนไปนะ แต่แม่จะบอกให้ก็ได้”ผมก้มหน้าลงมองพื้น
รอฟังคำตอบจากแม่
“ตระกูลหิมะกำลังจะล้มละลาย
ลูกก็รู้ใช่ไหม แต่ตระกูลนั้นดันมีที่ดินที่อยู่ทางตอนเหนือและตอนใต้ที่เป็นเขตหนาว
ที่นั้นมีถ้ำอัญมณีมากมาย ถ้าตระกูลของเราได้มาไว้ครอบครองคงจะดีหน้าดู
เพราะฉะนั้นหมั้นแล้วแต่งงานกับตระกูลนั้นซะ”
พูดจบพ่อกับแม่ก็เดินออกไปจากห้อง
นี้ผมเป็นผู้นำตระกูลที่ไม่สามารถจะทำอะไรได้เลยงั้นหรอ
แม้แต่การตัดสินใจเรื่องหัวใจตัวเองก็ยังทำไม่ได้
“จงออบ
พี่จะทำยังไงดี....”
********
[Moon Jong Up]
ผมนั่งอยู่ริมขอบหน้าต่าง
วันนี้ไม่มีหิมะตกลงมา
ในมือของผมถือผ้าพันคอผืนหนาที่แอบซื้อตอนพี่แดฮยอนพาไปห้างครั้งล่าสุด คิดไว้ว่าจะให้พี่แดฮยอนเป็นของขวัญ
มันคงจะอบอุ่นน่าดู ผมยกผ้าผันคอขึ้นกอด
“ก๊อกๆๆ จงออบ...นี่พี่เองนะ
เข้าไปได้ไหมจ๊ะ”เสียงพี่จียอนพูดอยู่หน้าประตูห้อง
ผมเก็บผ้าพันคอก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ พี่จียอนยิ้มกว้างให้ก่อนจะเดินเข้ามา
“ทำอะไรอยู่
ช่วงนี้ไม่เห็นไปอ้อนพี่เลย...”ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา พี่จียอนเดินมานั่งข้างๆผม
“อ่อ...
ช่วงนี้ผมใกล้สอบนะครับ เลยต้องอ่านหนังสือ พี่จียอนมีอะไรรึเปล่าครับ”ผมแสร้งโกหกออกไป
จริงๆแล้วผมไม่อยากเจอหน้าพี่จียอนต่างหากเพราะมันทำให้ผมรู้สึกผิด
“ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ
พี่แค่อยากมาหาจงออบเฉยๆ”พี่จียอนบอกแต่สีหน้าดูเศร้าๆผิดปกติ
ผมยื่นมือออกไปจับมือพี่จียอนไว้ พี่จียอนบีบมือผมกลับมา
“จงออบ...”
“ครับ...”
“พี่ว่าพี่เริ่มชอบพี่แดฮยอนแล้วหละ”ผมนิ่งอึ้ง จ้องมองใบหน้าหวานของพี่จียอน ดวงตากลมโตนั้นสั่นระริก
ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดที่อกข้างซ้าย
“ร...หรอครับ
ก็ดีแล้วนิครับ”ผมแสร้งบอกเสียงสั่น พยายามแกล้งฝืนยิ้มออกมา
แต่ก็ยิ้มไม่ออก รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมาแทน
“จงออบ...มันฟังดูไม่แปลกใช่ไหม
พี่กำลังจะหมั้นอยู่แล้วแต่ดันเพิ่งรู้สึกชอบคู่หมั้นของตัวเอง”พี่จียอนบอกใบหน้าเขินอาย ผมเห็นท่าทางแบบนั้นของพี่จียอนความรู้สึกผิดก็เอ่อล้นขึ้นมาเต็มหัวใจ
นี้ผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมชักมือกลับจากมือของพี่จียอน
“ไม่แปลกหรอกครับ...
พี่จียอนผมจะอ่านหนังสือต่อแล้วครับ”ผมบอก
“อ่อ...จ๊ะ
งั้นพี่ไปก่อนนะ พี่แค่อยากมาบอกจงออบเฉยๆ เพราะยังไงจงออบก็เป็นน้องคนเดียวของพี่
พี่รักจงออบนะ”พี่จียอนยกมือขึ้นลูบหัวผม
ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
เมื่อเสียงประตูห้องถูกปิดลง
น้ำตาที่พยายามกลั่นไว้ก็ไหลออกมาทันที ผมจะทำยังไงดี...จะทำยังไงดี... พี่จียอนรักพี่แดฮยอนซะแล้ว.....
น้ำตาของผมไหลอาบใบหน้า
ทั้งรู้สึกผิดทั้งเจ็บปวด ผมหยิบผ้าพันคอออกมากอดไว้ ก่อนจะจ้องมองมันด้วยความเจ็บปวด
“พี่แดฮยอน...ผมจะทำยังไงดี...”
[Ji-yeon]
ฉันได้แต่ยืนฟังเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของจงออบอยู่หน้าประตูห้อง
ฉันรู้ดีว่าจงออบกับว่าที่คู่หมั้นของฉันรู้สึกยังไงต่อกัน และตอนนี้ทั้งคู่ก็กำลังแอบคบกันอยู่ด้วย
ความจริงฉันไม่ได้รักพี่แดฮยอนอย่างที่โกหกจงออบออกไป
ฉันไม่ได้อยากทำร้ายความรักของพวกเขาเลย เพราะความรักของทั้งคู่เป็นความรักที่งดงามและบริสุทธิ์
แต่ฉันต้องทำ....
ฉันไม่สามารถจะยกเลิกการหมั้นได้
การหมั้นจะช่วยตระกูลของเราไว้ ฉันจะต้องหมั้นและแต่งงานเพื่อช่วยตระกูลของเรา
และที่ฉันต้องทำแบบนี้ก็เพื่อให้จงออบตัดใจ เพราะยังไงวันที่ฉันและพี่แดฮยอนต้องแต่งงานกันก็ต้องมาถึง
และถ้าถึงวันนั้น คนที่จะเสียใจมากที่สุดก็คือจงออบ....
“จงออบ...
พี่ขอโทษ...”
*********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น