วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

B.a.p : Dark Love ความรักสีดำ Chapter 7

ณ ตึกสำนักงานว่าการของรัฐที่มีรูปทรงคล้ายวังโบราณทางยุโรป ตกแต่งด้วยศิลปะเก่าแก่แต่ดูทรงอำนาจตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง เป็นที่ทำงานของรัฐบาลและนักการเมือง
รถยนต์สีดำมันวาวขับเข้ามาจอดที่ลานด้านหน้า คนขับรีบลงมาเปิดประตูรถให้ผู้เป็นนาย ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะก้าวลงมาและตามด้วยผู้ติดตาม เขาเงยหน้าขึ้นมองตึกสำนักงานตรงหน้าด้วยใบหน้าตึงเครียด ก่อนจะก้าวเดินขึ้นบันไดหินอ่อนสู่ภายในตึกสำนักงานแห่งนี้
เขาและผู้ติดตามเดินเข้ามาภายในตึกสำนักงาน ผู้คนที่พบเห็นต่างก้มหัวโค้งให้ เขาพยักหน้ารับก่อนจะเดินต่อไป จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าห้องที่มีป้ายด้านหน้าเขียนไว้ว่า ห้องนายกรัฐมนตรี
ผู้ติดตามเข้าไปเคาะประตูให้ จนเมื่อเสียงของคนด้านในเอ่ยอนุญาต เขาจึงเดินเข้าไปทันที
สวัสดีครับคุณ คิม ซูโรคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานเป็นฝ่ายเอ่ยทักก่อน คนที่ถูกเรียกว่าคิมซูโรก้มโค้งให้นิดนึงอย่างเป็นมารยาท
เชิญนั่งครับนายกบอกก่อนจะผายมือไปยังเก้าอี้ด้านหน้า ชายที่มีนามว่าคิมซูโรยกยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงตามคำเชิญ
ท่านนายกเรียกผมมาที่นี้มีเรื่องอะไรครับคิมซูโรเอ่ยถามออกมาก่อน เขาเป็นคนไม่ชอบอะไรอ้อมค้อมจึงถามเข้าประเด็นเลย
คุณนี้ใจร้อนจริงๆเลย ผมแค่อยากจะบอกคุณเรื่องการจัดสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ให้เมืองนี้ท่านนายกบอก พร้อมกับรินน้ำชาหอมอ่อนๆให้กับคนตรงหน้า
โรงพยาบาลแห่งใหม่?”คิมซูโรขมวดคิ้วถาม เขายังไม่เข้าใจอยู่ดี
คือว่าทางเราจะจัดการประมูลของเก่าขึ้น เพื่อเอาเงินในส่วนนี้มาสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่กัน และทางเราก็คิดว่าคุณควรได้รับรู้เป็นคนแรก เพราะตระกูลสายลมของคุณนั้นเป็นตัวเต็งในการประมูลครั้งนี้ คุณก็รู้นิว่าถ้าตระกูลไหนสามารถบริจาคได้มากที่สุด ก็ได้ทั้งชื่อเสียง อำนาจ ประชาชนทุกคนจะต้องเคารพตระกูลของคุณท่านนายกอธิบายรายละเอียด แต่จริงๆแล้วมันแฝงอะไรมากกว่านั้น
สำหรับตระกูลที่ต้องการความยิ่งใหญ่ ก็มักจะใช่วิธีการสร้างภาพว่าช่วยเหลือรัฐช่วยเหลือประชาชน แต่ความจริงแล้ว ก็แค่ต้องการให้รัฐเปิดทางให้กับธุรกิจมืดของตัวเอง แต่สร้างภาพให้ประชาชนนับถือ ซึ่งคงต้องบอกว่า ไม่มีตระกูลไหนที่ไม่ใช่วิธีนี้
คิม ซูโร ขมวดคิ้วมุ่น เขาไม่ได้สนเรื่องพวกนั้นเลยซักนิด แต่ที่เขาสนก็คือเรื่องลูกชายของ เพราะตอนนี้ฮิมชานกำลังหายตัวไป ถ้าเกิดตระกูลอื่นรู้หรือประชาชนรู้ ก็จะรู้ว่าตระกูลสายลมกำลังเกิดปัญหา และทุกฝ่ายก็คงต้องใช้โอกาสนี้โค่นล้มตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างตระกูลของเขาก็เป็นแน่ เพราะฉะนั้นคงมีทางเดียว คือสร้างอำนาจให้กับตระกูลของเขาให้แข็งแกร่งขึ้น
ครับ ผมทราบเรื่องนี้ดี ผมจะร่วมในการประมูลแน่นอน ถ้ากำหนดวันเมื่อไหร่ก็ช่วยแจ้งให้ทราบด้วยนะครับเขาบอกยิ้มๆ ก่อนจะลุกขึ้น ตอนนี้ก็คงหมดธุระแล้ว เขาควรจะรีบกลับบ้าน เพราะยังมีปัญหาอีกมากที่ยังต้องแก้
ท่านนายกยืนขึ้นส่ง แต่เหมือนเขาจะนึกอะไรออก
อ๊ะ เดี๋ยวครับคุณคิมเขาเอ่ยเรียกคนที่กำลังจะเดินออกไป คิม ซูโรชะงักหันกลับมามอง
คือว่า... เมื่อวันคล้ายวันเกิดของผม คุณโทรมาบอกว่าลูกชายของคุณคิม   ฮิมชาน จะเอาช่อดอกไม้มาให้ แต่ผมก็ไม่เห็นจะเจอเขาเลย เขาเป็นอะไรรึเปล่าครับ
คิม ซูโรถึงกับเหงื่อตก เขาลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท ก่อนจะแกล้งฝืนยิ้มออกไป
อ่อ คือเขาไม่สบายหนักมากนะครับ ต้องขอโทษจริงๆเรื่องช่อดอกไม้ ผมมัวแต่ห่วงลูกเลยลืมไปซะสนิทเขาเลือกที่จะโกหกออกไป เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ถึงปัญหาที่กำลังประสบ
แล้วตอนนี้ลูกชายของคุณอาการดีขึ้นรึยังครับท่านนายกยังคงถามต่อ
หายแล้วครับ ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงครับคิม ซูโรบอกยิ้มๆ ทั้งคู่โค้งให้กันและกัน ก่อนที่คิม ซูโรจะเดินออกจากห้องไป
เป็นยังไงบ้างครับ ท่านนายกคุยอะไรกับท่านผู้ติดตามที่ยืนรออยู่ด้านนอกรีบเอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล
อีจุน... นายต้องรีบตามหาตัวลูกฉันให้เจอ ไม่งั้นความลับนี้อาจจะแตกเข้าซักวัน และถ้าถึงวันนั้นตระกูลสายลมอาจจะไม่เหลือชื่ออีกเลยคิม ซูโรเอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิทอย่างเคร่งเครียด เขาต้องปกป้องตระกูลสายลมให้ได้ ในฐานะผู้นำตระกูลสายลม

ครับ ผมจะรีบตามหาตัวคุณฮิมชานให้เจออีจุนตอบรับด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจัง เขาเองก็จะไม่ยอมให้ตระกูลที่ชุบเลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กต้องถูกทำร้ายเช่นกัน

**********

[Kim Him Chan]

ไอ้ยงกุกจับผมมาได้สามวันแล้ว ตั้งแต่ที่มันพาผมไปที่ชั้นใต้ดิน ผมก็เอาแต่นั่งกอดเข่าอยู่ข้างเตียง ภาพของคนทั้งสามที่นอนจมกองเลือดยังติดตา มือผมสั่นเทาทุกครั้งที่นึกถึงว่าผมเป็นคนฆ่าหนึ่งในสามคนนั้น
แกร๊ก...เสียงประตูห้องเปิดออก ผมสะดุ้งตกใจหันไปมอง
คุณฮิมชานค่ะ ฉันฮยอนอาเองนะค่ะเสียงฮยอนเอ่ยบอก ผมจึงรีบลุกขึ้นยืน เธอส่งยิ้มมาให้ ดีจังที่เธอมาหาผม เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ผมสามารถพูดคุยได้ที่นี้
ฉันเอาเสื้อผ้าเปลี่ยนอาบน้ำมาให้ค่ะเธอว่าก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าในอ้อมแขน ผมไม่ได้ตอบอะไร เธอเอาเสื้อผ้าไปแขวนไว้ให้ก่อนจะดึงผมให้นั่งลงบนเตียง
ยังเจ็บแผลอยู่รึเปล่าค่ะเธอถาม น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นทำให้ผมรู้สึกดี
แผลไม่เจ็บแล้ว แต่ฉันเจ็บที่อื่นมากกว่าผมว่าเสียงเศร้า ฮยอนอายื่นมือมาจับมือผมไว้อย่างปลอบโยน
เมื่อวานคุณยงกุกพาคุณไปที่ชั้นใต้ดินใช่ไหมค่ะเธอถาม ผมพยักหน้าให้
ที่นั้นมีอะไรหรอค่ะ คือพอดีว่าคนรับใช้ไม่มีใครเคยลงไปที่นั้นนะค่ะ จะมีก็แต่ลูกน้องของคุณยงกุกเท่านั้นที่ลงไป คุณเล่าให้ฉันฟังได้มั้ยค่ะผมมองหน้าเธอ เธอเองก็คงกำลังหวาดกลัวเหมือนกันสินะถึงอยากรู้ว่าที่นั้นมีอะไร เพราะเธอก็ประสบชะตากรรมเดียวกับผมเหมือนกัน งั้นผมจะเล่าให้เธอฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ที่นั้นมันมีไว้ขังคนที่ไอ้ยงกุกจับมา มันพาฉันไปพบคนสามคนแล้วบังคับให้ฉัน....ย ยิงคนตาย...ผมบอก มือสั่นเทาขึ้นมา ฮยอนอาบีบมือผมไว้
แล้วไงต่อค่ะผมส่ายหน้า
ผมโดนมันบังคับให้ฆ่าผู้ชายคนนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ได้อยากฆ่าเขาจริงๆผมบอก ฮยอนอาคอยพยักหน้ารับฟังผม
ฮยอนอา...เธอรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใครผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าเธอแล้วเอ่ยถาม ผมฆ่าคนตายแต่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขานั้นเป็นใคร
ค คือ....เท่าที่ฉันได้ยินมา น่าจะเป็น...ผู้บริหารของตระกูลสายลมนะค่ะสิ้นคำพูดของเธอผมเบิกตากว้าง น้ำตาไหลอาบแก้ม นี้ผมฆ่าคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับผมงั้นหรอ....
คุณฮิมชานใจเย็นๆก่อนนะค่ะ คุณไม่ได้เป็นคนฆ่าพวกเขาซะหน่อย คุณยงกุกต่างหากที่เป็นคนทำเธอเอ่ยปลอบผม แต่มันไม่ทันแล้ว ความเศร้าความเสียใจเอ่อล้นออกมาเต็มอก
ฉันต้องไปแล้วนะค่ะ เดี๋ยวลูกน้องคุณยงกุกที่เฝ้าหน้าห้องจะสงสัยที่ฉันเข้ามานานเกินไปเธอว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ประตู
ด เดี๋ยว...ผมเอ่ยเรียกเธอไว้ เธอหันหน้ากลับมามอง
ช่วยผมหนีได้มั้ยผมจ้องมองหน้าเธอด้วยแววตาขอร้อง แต่เธอกลับส่ายหน้าตอบกลับมา ผมทรุดฮวบลงพื้นทันที นี้ผมจะไม่มีทางหนีไปได้เลยหรอ แต่เหมือนฮยอนอาจะสงสารผม เธอเอ่ยบอกบางอย่างก่อนจะเดินออกไป
วันนี้คุณยงกุกไม่อยู่อาจจะกลับมาพรุ่งนี้ พวกลูกน้องจะเปลี่ยนเวรเฝ้าหน้าห้องคุณตอนเที่ยง คุณมีเวลาแค่ตอนนั้นเท่านั้น
ผมเงยหน้ามองประตูที่ปิดลง ก่อนจะหันไปมองที่นาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลา 10:15 น. อีกไม่ถึง 2 ชั่วโมง ผมก็จะมีโอกาสหนี!

********

[Bang Yong Gook]

ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงงานใต้ดิน เป็นที่ที่ผลิตสารเสพติดต่างๆของผมเอง ผมเป็นผู้ส่งออกสารเสพติดหลายใหญ่ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของตำรวจหลายประเทศ แต่ผมไม่กลัวหรอกเพราะตำรวจกี่คนที่คิดจะเข้ามาจับกุมผม เป็นต้องลงไปนอนในหลุมทุกหลาย แต่ถ้าพูดคุยด้วยดีๆได้ก็จะได้เป็นเงินก้อนโตเพื่อปิดปากแทน
ปึก!”จู่ๆลูกน้องคนหนึ่งก็หันมาชนผมที่กำลังเดินตรวจงานอยู่เข้า ผงเฮโรอีนที่ถูกบรรจุเตรียมส่งสินค้าแล้วในมือของมันล่วงหล่น มันเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยตาเบิกกว้าง ผมเหยียดยิ้มให้มันก่อนจะชักปืนขึ้นมาจ่อที่หัวของมัน
มึงกล้าทำสินค้ากูเสียหายหรอ!!!”ผมว่าก่อนจะสอดนิ้วเข้าไกปืน พร้อมจะยิงหัวมันทิ้ง มันมองผมด้วยสายตาหวาดกลัว ตัวมันสั่นเป็นเจ้าเข้า
เห้ย! เดี๋ยวไอ้ยงกุกจู่ๆก็มีมือเข้ามาจับกระบอกปืนผมเอาไว้ ผมหันหน้าไปมอง พบว่าเป็นไอ้แดฮยอนนั้นเอง
มึงจะห้ามกูทำไม ไอ้ห่านี้แม่ง....
กูรู้ว่ามันทำของเสียหาย เดี๋ยวให้มันชดใช้เป็นเงินเดือนมันก็ได้ มึงอย่ายิงให้เสียลูกน้องไปเปล่าๆเลยมันว่า ผมมองหน้ามันกับไอ้คนที่เกือบจะถูกผมยิงสลับกัน ก่อนที่ผมจะยอมลดปืนลง
แม่ง...เอ้ย!”ผมสบถ
มึงไปได้แหละไอ้แดฮยอนหันไปสั่ง มันตัวสั่นหงึกๆก้มหัวติดพื้นขอบคุณไอ้แดฮยอน ก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินจากไป เพราะกลัวผมจะเปลี่ยนใจยิงหัวมันทิ้ง
มึงนี้ใจร้อนจริงๆเลย...มันว่าผม ผมเดินหนีมันไปทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา มันก็ยังเดินตามมานั่งข้างๆผม
ตอนนี้ไอ้แดฮยอนและไอ้เซโล่ก็อยู่ที่นี้ด้วย เพราะธุรกิจนี้ของผมก็มีพวกมันเป็นหุ้นส่วน เห็นมาดไอ้แดฮยอนนิ่งๆขรึมๆแบบนี้ แต่มันมีประโยชน์มากเวลาต้องติดต่อเจรจาการค้า เพราะใบหน้านิ่งๆที่ดูสุภาพของมัน ทำให้คนอื่นไว้ใจ แม้แต่ลูกน้องยังเชื่อฟังมันมากกว่าผมซะอีก
ส่วนไอ้เซโล่ที่เห็นเป็นเด็กติ๊งต๊อง แต่เวลามันโมโหขึ้นมาก็เหมือนกับชื่อตระกูลมันนั้นแหละพายุ แถมที่สำคัญมันยังเป็นคนชักนำผมเข้าวงการนี้ด้วย
ผมมองไอ้เซโล่ที่ขึ้นไปนั่งยองๆบนโต๊ะบรรจุเฮโรอีน มันกำลังวางแผนในการขนสินค้าไปส่งให้ผู้ค้ารายย่อยอยู่ นี้แหละคืองานถนัดของมัน
ช่วงนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ตำรวจแม่งเร็งเป้ามาที่พวกเรามากขึ้น กูไม่อยากให้มึงยิงลูกน้องทิ้งสุ่มสี่สุ่มห้า เดี๋ยวไอ้พวกที่เหลือเกินกลัวแล้วทิ้งพวกเราไป ใครจะอยู่ช่วยงานว่ะไอ้แดฮยอนพูด มันรู้ว่าผมไม่พอใจที่มันเข้ามาห้าม
เออๆ กูรู้แล้วผมตอบตัดความรำคาญ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นกระดก
“Rrrrrrrrr”เสียงโทรศัพท์ไอ้แดฮยอนดังขึ้น มันหยิบโทรศัพท์มาจ้องมองยิ้มๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปคุยที่อื่น ผมมองตามมันอย่างเลี่ยนๆ สงสัยคงจะไปคุยกับน้องจงเอิบจงออบอะไรของมันนั้นอีก
ผมไม่เข้าใจมันจริงๆ ทั้งที่มันกำลังจะหมั้นกับพี่สาวของเขา แต่กับเอาน้องเขามาเป็นแฟน นี้ตกลงมันจะเอาทั้งพี่ทั้งน้องเลยรึไง แต่พอเห็นมันแล้วก็ทำให้ผมนึกอะไรขึ้นมาได้ นักโทษของผมที่อยู่ที่บ้าน... มันจะกำลังคิดหนีอีกรึเปล่านะ แล้วถ้ามันคิดหนีอีกคราวนี้ ไม่แน่ผมอาจจะยิงมันทิ้งก็ได้ หึ...
คิดแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาลูกน้องคนสนิท เสียงรอสายดังไม่เกินรอ เพราะลูกน้องผมรู้กันดีว่าถ้าผมรออะไรนานๆแล้วผมจะเป็นยังไง ปลายสายเอ่ยทักอย่างนอบน้อม ผมเหยียดยิ้มก่อนจะเอ่ยบอกธุระของผม
จีโอ ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ.....

**********

[Kim Him Chan]

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรงแล้ว ผมได้ยินเสียงฝีเท้าหน้าห้องเดินจากไป คงจะถึงเวลาเปลี่ยนเวรอย่างที่ฮยอนอาบอก ผมมีเวลาไม่มากก่อนที่พวกมันที่มาเปลี่ยนเวรจะมา
ผมเดินตรงไปที่ประตูหมุนลูกบิด แต่มันเปิดไม่ออก ผมขมวดคิ้วมุ่นทันที นึกด่าตัวเองในใจว่าโง่ ก็ใครที่ไหนจะขังนักโทษไว้แล้วล็อกไว้จากด้านในหละ
ผมหันซ้ายหันขวามองหาสิ่งของมาช่วยเปิดประตู และแล้วสายตาของผมก็ปะทะเข้ากับนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนตัวเตียง ผมยกยิ้มออกมาก่อนจะรีบเข้าไปคว้ามัน สงสัยใช่ไหมว่าผมจะใช่มันเปิดประตูได้ยังไง ผมทุบนาฬิกาทิ้ง แอบตกใจเหมือนกันเพราะกลัวคนอื่นได้ยินเสียง แต่พวกมันไปกันหมดแล้วนิหว่า....
ผมหยิบเข็มนาฬิกาที่กระเด็นออกมามาถือไว้ ในหัวนึกถึงฉากในหนังที่เวลาคนโดนจับชอบเอาอะไรที่คล้ายๆกับของที่ผมถืออยู่ไขประตู ผมไม่มีวิชาความสามารถด้านนี้หรอก แต่ก็ต้องลองดูตอนนี้ก็เหลือเวลาน้อยลงไปทุกที
ผมจับเข็มนาฬิกาสอดเข้าไปในช่องลูกบิดประตู ความตึงเครียดบังเกิดขึ้น เหงื่อมากมายผุดขึ้นเต็มหน้าผาก ทำไมในหนังถึงทำง่ายจังว่ะ ผมงัดๆไขๆอยู่หลายนาที เข็มนาฬิกาในมือก็งอจนไม่เหลือเค้าโค้งเดิม แต่แล้ว...
แกร๊ก...เสียงล็อกของประตูปลดออก ผมยิ้มร่าออกมาทันที ผมเก่งมั้ยหละ แต่นี้ไม่ใช่เวลาจะมาปลื้ม ตอนนี้ได้เวลาหนีแล้ว...
ผมค่อยๆแง้มประตูเปิดออก ก่อนจะมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใคร ผมค่อยๆเดินออกมา หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นจนแทบระเบิด
ตอนนี้ผมออกมานอกห้องได้แล้ว แต่ผมจะหนีไปทางไหนหละ ผมยังไม่เคยเดินสำรวจบ้านหลังนี้ซักนิดว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหน ถ้าเกิดเดินไปเจอกับลูกน้องไอ้ยงกุกเข้า ทุกอย่างก็จบเห่...
ผมค่อยๆก้าวเดินลงมาที่ชั้นล่าง ชั้นนี้ไม่มีใครอยู่เลย สงสัยว่าไอ้ยงกุกจะเอาลูกน้องออกไปทำเรื่องชั่วๆหมด ผมเดินชิดริมขอบกำแพง ถ้าเกิดบังเอิญมีใครโผล่มา อย่างน้อยผมก็ยังหลบทัน
ผมเดินรัดเราะไปเรื่อยๆ ที่นี้กว้างใหญ่กว่าที่ผมคิด แล้วทางออกมันอยู่ไหนว่ะเนี้ย... ผมชักจะหงุดหงิดแล้วสิ แถมเวลาผ่านไปตั้งนานแล้ว ป่านนี้ลูกน้องไอ้ยงกุกจะไม่รู้แล้วหรอว่าผมไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว
เอ้า! เร็วๆเข้าสิ ชักช้ากันจริงๆ เรายังมีงานอื่นต้องทำอีกนะเสียงคุณป้าแก่ๆพูดขึ้น พร้อมกับหญิงสาวอีกสองสามคนถือตะกร้าผ้ากำลังเดินมาทางนี้ ผมรีบหันซ้ายหันขวา ซวยแล้วไง! ถ้าเกิดพวกเธอเห็นผมเข้า ผมจะต้องโดนจับได้แน่ว่ากำลังหลบหนี
คร้า..... ก็กำลังรีบเดินอยู่นี้ไงค่ะป้า...
ก็เร็วๆเข้าสิ ยัยพวกนี้นิสั่งนิดสั่งหน่อยทำเป็นสะดีดสะดิ้งเสียงพูดคุยค่อยๆเคลื่อนออกไปไกล พวกเธอไปแล้ว ผมค่อยๆโผล่หัวออกมามองจากหลังแจกันใบใหญ่ ต้องขอบคุณไอ้ยงกุกจริงๆที่ซื้อของตกแต่งบ้านเป็นแจกันใบนี้ ไม่งั้นผมคงโดนจับได้ไปแล้ว
ผมคลานออกมาจากหลังแจกัน ฉับพลันสายตาของผมปะทะเข้ากับประตูบานใหญ่ ประตูที่วันแรกพวกมันพาผมเข้ามา ผมฉีกยิ้มกว้างทันที ผมเจอทางออกแล้ว....
ผมหันมองซ้ายขวาอีกครั้ง ทางปลอดโปร่งไม่มีใครเดินผ่านมาแล้ว แต่ข้างนอกประตูนั้นผมก็ไม่แน่ใจ แต่ยังไงผมก็ต้องออกไปให้ได้ก่อน
ผมรีบพุ่งออกไปทันทีก่อนที่จะมีใครเดินผ่านมาอีก แต่ด้วยความรีบร้อนเกินไปโดยไม่ทันระวัง ผมดันสะดุดขาตัวเองล้ม ผมหน้าทิ่มไถลไปกับพื้น ไปหยุดอยู่ข้างหน้าบานประตูทันที
โอ้ยย... เจ็บสัสผมร้องโอดโอย พร้อมกับจับตามแขนตามขาของตัวเองที่กระแทกพื้น
เป็นอะไรมากรึเปล่าครับเสียงทุ้มดังขึ้น ผมชะงักเบิกตากว้าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง ซวยแล้วสิ! ผมโดนจับได้ซะแล้ว....
…….
…………..
…………………
โอ้ย! โอ้ย!”เสียงผมร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่ใช่การเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายหรือทรมาน ผมร้องออกมาเพราะอีกคนกำลังทายาลงบนแผลของผมให้
เจ็บตรงไหนอีกไหมครับน้ำเสียงทุ้มแต่อ่อนโยนเอ่ยถามผม เขาเป็นลูกน้องของไอ้ยงกุกแต่ดูไม่ค่อยเหมือนลูกน้องคนอื่นซักเท่าไหร่ ตอนแรกที่โดนจับได้ผมคิดว่าเขาต้องฆ่าผมแน่ๆ แต่ที่ไหนได้เขากับพาผมมานั่งทำแผลให้ นี่แหละที่ไม่เหมือนคนอื่น
ม... ไม่แล้ว ต... แต่นาย คือแบบว่า...ผมควรจะพูดยังไงดีหละ ก็เขาเห็นผมตอนกำลังหลบหนีแล้ว แต่เขากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะงั้น
ผมชื่อจีโอครับ เป็นลูกน้องคนสนิทของคุณยงกุกเขาแนะนำตัวยิ้มๆ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงไม่เหมือนลูกน้องไอ้ยงกุกคนอื่น
เรื่องที่คุณหลบหนีผมไม่บอกคุณยงกุกหรอกครับผมเบิกตากว้าง นั้นแหละสิ่งที่ผมกลัว
ขอบใจ แต่...ทำไมหละ นายเป็นลูกน้องไอ้...เออ ยงกุกไม่ใช่หรอผมซึ้งในน้ำใจของเขามาก แต่ผมก็ยังอดสงสัยไม่ได้อยู่ดี
คุณยงกุกสั่งให้ผมคอยระวังไม่ให้คุณหนี แต่เขาไม่ได้สั่งว่าให้ผมจัดการยังไงถ้าคุณหนี แล้วผมก็ไม่ค่อยชอบฆ่าคนซะด้วยจีโอตอบยิ้มๆ ผมรู้สึกว่าเจ้านายกับลูกน้องคู่นี้ช่างนิสัยต่างกันจริงๆ
ผมต้องพาคุณไปส่งที่ห้องแล้วหละ เดี๋ยวถ้าคุณยงกุกกลับมาแล้วจะไม่พอใจจีโอบอก
ไอ้...เออ เจ้านายนายจะกลับมาวันนี้หรอผมถาม เพราะฮยอนอาบอกว่าไอ้บ้านั้นอาจจะกลับมาพรุ่งนี้ แล้วผมว่าผมอาจจะยังมีโอกาสหนีได้อีก
เปล่าครับ เจ้านายผมจะกลับมาที่นี้พรุ่งนี้ แต่คุณไม่ต้องคิดหนีหรอกครับ เพราะผมจะอยู่ที่นี้ทั้งคืน แล้วผมก็ไม่ยอมให้คุณหนีแน่นอนผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ คำพูดกับรอยยิ้มแบบนั้นมันขัดกันยังไงไม่รู้นะ
สุดท้ายผมก็โดนลากกลับไปขังที่เดิม แถมยังโดนขู่ไว้อีกต่างหาก ทำไมสวรรค์ช่างกลั่นแกล้งผมได้นะ คิดจะหนีกี่ครั้งเป็นต้องพลาดทุกครั้งสิ แต่ไม่เป็นไรผมไม่ท้อหรอก ครั้งหน้าผมจะต้องหนีรอดออกไปให้ได้

*********

[Bang Yong Gook]

ก๊อกๆๆ
เข้ามา...ผมเอ่ยอนุญาต ร่างของลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามา ตอนนี้ผมกลับมาอยู่ในห้องทำงานที่เซฟเฮาส์แล้ว
เป็นยังไงบ้างครับ การนัดส่งของเมื่อคืนนี้จีโอ ลูกน้องคนสนิทของผมเอ่ยถาม
ฉันส่งพวกมันไปเกิดแล้วผมตอบพร้อมกับเหยียดยิ้ม เมื่อคืนนี้มีการผิดพลาดเรื่องการนัดส่งของนิดหน่อย เพราะอีกฝ่ายคิดจะเล่นตุกติก พวกเราก็เลยกำจัดพวกมันให้หายไปจากโลกใบนี้ซะ นึกแล้วก็สมเพศคิดจะเล่นกับใครไม่เล่น ดันมาเล่นกับคนอย่างผม มันก็ต้องเจอจุดจบแบบนี้แหละ
แล้วที่นี้หละเรียบร้อยดีมั้ยผมเอ่ยถามกลับ เพราะเมื่อวานผมสั่งให้มันมาเฝ้านักโทษของผมไว้
เรียบร้อยดีครับมันตอบแค่นั้น ผมเดินไปคว้าบุหรี่มาจุด ก่อนจะเดินออกไปยืนพิงระเบียง ควันสีเทาถูกพ้นออกมาจากปากของผม ก่อนจะลอยขึ้นไปในอากาศ เหตุผลที่ผมยกจีโอขึ้นเป็นลูกน้องคนสนิทไม่ใช่เพราะว่ามันมีฝีมือเก่งมาก แต่เป็นเพราะมันกับผมเคยผ่านจุดที่ยากลำบากด้วยกันมาก่อน ตอนที่ตระกูลไฟล้มสลาย...
จีโอ...ผมเอ่ยเรียกทั้งๆที่ยังมองออกไปด้านนอก
ครับมันขานรับ ถึงมันกับผมจะสนิทกันตั้งแต่เด็ก แต่มันก็ไม่เคยจะลามปรามผมซักครั้ง มันจะเคารพและนับถือผมเสมอมา
อีกไม่นาน การแก้แค้นของฉันก็จะสำเร็จแล้วสินะผมเอ่ยบอก เมื่อนึกย้อนไปในอดีตความโกรธก็พุ่งพล่านขึ้นมาทันที พวกมันที่ทำลายตระกูลของผม แล้วตัวเองก็ขึ้นเป็นใหญ่แทนที่ ผมที่ได้แต่เฝ้ามอง คิดเสมอว่าต้องแก้แค้นให้ได้
แล้วจะทำอะไรต่อไปหรอครับจีโอเอ่ยถามอย่างรู้ใจ ผมเหยียดยิ้มออกมา
ปล่อยข่าวออกไป เรื่องว่าที่ผู้นำตระกูลสายลมหายตัวไป ฉันต้องการให้ทุกคนรู้ว่าตระกูลสายลมกำลังมีปัญหา และคราวนี้มันจะต้องถูกทุกฝ่ายโจมตี

*********

[Kim Him Chan]

ผมเดินวนไปวนมาในห้อง คิดหาโอกาสที่จะหนีอีกครั้งในเมื่อเมื่อวานทำไม่สำเร็จ ผมอยากให้ฮยอนอามาหาตอนนี้จังเลย จะได้ถามเธอว่าจะมีโอกาสหนีอีกรึเปล่า และครั้งนี้ผมจะชวนเธอหนีไปด้วยกัน
แกร๊ก...เสียงประตูถูกเปิดเข้ามา ผมรีบหันควับไปมอง
ฮยอน.....ผมกลืนชื่อที่กำลังจะเอ่ยลงคอ คนที่เปิดประตูเข้ามาเหยียดยิ้มให้
สนิทกันจังนะกับอีนังคนใช้นั้นนะคงไม่ต้องบอกนะครับว่าใครที่พูดจาหยาบคายแบบนี้
เรื่องของกู...ผมบอกก่อนจะเดินหนีมัน
โอ้ยย! ไอ้เชี่ย... เจ็บผมร้องออกมาเมื่อไอ้ยงกุกเดินมากระชากหัวผมไว้ มันจิกหัวผมให้เงยหน้าขึ้นมองหน้ามัน
เจ็บแล้วเสือกปากดีกับกูทำไม มึงอยากตายเร็วนักใช่ไหมถึงกล้าปากดีแบบนี้
ถ้ามึงอยากฆ่าก็ฆ่าเลย กูก็เบื่อแล้วเหมือนกันที่ต้องถูกมึงขังไว้อย่างงี้ผมบอกพร้อมกับจ้องหน้ามันอย่างไม่ยอมแพ้ แต่มันกลับเหยียดยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกขนลุกทุกครั้งที่เห็น
หึ มึงเบื่อมากใช่ไหม ถูกขังอยู่ในนี้ดีๆไม่ชอบ งั้นออกไปหาอะไรสนุกๆทำกันหน่อยดีกว่ามันบอกก่อนจะกระชากหัวผมลากออกจากห้องไป นี้มันคิดจะทำอะไรผมอีก
โอ้ยย! เชี่ย...เจ็บ

*********

[Moon Jong Up]

เมื่อไหร่จะมานะผมพึมพำกับตัวเอง สายตาก็ชะเง้อมองหารถของใครบางคนที่ไม่รู้ว่าวันนี้จะมารึเปล่า และแล้วรถยนต์คันหรูก็แล่นเข้ามา ผมฉีกยิ้มกว้างก่อนจะรีบวิ่งลงไปชั้นล่างทันที
พี่แดฮยอน...ผมเอ่ยเรียกอย่างดีใจ พี่แดฮยอนที่เพิ่งลงจากรถหันมาหาด้วยรอยยิ้ม เราทั้งคู่ฉีกยิ้มกว้างให้กัน
กำลังรอพี่อยู่หรอครับพี่แดฮยอนเดินเข้ามาหาพร้อมกับเอ่ยถาม ผมพยักหน้าให้ รู้สึกเขินเหมือนกันแหะที่ยอมรับออกไปง่ายๆ พี่แดฮยอนยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆก่อนจะก้มลงกดจูบที่ข้างแก้ม ผมตกใจรีบผละตัวออก ก่อนจะมองซ้ายมองขวาว่ามีใครเห็นรึเปล่า
พี่แดฮยอน...ผมเรียกเสียงอ่อย ก้มหน้างุดๆอย่างเขินอาย
น่ารักจังครับ วันนี้จงออบรอพี่ด้วยพี่แดฮยอนพูดยิ้มๆ ผมบอกแล้วไงว่าอย่ายิ้มแบบนั้น เห็นทีไรเป็นต้องใจสั่นทุกทีสิน่า....
จงออบ...พี่แดฮยอน...ทำไมมาอยู่ที่นี้หละค่ะพี่จียอนที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เดินตรงเข้ามาก่อนจะเอ่ยถาม ผมตกใจรีบถอยห่างจากพี่แดฮยอนทันที พี่แดฮยอนมองผมนิดนึงก่อนจะหันไปมองที่พี่จียอน
คือพี่....
พี่แดฮยอนมาหาจียอนหรอค่ะ ถ้างั้นเชิญข้างในก่อนดีกว่าค่ะ พ่อกับแม่ก็อยู่ด้วยค่ะพี่จียอนบอกยิ้มๆ ผมเงยหน้ามองพี่แดฮยอนสลับกับพี่จียอน ถ้าพี่จียอนรู้ว่าผมกับพี่แดฮยอนแอบคบกัน พี่จียอนจะรู้สึกยังไงนะ ผมไม่อยากจะคิดเลย
เปล่าครับ วันนี้พี่มาหาจงออบ จงออบเราไปกันเถอะผมทำตาโตอย่างตกใจ พี่แดฮยอนคว้าข้อมือผมก่อนจะลากให้ไปขึ้นรถ ผมหันไปหาพี่จียอนที่ยืนทำสีหน้างงๆ ซวยแล้วสิพี่จียอนต้องรู้แน่....
พี่แดฮยอนดันผมให้ขึ้นรถ ก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งคนขับ แล้วขับรถออกไปทันที ผมจะทำยังไงดีถ้าพี่จียอนรู้จะเสียใจรึเปล่า จะผิดหวังในตัวของผมมั้ย ทั้งๆที่เพิ่งเริ่มแท้ๆความสัมพันธ์ของผมกับพี่แดฮยอนจะต้องจบแล้วสินะ
…….
…………..
………………..
พี่แดฮยอนพาผมมาเดินเล่นที่ห้าง แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์มาเดินเล่นซักนิด ผมคิดแต่เรื่องเมื่อกี้ที่เกิดขึ้น
ทำหน้าเครียดแบบนั้นเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอกพี่แดฮยอนเอ่ยแซว พร้อมกับเอานิ้วมาจิ้มๆตรงหว่างคิ้วของผมที่จะผูกกันเป็นโบว์อยู่แล้ว ผมเงยหน้าขึ้นมอง ทำไมพี่แดฮยอนดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลยนะ กลับพูดเล่นออกมาหน้าตาเฉย
พี่แดฮยอนไม่กลัวพี่จียอนจับได้เรื่องที่เรา....คบกันหรอครับผมถาม
ไม่หนิพี่แดฮยอนส่ายหน้าอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ผมเอียงคอมองอย่างไม่เข้าใจ พี่แดฮยอนหัวเราะนิดๆกับท่าทางเหมือนลูกหมาขี้สงสัยของผม
พี่บอกให้ก็ได้ ว่าทำไมพี่ถึงไม่กลัวว่าจียอนจะรู้ว่าพี่กับจงออบคบกันผมนิ่งรอฟังคำตอบ พี่แดฮยอนหยุดเดินแล้วหันหน้าเข้าหาผม สองมือหนาจับมือผมเอาไว้
จงออบดูไม่ออกหรอ ว่าพี่สาวของจงออบก็ไม่ได้อยากหมั้นกับพี่ เพราะฉะนั้นจียอนไม่โกรธแล้วก็ไม่เสียใจแน่นอน เผลอๆอาจจะดีใจก็ได้นะ ที่พี่กับจงออบรักกัน จริงมั้ยครับผมคิดตามที่พี่แดฮยอนบอก มันก็จริงอย่างที่ว่านั้นแหละ เพราะเวลาพูดเรื่องหมั้นที่ไร พี่จียอนจะต้องดูเศร้าซึมทุกครั้ง นั้นเป็นเพราะว่าพี่จียอนไม่อยากหมั้นเองหรอกหรอ
ทีนี้เลิกเครียดได้แล้วนะครับ เราไปทานไอศกรีมกันดีกว่านะพี่แดฮยอนบอกยิ้มๆ ผมช้อนตาขึ้นมองก่อนจะค่อยๆฉีกยิ้มกว้างออกมา
ครับ

**********

[Kim Him Chan]

โอ้ยยย...ไม่ไหวแล้วเว้ยยย!!!”ผมตระโกนออกมาอย่างเหลืออด เพราะตั้งแต่ไอ้ยงกุกลากผมออกมาจากห้อง มันก็ทั้งใช้ให้ผมล้างจาน ซักผ้า กวาดพื้นถูพื้น ล้างห้องน้ำ จนถึงทำสวน ผมโยนสายยางฉีดน้ำทิ้งอย่างโมโห นี้หรอเรื่องสนุกๆของมัน มันสนุกอยู่คนเดียวนะสิที่ได้แกล้งผม
ใครสั่งให้มึงหยุด กูบอกให้รดน้ำต้นไม้ไงมันว่าแต่มันไม่ได้ดูสภาพผมเลยมั้ง ตอนนี้สภาพผมแย่ยิ่งกว่าหมาข้างถนนอีก แถมต้นไม้หน้าเซฟเฮาส์มันมีเป็นร้อย ต่อให้ผมเอารถดับเพลิงมาฉีดก็ยังไม่หมดเลยมั้ง
กูไม่ไหวแล้ว...ถ้ามึงอยากทำก็ทำเองดิผมบอก มันชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินตรงมาที่ผม ผมเผลอก้าวถอยหลังหนีมัน แต่มันก็ยกมือขึ้นจับคอผมไว้ได้

มึงจะทำหรือไม่ทำมันกดเสียงต่ำถาม
ไม่เว้ย!”ผมยังยืนยันคำเดิม มันออกแรงบีบที่คอผมอย่างแรง ผมพยายามแกะมือมันออกจากคอ มันเพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อยๆ แววตาของมันที่มองผมเหมือนมองสัตว์ตัวหนึ่งกำลังดิ้นทุรนทุราย ผมเริ่มหายใจไม่ออก
ท...ทำ ก...ก็ได้ ป...ปล่อย...ผมส่งเสียงกระท่อนกระแท่นบอก มันเหยียดยิ้มก่อนจะคลายมือออกจากคอผม
แค่กๆๆผมไอออกมาพร้อมกับหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด ไอ้ยงกุกโยนสายยางมาให้ ผมก้มลงไปคว้าสายยางขึ้นมา ก่อนจะฉีดน้ำใส่ต้นไม้อีกครั้ง มืออีกข้างก็ลูบลำคอของตัวเองไปด้วย คาดว่าคอผมต้องแดงเป็นรอยมือไอ้ยงกุกแน่ๆเลย ไอ้เวรเอ่ย! ผมได้แต่สบถด่ามันในใจ
ผมฉีดน้ำใส่ต้นไม้ไปหลายต้นแล้ว โดยมีไอ้ยงกุกนั่งดูอยู่เฉยๆ ละอองน้ำจากสายยางพุ่งมาใส่ตัวผม จนตอนนี้เสื้อผมเปียกชุ่มไปหมด มันบางจนแนบกับผิวเนื้อของร่างกาย ผมยังคงฉีดน้ำต่อไปโดยไม่รู้เลยว่าใครอีกคนที่กำลังนั่งมองอยู่แววตาได้แปลเปลี่ยนไปแล้ว
เห้ย!”ผมอุทานออกมาเมื่อจู่ๆสายยางในมือก็ถูกไอ้ยงกุกแย้งไป ผมมองหน้ามันอย่างงงๆ นี้มันจะให้ผมเลิกทำแล้วใช่ไหมเพราะตอนนี้ผมเหนื่อยโคตรๆ แต่จู่ๆไอ้ยงกุกมันก็ผลักผมล้มลงกับพื้นหญ้า ก่อนจะใช้สายยางที่แย้งผมไป ฉีดน้ำใส่ผมซะงั้น
เห้ย! มึงทำบ้าอะไรว่ะ หยุดนะเว้ย! หยุด!”ผมตะโกนสั่ง พยายามหันหน้าหนีน้ำที่มันฉีดใส่
กูบอกให้หยุด! หยุดไงว่ะ!”ไอ้ยงกุกมันยอมหยุดฉีดน้ำใส่ผม ตอนนี้สภาพของผมคือเปียกไปทั้งตัว เส้นผมเปียกชุ่ม เสื้อผ้าก็เปียกแนบไปกับตัว ผิวของผมที่ขาวอยู่แล้วกลับกลายเป็นซีดแทน ผมยกมือขึ้นลูบน้ำออกจากใบหน้า เงยหน้าขึ้นจ้องหน้ามัน
มึงทำเหี้ยไรเนี้ย!”ผมขึ้นเสียงถาม
มึงเวลาเปียกก็ดูเซ็กซี่ดีนะมันว่า ผมขมวดคิ้วมองมัน
เห้ย! ไอ้เชี่ย...หยุด!”ผมร้องห้าม เมื่อมันฉีดน้ำใส่ผมอีกครั้ง นี้มันบ้าไปแล้วหรอไง ผมไม่ใช่ต้นไม้นะมันถึงต้องเอาน้ำมาฉีดใส่
ไอ้ยงกุกหยุดฉีดน้ำใส่ผม มันโยนสายยางทิ้งก่อนจะเดินตรงเข้ามา สายตาของมันผมดูออกทันทีว่ามันคิดจะทำอะไร และผมไม่ยอมเด็ดขาด ผมรีบลุกจะวิ่งหนี แต่มันก็คว้าเอวผมเอาไว้
ไอ้เชี่ย! ปล่อย!”ผมดิ้นไปดิ้นมา มันกดผมลงกับพื้นหญ้าอย่างง่ายดาย
ไอ้เชี่ย! กูไม่ยอมให้มึงเอากูอีกแน่ผมเอ่ยบอก มันยกยิ้มที่มุมปาก
แสนรู้จังนะมึง...นี้มันว่าผมเป็นหมาใช่ไหม ผมยกเท้าขึ้นถีบมัน ก่อนจะคลานหนี แต่มันก็คว้าข้อเท้าผมเอาไว้ได้ ก่อนจะลากให้กลับมาที่เดิม ผมจึงยกเท้าขึ้นถีบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันหลบทัน มันกับผมจึงฟัดกันอยู่นานบนพื้นหญ้า
มึงจะเลิกดิ้นได้ยัง! กูชักจะโมโหแล้วนะ!”มันว่า แล้วมันไม่คิดบ้างหรอว่าผมก็โมโหเหมือนกัน
ก็เรื่องของเมิงสิ เสือกอยากจะเอากูทำไมหละผมเถียงกลับ ตอนนี้สภาพของผมกับมันก็ไม่ต่างอะไรกันแล้ว ทั้งมันและผมเปียกแฉะไปทั้งตัว
โธ่เว้ย!”มันตะโกนอย่างหัวเสีย ก่อนจะถอดเสื้อตัวเองที่เปียกชุ่มโยนทิ้ง มันจับจ้องมาที่ผมด้วยสายตาโหดเหี้ยม
ให้กูเอาดีๆไม่ชอบ ชอบให้กูใช่กำลังใช่ไหม งั้นกูจัดให้
ปึก! โอ้ยยมันกระชากหัวผม ก่อนจะจับหัวผมกระแทกกับต้นไม้อย่างแรง ผมยกมือหัวกุมหัวรู้สึกมึนหัวไปหมด ดีนะที่หัวไม่แตก นี้มันคิดว่าหัวผมหลอมด้วยเหล็กหรือไง ที่คิดจะจับกระแทกกับอะไรก็ได้อย่างงั้นแหละ
หมดฤทธิ์รึยังหละมึง
เชี่ย! กูไม่ใช่ปลานะที่ต้องทุบหัวให้สลบก่อนน่ะ
หึ กูไม่ยอมให้มึงสลบหรอกมันว่าก่อนจะจับหน้าผมหันเข้าต้นไม้ ผมที่ยังรู้สึกมึนอยู่จึงไม่ทันได้ขัดขืนมัน มันถอดกางเกงผมออก ตอนนี้ผมจึงเหลือแค่เสื้อเชิ้ตที่เปียกชุ่ม ในขณะที่ผมพยายามสะบัดหัวให้หายมึน ที่ช่องทางด้านหลังก็รู้สึกถึงการสอดใส่เข้ามาแล้ว
โอ้ยยย! เจ็บ! ไอ้สัสเจ็บ...เอาออกไป!”ผมร้องบอก มือจิกที่ลำต้นของต้นไม้ แผลที่ฉีกขาดจากการถูกสอดใส่ครั้งแรกยังไม่ทันหาย ตอนนี้ต้องมาฉีกขาดอีกครั้ง ความเจ็บปวดจึงยิ่งทวีคูณ
มึงสั่งใครไม่ทราบ ชอบไม่ใช่หรอความรุนแรงเนี้ย...นี้มันคิดว่าผมเป็นพวกซาดิสท์รึไง ใครชอบกันแน่ว่ะความรุนแรง เห็นมีแต่มันที่ใช้ความรุนแรงกับผมตลอด
มันขยับเข้าออกโดยไม่รอให้ผมคุ้นชิน แต่ผมคงไม่คิดที่จะชิน เพราะแม่งเจ็บขนาดนี้ ใครจะไปชินได้ ผมจิกต้นไม้แน่นระบายความเจ็บปวด มันกระชากหัวผมให้เงยขึ้นก่อนจะกดจูบลงมา ผมเม้มปากแน่นไม่ยอมให้มันลุกล้ำเข้ามาเด็ดขาด มันจึงแกล้งกระแทกอย่างแรง จนผมต้องอ้าปากร้อง
โอ้ยยย...ลิ้นสากสอดเข้ามาในโพรงปากของผมทันที มันบดขยี้อย่างรุนแรง ผมทนความขยะแขยงนี้ไม่ไหว จึงกัดลงไปที่ริมฝีปากมัน
โอ้ย! ฟัค!”มันสบดด่า ที่ปากของมันมีเลือดไหลออกมา ผมรู้สึกสะใจนิดๆแหะที่ทำมันเจ็บได้ แต่แล้วมันกับกระชากหัวผมอีกครั้ง ก่อนจะก้มลงกัดที่คอของผม
โอ้ยยยย.....!”ผมร้องเสียงหลง รู้สึกได้ถึงฟันคมที่กัดลงไปในเนื้อ และแน่นอนว่าต้องมีเลือดไหล
ถ้ามึงกล้าทำกูเจ็บอีก กูจะทำให้มึงเจ็บกว่าร้อยเท่า...มันกดเสียงบอกก่อนจะปล่อยหัวผมให้เป็นอิสระ
แกนกายของมันกระแทกเข้าออกรุนแรงอย่างไม่ปราณี ตอนนี้ผมไม่มีแรงจะสู้มันไหวแล้ว มันบีบขย้ำสะโพกผมเพื่อระบายอารมณ์ ผมได้แต่กัดฟันกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทั้งเกลียดมันทั้งขยะแขยงมัน อยากจะสลบไปให้รู้แล้วรู้รอด...
อ๊า...ผมเผลอครางออกมาเมื่อมันกระแทกโดนจุดกระสันเข้า จนต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง
หึ ตรงนั้นก็ไม่บอกกูจะได้จัดหนักๆให้มึงไง...มันว่าก่อนจะใส่แรงกระแทกไปที่เดิมอีกหลายครั้ง ผมพยายามกลั้นเสียงร้องไว้ แต่เพราะความเสียวกระสันจึงทำให้แกนกายของผมตื่นขึ้นมา
ไอ้ยงกุกเหมือนจะพอใจมันเอื้อมมือมาจับแกนกายของผมไว้ ผมพยายามเอามือมันออก แต่มันก็จับมือของผมให้ไปเกาะต้นไม้ไว้ ก่อนที่มันจะชักรูดให้ไปใน
จังหวะเดียวกับมัน ตอนนี้ความเสียวซ่านจึงมาจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผมไม่สามารถจะต้านทานได้อีกต่อไป
อ้า...อ๊า....ผมส่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่
ชอบใช่ไหมหละ ครางออกมาอีกสิคำพูดดูถูกเหยียดหยามของไอ้ยงกุก ทำให้ผมนึกรังเกียจตัวเองนัก อยากจะฆ่ามันจริงๆ
อื้อ....อ้า....มันแกล้งกระแทกแรงๆเหมือนกลั่นแกล้งผม จนในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวกำลังจะปลดปล่อยออกมา แต่แล้วมือของไอ้ยงกุกที่ชักรูดอยู่ กลับกำส่วนนั้นของผมแน่นแล้วใช้หัวนิ้วมืออุดตรงส่วนปลายไว้แกล้งไม่ให้ผมปลดปล่อยออกมา
อื้อออ....ผมร้องประท้วง
ใครจะยอมให้มึงถึงก่อนกูกันมันเหยียดยิ้มบอก ผมบิดตัวไปมาอย่างทรมาน นี้มันจะแกล้งผมไปถึงไหน ผมแหงนหน้าขึ้นมองมัน ส่งสายตาขอร้องแต่มันกลับยิ้มเยาะอย่างสะใจ และแล้วมันก็ปลดปล่อยเข้ามาในตัวผม
อ้าา...เสียงทุ้มของมันครางอย่างพอใจ ผมคิดว่ามันจะยอมปล่อยมือให้ผมปลดปล่อยบ้างแต่เปล่าเลย... มันกลับจับผมพลิกตัวนอนหงายเพื่อจะได้ดูความทรมานของผมชัดขึ้น มันแกล้งกดปลายนิ้วตรงส่วนปลายของผม ผมถึงกับแทบคลั่ง อยากจะปลดปล่อยออกไปซักที ตรงส่วนนั้นของผมปวดหนึบไปหมด
ทรมานหรอฮิมชาน...แต่ที่มึงทรมานยังไม่เท่ากับที่กูเคยเป็นมาก่อนเลยด้วยซ้ำ!”นี้มันพูดอะไรของมัน สายตาที่มันจ้องมองผมช่างดูสะใจและแฝงแววเครียดแค้น ผมทนไม่ไหวแล้ว... มันยอมปล่อยมือออก น้ำสีขาวขุ่นของผมพุ่งออกมาทันที...
แฮ่กๆๆผมทรุดตัวพิงต้นไม้อย่างอ่อนล้า หอบหายใจหนักรุนแรง ใบหน้าของไอ้ยงกุกยังเด่นชัดก่อนที่จะค่อยๆพร่าเบลอ และแล้วผมก็ผมสติไป...

[Bang Yong Gook]

ผมจ้องมองร่างที่สลบไปบนพื้นหญ้า อยากจะฆ่าให้ตายนัก แต่มันคงไม่สาสมที่ตระกูลมันทำไว้ ต่อจากนี้ไปจะเป็นของจริง ไอ้ฮิมชานจะต้องทรมานกว่านี้อีกเป็นร้อยเท่า รวมถึงตระกูลของมันด้วย....
ผมเอื้อมมือไปลูบใบหน้าสวยของมัน ตอนนี้ร่างกายมันซีดไปหมดเพราะความเย็นของน้ำ ผมเก็บเสื้อผ้ามาสวมใส่ ก่อนจะใส่ให้มันบาง ผมยังไม่ต้องการให้มันตายตอนนี้ มันต้องอยู่ให้ผมทรมานจนสาแก่ใจก่อน ผมช้อนตัวมันขึ้นมา ภาพนี้เคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่ง เพียงแต่ว่ามันคงจำไม่ได้ ครั้งหนึ่งที่ผมเคยอุ้มมันแบบนี้...

**********



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น