วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

B.a.p : Dark Love ความรักสีดำ Chapter 6

ณ ตระกูลสายลม
หมายความว่ายังไง! ธุรกิจของเรากำลังทรุดตัวชายวัยกลางคน ที่เป็นผู้นำของตระกูลเอ่ยเสียงดังต่อหน้าลูกน้องฝ่ายบริหารของตัวเอง
ค...คือว่า...จู่ๆนักบริหารหลายคนก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ตอนนี้ที่บริษัทแทบจะไม่เหลือผู้บริหารแล้วครับลูกน้องคนหนึ่งบอกอย่างหวั่นเกรง
หายไป? นี้มันเกิดอะไรขึ้นท่านผู้นำถาม ลูกน้องแต่ละคนส่ายหน้าให้
นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจของตระกูลเขากัน ผู้บริหารหลายคนหายตัวไปอย่างลึกลับ แถมลูกชายของเขาก็ยังโดนจับไปอีก
ขอโทษครับบอดี้การ์ดคนหนึ่งเข้ามา ผู้นำตระกูลไล่ลูกน้องของตัวเองออกไป ภายในห้องเหลือเพียงเขาและบอดี้การ์ดที่ให้ไปตามสืบเรื่องลูกชายของเขา
ตอนนี้เราทราบแล้วครับว่าใครเป็นคนจับตัวคุณฮิมชานไป และมันยังเป็นคนทำให้ผู้บริหารของบริษัทเราหายตัวไปอย่างลึกลับด้วยครับบอดี้การ์ดเอ่ยบอก
ใคร มันเป็นใครท่านผู้นำเอ่ยถามอย่างร้อนใจ เขาหวังว่าจะไม่ใช่......
ตระกูลดาร์ก...ผู้นำคือบัง ยงกุกครับเหมือนฟ้าผ่า สิ่งที่เขาคิดเป็นจริง เขาทรุดลงนั่งกับเกาอี้นวม มือสั่นระริก เขากำลังหวาดกลัวอะไรซักอย่างอยู่
จะให้ทำยังไงต่อไปครับ ฝ่ายนั้นดูเหมือนจะโจมตีเราเต็มกำลังเลยนะครับ
ฉันต้องการรู้ประวัติของผู้นำฝ่ายนั้น นายไปสืบมาให้ทีเขาเอ่ยสั่ง บอดี้การ์ดก้มโค้งให้ก่อนจะเดินออกไป ภายในห้องเหลือพียงเขาแล้ว ภาพหนึ่งฉายขึ้นมาบนหัว ภาพของชายหนุ่มที่สวมสร้อยคอรูปหัวกะโหลก ที่เดินอย่างมาดมั่นเข้ามาประกาศตัวในงานเลี้ยง
บัง ยงกุก เสียงแผ่วเบาพูดขึ้นกับตัวเอง


********

[Bang Yong Gook]

หลังจากผมเอานักโทษไปโยนไว้ในห้องนอนแล้วขังไว้ ผมก็มีงานที่ต้องสะสางต่อ นั้นก็คือการแก้แค้นของผม ผมเดินเข้ามาในห้องที่มีลูกน้องของผมกำลังรออยู่แล้ว พอผมเดินเข้าไปคนที่รออยู่ก็ก้มโค้งให้

ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟา ยกขาขึ้นมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะหยิบแก้วเหล้าขึ้นมากระดก
ว่าไงเรื่องที่ให้ไปจัดการผมเอ่ยถามคนที่กำลังยืนอยู่
เรียบร้อยครับ ผู้บริหารของตระกูลสายลมหลายคนถูกเราจับมาแล้วครับ ตอนนี้อยู่ในห้องขังใต้ดินครับผมพยักหน้าตามการรายงานของลูกน้อง ก่อนจะเหยียดยิ้มออกมาเมื่อนึกว่าไอ้ผู้นำตระกูลสายลมจะต้องคลั่งแค่ไหน เพราะบริษัทของมันที่ขาดผู้บริหารจะต้องสั่นคลอนแน่นอน
เออ...แล้วก็ไอ้นี้ครับลูกน้องยื่นบางอย่างมาให้ผม ผมเหลือบตามองนิดนึง มันคือโทรศัพท์มือถือ
ตอนที่เราไปดักจับตัวว่าที่ผู้นำตระกูลสายลม เรายึดมันมาด้วยครับ ตอนแรกมีคนโทรมาไม่หยุด แต่ตอนนี้โทรศัพท์แบ็ตหมดไปแล้วครับผมรับโทรศัพท์มาดู เป็นของนักโทษของผมหรอ
ขอบใจ นายไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะลงไปจัดการไอ้พวกผู้บริหารน่าโง่เองผมบอก
ครับลูกน้องก้มโค้งให้ผมอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไป
วิธีการจัดการกับศัตรูของผมไม่มีอะไรยากหรือซับซ้อน ผมลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะทำงาน เปิดลิ้นชักออกมาก็พบกับวัตถุสีเงินอยู่ในนั้น ผมคว้ามันขึ้นมาจ้องมองความแวววาวของมัน รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผม

********

[Kim Him Chan]

หลังจากไอ้ยงกุกโยน ขอเน้นว่าโยนครับ มันโยนผมเข้ามาในห้องจนหน้าผมแทบแถกับพื้น นี้มันจะพูดให้ผมเดินเข้าไปเองดีๆไม่ได้รึไงว่ะ จากนั้นมันก็ปิดประตูขังผมไว้ แถมยังสั่งให้ลูกน้องเฝ้าไว้หน้าห้องอีก
ที่ประตูระเบียงถูกปิดแน่นหนา มันคงกลัวว่าผมจะปีนหนีอีก แล้วคราวนี้คงจะได้ตกไปตายจริงๆแน่นอน แต่ขอบอกฮิมชานเข็ญครับ นึกแล้วขายังสั่นอยู่เลย
ผมเดินมาทิ้งตัวนอนบนเตียง ป่านนี้ที่บ้านผมจะเป็นยังไงบ้างนะ พ่อกับแม่จะเป็นห่วงผมแค่ไหน บอดี้การ์ดของพ่อต้องกำลังตามหาผมอยู่แน่เลย เมื่อไหร่พวกเขาจะตามหาผมเจอซักที แล้วเพื่อนผมหละ ไอ้ยองแจกับไอ้จงออบพวกมันจะรู้รึยังว่าผมโดนจับตัวมา ผมหลับตาลงคิดอะไรต่างๆมากมาย....
แกร๊ง...ปึ้ง!”เสียงประตูกระแทกเปิดออกอย่างแรง ผมดีดตัวลุกขึ้นมา ไอ้ยงกุกเดินเข้ามาหาผม มุมปากมันยกยิ้ม
มึงจะทำอะไร...ผมถาม ก่อนจะต้องเบิกตากว้าง เพราะไอ้ยงกุกมันกำลังถือปืนอยู่ มันเดินเข้ามาหาผม
โอ้ย! ไอ้เชี่ย...ทำอะไรของมึงว่ะมันกระชากผมให้ลุกขึ้นก่อนจะลากผมออกไปนอกห้อง
…….
…………..
…………………
ไอ้ยงกุกลากผมมาที่ชั้นใต้ดิน มันเป็นทางเดินทอดยาว มีแต่กลิ่นอับชื้น แถมพื้นก็ยังเปียกแฉะ นี้มันจะลากผมไปไหนกัน มันคงไม่ได้คิดจะฆ่าผมที่นี้ใช่ไหม ผมพยายามฝืนตัวเองไว้ มันจึงทั้งฉุดทั้งกระชากจนผมเจ็บข้อมือไปหมด
มันลากผมมาจนสุดทาง มีประตูบานหนึ่งกับลูกน้องมันยืนเฝ้าอยู่ ความกลัวเริ่มเกาะกุมจิตใจ ผมสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของมัน แล้วหันหลังเตรียมจะวิ่งหนี แต่แล้วหัวผมก็ถูกกระชากไว้
โอ้ยย! ไอ้เชี่ยเจ็บ!”
มึงต้องเข้าไปกับกู!”มันบอกก่อนจะกระชากหัวผมเข้าไปในห้องห้องนั้น
ลูกน้องมันเดินตามเข้ามาด้านหลัง ประตูห้องปิดลง มันปล่อยให้ผมยืนอยู่ข้างๆ ผมมองภายในห้องที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟสลั่วๆจากคบเพลิงที่ลูกน้องมันถือเข้ามาด้วย
มึงพากูเข้ามาในห้องนี้ทำไม...ผมถามมันด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของไอ้ยงกุกพออยู่ใต้แสงไฟยิ่งดูโหดร้ายมากขึ้น มันแสยะยิ้มออกมา
ลูกน้องของมันคนหนึ่งเดินเข้าไปด้านในสุดของห้อง ก่อนจะลากคนสามคนออกมา ทั้งสามคนมีถุงดำคลุมหัวอยู่ ไอ้ยงกุกจับคนมา! ผมหันไปมองหน้ามัน มันจ้องมองทั้งสามร่างนั้นมุมปากแสยะยิ้ม
นี่มึงกำลังจะทำอะไร...ผมถามอีกครั้ง มันกระชากผมเข้าไปหา ก่อนจะจับผมหันหน้าไปหาทั้งสามร่างที่คุกเข่าอยู่ ผมไม่เข้าใจว่ามันจะทำอะไร
ไอ้ยงกุกยืนซ้อนด้านหลังของผม มันเอาปืนยัดใส่มือผมก่อนจะยกขึ้นเร็งไปที่ทั้งสามคนนั้น ผมเบิกตากว้างนี้มันจะให้ผมฆ่าคนงั้นหรอ! ผมดึงมือออกไม่ยอมทำตามมัน
มึงบ้าไปแล้วหรอ! นี้เมิงกำลังจะฆ่าคนเลยนะผมว่า มันยกยิ้มก่อนจะบังคับให้ผมถือปืนจ่อไปข้างหน้าอีกครั้ง คนทั้งสามถึงจะมองไม่เห็นแต่ก็รู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย พวกเขาส่งเสียงร้องออกมา มือผมสั่นระริก เหงื่อมากมายผุดขึ้นมาบนใบหน้า ผมไม่อยากทำ ผมจะไม่ยอมฆ่าพวกเขา
ไอ้เชี่ย! กูไม่ทำปล่อยกูนะผมพยายามดึงมือออกอีกครั้ง แต่ไอ้ยงกุกก็จับมือผมไว้แน่น มันเอานิ้วผมไปสอดไว้ที่ไกปืน ผมหลับตาแน่น
ปัง!”กระสุนถูกยิงออกไป หัวใจผมกระตุกวูบ
หึ ลืมตาขึ้นดูฝีมือตัวเองสิผมค่อยๆลืมตาขึ้นมอง ร่างของหนึ่งในสามร่างค่อยๆหงายหลังลงพื้น กระสุนเจาะเข้าที่หัวพอดี เลือดสีแดงฉานไหลอาบพื้น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วห้อง ผมเบิกตากว้างจ้องมอง น้ำตาค่อยๆไหลลงมาอาบแก้ม มือที่ยิงออกไปสั่นระริกด้วยความกลัว ผมฆ่าเขาไปแล้ว!
หึๆ รู้สึกยังไงบ้างหละที่ได้ฆ่าคนไอ้ยงกุกกระซิบที่ข้างหูผม คำพูดของมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่ ผมร้องไห้โฮออกมา ไอ้ยงกุกเหยียดยิ้มที่มุมปาก มันยกปืนขึ้นจ่ออีกสองคนที่เหลือ ผมทำท่าจะเดินหนีออกไปเพราะไม่อยากเห็น แต่มันกลับล็อกเอวผมไว้แน่นไม่ให้ผมไปไหน
ปล่อย! กูไม่อยากเห็นมึงฆ่าคน ปล่อยกู...ผมว่า
มึงต้องดู ดูแล้วจำใส่กะโหลกมึงไว้ด้วย ว่ากูอยากฆ่าใครก็ฆ่าได้มันบอกก่อนจะยกปืนขึ้นเร็งอีกครั้ง ผมหันหน้าเข้าหาแผ่นอกมันทันที มือผมเกาะที่เอวมันแน่น
ปัง! ปัง!”เสียงปืนดังลั่น ผมหลับตาแน่นซุกใบหน้าเข้ากับแผ่นอกของมัน ตัวผมสั่นไประริกเพราะความกลัว
คนทั้งสองตายคาที่ ไอ้ยงกุกลดปืนลงก่อนจะหันไปเอ่ยสั่งลูกน้อง
เก็บศพพวกมันให้เรียบร้อยด้วย
ครับลูกน้องมันขานรับก่อนจะช่วยกันลากศพออกไป
เสียงปืนเงียบไปแล้ว คนที่ถูกจับมาก็โดนฆ่าตายแล้ว แต่ผมยังคงกอดไอ้ยงกุกแน่น น้ำตามากมายไหลออกมาไม่หยุด ภายในห้องนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองรึเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าไอ้ยงกุกกำลังลูบหัวผมอยู่ ก่อนที่จู่ๆมันจะผลักผมออกจากตัวมัน
อย่ามาทำเป็นสำออย ทำเป็นไม่เคยเห็นคนถูกฆ่าตายหน่อยเลย มึงเองก็เป็นคนฆ่าพวกมันไปคนหนึ่งไม่ใช่รึไงมันบอกพร้อมกับเหยียดยิ้ม
ไอ้เชี่ยยงกุก! จิตใจมึงทำด้วยอะไรว่ะ มึงมันเลวคิดจะฆ่าใครก็ฆ่าผมกดด่ามัน ไอ้ยงกุกเดินเข้ามาบีบคางผม
ใช่! กูมันเลวคิดจะฆ่าใครก็ฆ่า และอีกไม่นานมึงก็จะเป็นแบบพวกมัน!”มันสะบัดคางผมออกอย่างแรง ผมได้แต่มองหน้ามันด้วยความโกรธ สุดท้ายผมก็คงต้องตายอย่างที่มันว่าใช่ไหม ตายด้วยน้ำมือของมัน....

*********

[Yoo Young Jae]

แสงแดดรอดเข้ามาในห้องนอน ผมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น แขนของไอ้เซโล่ยังคงโอบกอดผมเอาไว้ ผมหันไปมองหน้ามันเวลาหลับ เวลามันหลับก็ดูน่ารักดีหรอก แต่ไม่รู้ทำไมเวลาตื่นถึงได้กวนตีนนักนะ
ผมขยับตัวลุกขึ้น ความเจ็บปวดที่ด้านหลังบรรเทาลงแล้ว ทำให้ผมขยับตัวได้ง่ายหน่อย ผมจับแขนไอ้เซโล่ออกจากเอว แล้วเอาไปพาดไว้ที่หมอนข้างแทน มันดึงหมอนข้างเข้าไปกอด ผมมองมันยิ้มๆ
ตอนนี้ก็สายมากแล้ว ผมว่าผมควรจะอาบน้ำแล้วกลับบ้านได้แล้วหละ ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวของไอ้เซโล่มาพันไว้รอบเอวกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำไป แต่ขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นขวดยาที่โต๊ะข้างหัวเตียง
ผมขมวดคิ้วมุ่น นั้นมันกระปุกยาอะไร? ไอ้เซโล่ต้องกินยาด้วยหรอ มันป่วยรึไงกัน ผมเดินเข้าไปคว้าขวดยาขึ้นมา กำลังจะหมุดขวดดูชื่อยาที่ติดไว้
ทำอะไรน่ะ!”ไอ้เซโล่ที่ไม่รู้ว่าตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เอ่ยถาม ผมสะดุ้งเผลอปล่อยกระปุกยาหล่นจากมือทันที
อ เออ...กูแค่อยากรู้ว่ามึงกินยาอะไรน่ะ มึงไม่สบายหรอ...ผมถาม แล้วทำไมผมต้องอึกอักด้วยหละเนี้ย... มันทำสีหน้าเรียบนิ่งก้มลงมองกระปุกยาที่อยู่ที่พื้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม ทำไมสายตามันนิ่งจนดูน่ากลัวจังว่ะ
ยาแก้ปวดหัวน่ะ กูปวดหัวบ่อยก็เลยต้องมียาติดไว้ในห้องนอนมันตอบก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา ผมพยักหน้ารับค่อยรู้สึกโล่งหน่อย คิดว่ามันจะโกรธซะแล้ว
มึงกำลังจะอาบน้ำหรอ ให้กูอาบด้วยนะมันว่าก่อนจะรีบลุกขึ้นมากอดผม
เห้ย...ไม่ต้องเลย กูจะอาบคนเดียว มึงรออาบทีหลังดิผมดันมันให้ปล่อยตัวผมออก แต่มันยิ่งกระชับกอดมากขึ้น แถมยังหอมแก้มผมอีกหลายที
ไอ้เซโล่...มึงทำอะไรเนี้ยผมขมวดคิ้วหันไปมองมัน
ทำไมอ่ะ ก็มึงเป็นเมียกูแล้วนะ กูหอมมึงผิดด้วยหรอผมหน้าแดงขึ้นมาเมื่อมันเน้นสถานะของผมกับมัน
ปล่อยดิว่ะ กูจะไปอาบน้ำ เดี๋ยวมึงค่อยอาบที่หลัง
ไม่เอาอ่ะ กูจะอาบพร้อมมึง ไปอาบน้ำกันนะยองแจ...มันลากเสียงหวาน ก่อนจะลากผมเข้าไปในห้องน้ำจนได้ สุดท้ายผมก็ต้องยอมมันอยู่ดี แต่ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป ผมหันกลับไปมองที่กระปุกยาอีกครั้ง ก็คงเป็นยาแก้ปวดหัวจริงๆนั้นแหละ นี้ผมจะคิดอะไรมากเนี้ย....

**********


วันนี้พี่แดฮยอนก็มาที่บ้านผมอีกแล้ว เขากำลังนั่งคุยอยู่กับพี่จียอนที่ห้องนั่งเล่น ผมที่เพิ่งไปเรียนพิเศษกลับมาเดินผ่านเข้าพอดี ถ้าเป็นปกติผมคงจะเดิน
เข้าไปหาพี่จียอนแล้ว แต่ตอนนี้ผมไม่อยากจะรบกวนการทำความรู้จักซึ่งกันและกันของพวกเขาทั้งสองคน ผมจึงจะแกล้งเดินผ่านไปอย่างเงียบๆ
อ้าว... จงออบกลับมาแล้วหรอผมชะงักเท้าทันทีเมื่อพี่จียอนเอ่ยทัก ผมหันไปมองพี่จียอนก่อนจะเบนสายตาไปมองอีกคนหนึ่ง เขาฉีกยิ้มส่งมาให้ผม แต่ผมไม่ได้ยิ้มตอบ ผมหันกลับไปมองพี่จียอนอีกครั้ง
กลับมาแล้วครับ ผมขอตัวนะครับผมบอกพร้อมกับเอ่ยลา ผมก้มหัวให้นิดนึงแล้วกำลังจะเดินจากไป
เดี๋ยวสิจงออบ... มาทานขนมกับพี่แล้วก็พี่แดฮยอนก่อนสิผมหยุดนิ่ง ก่อนหันกลับไปมองที่พวกเขาทั้งคู่อีกครั้ง ใบหน้ายิ้มแย้มของพี่จียอนทำให้ผมต้องยอมเดินไปนั่งลงข้างๆ
นี่ค่ะพี่แดฮยอนขนมเค้กฉันทำเอง...พี่จียอนยื่นจานขนมเค้กที่แม่บ้านเอามาให้ ส่งให้คนที่นั่งตรงข้ามกับผม
แล้วนี่ก็ของจงออบจ๊ะพี่จียอนส่งอีกจานให้ผม ผมรับมาก่อนจะตักขนมเค้กเข้าปาก รสชาติของมันไม่ต้องพูดถึง เพราะพี่จียอนทำขนมเค้กอร่อยอยู่แล้ว ผมได้กินมันบ่อยๆเป็นประจำ
อร่อยมั้ยค่ะพี่จียอนถาม เมื่ออีกคนตักเค้กเข้าปาก
อร่อยมากครับ จียอนชอบทำขนมเค้กหรอ
ค่ะ ทำเป็นงานอดิเรกนะค่ะ พอมีเวลาว่างก็จะทำพี่จียอนตอบยิ้มๆ
แล้วจงออบหละ เวลาว่างชอบทำอะไรจู่ๆพี่แดฮยอนก็หันมาถามผม เล่นเอาซะผมเกือบสำลักเค้ก ทั้งคู่หันมาจ้องหน้าผมรอคำตอบ
เต้น ผมชอบเต้นนะครับ ถ้าว่างก็จะซ้อมเต้น แต่โดนพ่อดุบ่อยๆว่าไร้สาระผมตอบตามความเป็นจริง พี่แดฮยอนพยักหน้ารับนิดๆ ผิดคลาด ผมคิดว่าเขาจะหัวเราะซะอีก
แล้วอาหารหละ จงออบชอบทานอะไรเขาถามผมต่อ ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าเขาจะถามผมทำไมกัน ทั้งๆที่พี่จียอนก็นั่งอยู่ตรงหน้า
ผมกินได้ทุกอย่างครับผมบอก
หรอ แล้วจงออบชอบทำอย่างอื่นอีกมั้ยนอกจากเต้น ชอบดูหนังรึเปล่า ชอบฟังเพลงด้วยมั้ยนี้เขาจะสัมภาษณ์ผมเข้าทำงานรึไงกัน ผมหันไปมองหน้าพี่จียอน พี่จียอนไม่ได้ว่าอะไรทำเพียงแค่นั่งยิ้มมองผมกับพี่แดฮยอนคุยกัน แต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ นี้มันไม่ถูกต้อง เขาต้องถามพี่จียอนสิไม่ใช่ผม
คือ... ผมขอตัวก่อนนะครับ ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายผมบอกก่อนจะวางจานขนมเค้กลง แล้วลุกขึ้นเดินออกมา
อ๊ะ! เดี๋ยวสิ จงออบเสียงพี่จียอนเรียกตามหลัง แต่ผมไม่ได้หันกลับไป พวกเขาสองคนกำลังจะหมั้นกัน และอีกไม่นานก็จะแต่งงานกัน ผมไม่ควรจะเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับพวกเขามากนัก
…….
………….
…………………
ผมขึ้นมานั่งอ่านหนังสืออยู่บนห้องนานหลายชั่วโมงจนท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีดำ ผมวางหนังสือลงก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง ป่านนี้เขาคงจะกลับไปแล้วสินะ อ๊ะ! แล้วผมจะนึกถึงเขาทำไมกัน ผมไม่ควรจะยุ่งกับเขาอีก...
ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณป้าแม่บ้านจะเดินเข้ามา ผมหันไปมอง
คุณจงออบค่ะ คุณผู้หญิงให้มาตามลงไปทานอาหารค่ะ วันนี้เรามีแขกผมขมวดคิ้ว วันนี้บ้านเรามีแขกมาทานอาหารด้วยงั้นหรอ ใครกัน?
ครับ เดี๋ยวผมจะตามลงไปผมเอ่ยบอก ป้าแม่บ้านก้มโค้งให้ก่อนจะเดินออกไป ผมหันกลับไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง
อ๊ะ! หิมะตกผมทำตาโต ก่อนจะเดินเข้าไปชิดกับหน้าต่าง ตอนนี้ก้อนหิมะสีขาวกำลังล่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน ผมจ้องมองอย่างหลงใหล อยากจะออกไปเดินเล่นข้างนอกจัง ถ้าทานอาหารเสร็จแล้ว ผมว่าผมออกไปเล่นหิมะซักหน่อยดีกว่า....
…….
…………..
…………………
ผมเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร แต่แล้วขาก็ต้องชะงัก เมื่อพี่แด ฮยอนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารด้วย เขาคือแขกที่ป้าแม่บ้านบอกหรอกหรอ....
จงออบมาแล้วก็รีบนั่งลงสิลูก ปล่อยให้แขกรอนานไม่ดีนะแม่หันมาบอกผม ผมรู้สึกอยากหันหลังกลับขึ้นไปบนห้องจัง แต่ถ้าทำอย่างนั้นจริงๆผมคงโดนดุแน่ ผมจึงต้องจำใจเดินไปนั่งตรงข้ามกับคนที่ผมพยายามหลีกหนี
ผมเหลือบมองคนตรงหน้านิดหน่อย พี่แดฮยอนกำลังส่งยิ้มมาให้ผม แต่ผมทำเป็นไม่สนใจ
ตักข้าวสิแม่หันไปสั่งแม่บ้าน ทุกคนเริ่มรับประทานอาหารกัน ผมรู้สึกทานไม่ลง
คุณแดฮยอนมาที่นี้บ่อยๆก็ดีแล้วค่ะ จะได้รู้จักกับจียอนมากขึ้นแม่เอ่ยชวนคนตรงข้ามผมคุย แต่ทำไมคำพูดของแม่ช่างดูนอบน้อมจังนะ
ครับพี่แดฮยอนตอบรับยิ้มๆ
จียอนตักกับข้าวให้พี่แดฮยอนสิลูกพี่จียอนตักอาหารใส่จานให้พี่แด ฮยอนตามคำสั่ง ก่อนที่ทั้งคู่จะหันมายิ้มให้กันและกัน ทั้งคู่ช่างดูเหมาะสมกันจริงๆ ผมได้แต่คิดในใจ
อร่อยมั้ยค่ะแม่เอ่ยถามอีกครั้ง
อร่อยมากครับพี่แดฮยอนตอบ ตอนนี้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารชักทำให้ผมรู้สึกแย่ คนนู้นคนนี้ต่างเอาใจร่างสูงตรงข้ามผมเหลือเกิน ผมได้แต่นิ่งเงียบจ้องมองข้าวในจานของตัวเอง
จงออบเป็นอะไรรึเปล่าจู่ๆคนตรงข้ามผมก็เอ่ยถาม ผมเงยหน้ามองอย่างอึกอัก ทุกสายตาบนโต๊ะอาหารหันมามองที่ผม
เปล่าผมตอบห้วนๆ แม่และพ่อเบ่งตากว้างดุผมทางสายตา
เปล่าครับผมตอบใหม่อีกครั้ง และครั้งนี้แม่กับพ่อก็พอใจ นี้มันจะอะไรกันนักกันหนาเนี้ย
จงออบนายทานไปนิดเดียวเอง ทานอันนี้สิพี่ตักให้นะพี่แดฮยอนยังไม่เลิกยุ่งกับผม เขาตักอาหารใส่จานผมให้ ผมชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ แต่ก็ต้องเอ่ยขอบคุณ ไม่งั้นพ่อกับแม่คงดุผมอีกแน่
ลองชิมไวท์ของตระกูลเราหน่อยมั้ยครับ เป็นไวท์รสเลิศเลยนะพ่อผมพูดขึ้น ก่อนจะสั่งให้แม่บ้ายรินไวท์ให้ว่าที่ลูกเขยของตัวเอง ผมมองพ่ออย่างแปลกใจ เพราะไวท์ขวดนั้นพ่อไม่เคยเอาออกมาดื่มซักครั้ง แม้แต่มีแขกคนสำคัญมาบ้านพ่อก็ยังไม่เคยหยิบออกมา แต่ทำไมครั้งนี้ถึงเป็นกรณีพิเศษกัน
ผมชักรู้สึกไม่พอใจแล้วสิ ทำไมทุกคนต้องเอาใจเขาด้วย เขาก็แค่เป็นว่าที่คู่หมั้นของพี่จียอนเองไม่ใช่หรอ
ปึง!”ผมลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง ทุกคนหันมามองอย่างอึ้งๆ แม้แต่พี่แดฮยอน
จงออบทำอะไรน่ะ! นั่งลงเดี๋ยวนี้นะ!”แม่ผมหันมาต่อว่า แต่ผมไม่สนใจหรอก
ผมอิ่มแล้วครับ ผมขอตัว...ผมบอกก่อนจะหันหลังเดินออกมา พ่อกับแม่มีท่าทางเลิกลั่ก และในขณะที่ผมเดินพ้นประตูออกมาแล้ว ก็ได้ยินเสียงพ่อกับแม่พูดขึ้น
อ เออ...ขอโทษด้วยนะค่ะ จงออบนิสัยแย่จริงๆเลย ทำกิริยาแบบนั้นได้ยังไงกัน
ไอ้ลูกคนนี้มันนิสัยไม่ดี เป็นเด็กเกเร แดฮยอนอย่าไปใส่ใจเลยนะ
แม่ค่ะ พ่อค่ะ ทำไมพูดแบบนั้นหละเสียงพี่จียอนพูดขึ้น ผมรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา ผมที่เคยเป็นเด็กดีมาตลอด แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กนิสัยแย่ในสายตาของพ่อและแม่ไปแล้ว เพราะเพียงแค่ต้องการผู้ชายคนนั้นมาเป็นลูกเขย แล้วผมที่เป็นลูกชายแท้ๆหละ ผมไม่มีค่าเลยใช่ไหม
ผมเลิกสนใจคำพูดเหล่านั้นก่อนจะเดินออกมา จุดหมายของผมคือข้างนอกบ้านที่กำลังมีหิมะตกอยู่ หิมะที่ผมชอบ มันอาจจะช่วยปลอบใจผมได้ก็ได้นะ
…….
…………..
………………..
ผมเดินออกมาที่ด้านนอกด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว หิมะสีขาวกำลังตกลงมาจากท้องฟ้าสู่ร่างของผม ผมยกมือขึ้นมาลองรับมันไว้ มันทั้งนิ่มและเย็นแต่สักพักก็ละลายหายไปกลายเป็นน้ำอยู่บนมือของผมแทน
ผมจ้องมองหิมะที่โปรยปรายลงมา แต่แล้วน้ำตาก็ค่อยๆไหลอาบใบหน้าของผม ตอนนี้ผมกำลังร้องไห้...ความหนาวของอากาศข้างนอกนี้ยังไม่เท่ากับความเหน็บหนาวข้างในหัวใจของผมซักนิดเลย
ผมยกมือขึ้นกำสร้อยคอรูปเกล็ดหิมะที่คอ มันยังเป็นของของผมอยู่รึเปล่านะ ครอบครัวนี้มันยังเป็นของผมอยู่อีกรึเปล่า....
หิมะกำลังตก ออกมายืนทำไมข้างนอก เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกเสียงๆหนึ่งพูดขึ้นที่ด้านหลังของผม ผมรีบหันกลับไปมอง
พี่แดฮยอน...เขายกยิ้มบางๆมาให้ ผมรีบหันหน้ากลับ ไม่อยากเห็นหน้า ผมไม่อยากเห็นอีกแล้วรอยยิ้มแบบนั้น รอยยิ้มที่ดูใจดีกับผม
จู่ๆก็มีเสื้อตัวใหญ่มาคุมร่างของผมเอาไว้ เป็นพี่แดฮยอนนั้นเองที่เอามันมาคุมให้ผม เขายกยิ้มให้ผมอีกครั้ง แต่ผมกลับรู้สึกเจ็บปวด ผมสะบัดเสื้อที่เขาคุมให้ออก ก่อนจะหันหลังจะเดินหนีเข้าบ้าน แต่มือแกร่งกับจับข้อมือผมเอาไว้ ผมหันหน้ากลับไปมอง นี้ผมตาฝาดรึเปล่า เพราะผมเห็นสายตาซึมเศร้าของเขาที่มองมาที่ผม
กรุณาปล่อยผมด้วยครับผมเอ่ยบอกด้วยคำสุภาพ แต่มือนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อยผมซักที
นายเป็นอะไรน่ะจงออบ... ทำไมต้องทำท่าทางแบบนี้กับพี่ด้วยเขาถาม ผมได้แต่นิ่งเงียบ นี้เขาต้องการอะไรจากผมกันแน่
จงออบ... พี่คิดว่านายคิดอย่างเดียวกับพี่ซะอีก พี่คิดว่านายจะรู้สึกเหมือนที่พี่รู้สึก พี่ชอบ...
หยุดนะ! นี้คุณจะพูดอะไรกัน ปล่อยผมด้วยครับผมรีบเอ่ยห้ามไว้ ผมตกใจมาก ผมรู้ดีว่าเขากำลังจะพูดอะไร และผมยอมให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ เขาเป็นว่าที่คู่หมั้นของพี่จียอน
แต่จงออบ...
พอเถอะครับ ผมรู้ว่าพี่แดฮยอนรู้สึกอะไร ผมก็แปลกใจที่ผมเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน แต่นี้มันไม่ถูกต้อง พี่เป็น...
เป็นแฟนกับพี่นะจงออบ...ผมอ้าปากค้าง แววตาที่ดูจริงจังจับจ้องมาที่ผม หิมะที่โปรยปรายลงมาดูช้าลง นี้เขาขอผมเป็นแฟนงั้นหรอ

ต แต่...พี่จียอน อุ๊บ!”ริมฝีปากของผมถูกประกบ ผมไม่สามารถจะต้านทานความรู้สึกตัวเองได้อีกต่อไป ผมยกแขนขึ้นโอบรอบคอร่างสูงไว้ เราทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา ผมและเขาค่อยๆถอนจูบออกจากกันอย่างอ่อยอิ่ง เราสบตากันอย่างลึกซึ้ง
ตกลงเป็นแฟนกับพี่นะครับเสียงทุ้มเอ่ยถามอีกครั้ง และครั้งนี้ผมคงปฏิเสธไม่ได้อีกแล้ว
ครับพี่แดฮยอน...

**********

[Zelo]                 

ตอนนี้ผมกำลังขับรถไปส่งยองแจที่บ้าน ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิทหิมะกำลังตกลงมา ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างๆที่ทำหน้าตาบูดบึ้ง
เป็นอะไรว่ะผมเอ่ยถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นอะไร
ก็มึงนั้นแหละ กูบอกว่าอย่าทำๆ เสือกทำต่ออีกในห้องน้ำ ดูดิกว่ากูจะได้กลับบ้านมืดพอดีเสียงหวานเอ่ยต่อว่าผม แต่ผมกลับยิ้มร่าออกมา ก็ใครมันจะไปทนไหวกัน เห็นร่างเปล่าเปื่อยขาวๆอวบๆของมันยื่นอาบน้ำต่อหน้า
ก็มึงมันหน้าฟัดนิหวาผมบอก ไอ้ยองแจหน้าแดงแจ๋ขึ้นมา มันหันมาตีแขนผม
เห้ย... ไอ้ยองแจกูเจ็บนะเว้ย แล้วกูขับรถอยู่ด้วยเดี๋ยวก็ตายกันพอดีมันเลิกตีผม แล้วหันกลับไปจ้องข้างนอกรถแทน หน้าของมันยังดูโกรธๆผมอยู่
ไอ้ยองแจ....ผมลองเอ่ยเรียกมัน แต่มันก็ไม่ยอมหันมามอง
ยองแจอ่า....ผมเรียกมันอีกครั้ง มันก็ยังทำเป็นไม่สนใจผม นี้มันโกรธผมจริงๆหรอเนี้ย
เมียจ๋า....และครั้งนี้ได้ผล มันรีบหันควับมามองด้วยสายตาเคืองๆ
รู้ตัวด้วยว่าเป็นเมียกู ดีใจจังผมบอกมันยิ้มๆ
พ่อมึงสิ อย่ามาเรียกกูแบบนั้นนะเว้ย...มันบอกหน้าบึ้ง ก็มันเป็นเมียผมจริงๆอ่ะ ผมเรียกมันแบบนั้นผิดด้วยหรอ แต่ผมว่าผมเลิกแกล้งมันดีกว่า ด้วยโกรธขึ้นมาจริงๆแล้วจะยุ่ง
กูไม่เรียกแบบนั้นแล้วก็ได้ แต่มึงก็เลิกงอนกูได้แหละผมบอก มันก็ไม่ตอบอะไร
ตอนนี้ใกล้จะถึงบ้านไอ้ยองแจแล้ว ผมเลี้ยวรถก่อนจะขับเข้าไปจอดที่หน้าบ้านของมัน พอรถจอดสนิทไอ้ยองแจก็เปิดประตูรถจะเดินลงไปเลย ผมรีบคว้าข้อมือของมันไว้ก่อน มันหันกลับมามองหน้าผม
อะไรของมึงอีกอ่ะมันถามอย่างไม่สบอารมณ์นัก ผมจ้องหน้ามันก่อนจะเอื้อนเอ่ยออกมาเบาๆแต่ชัดเจนให้มันได้ยิน
กูรักมึงนะ ไอ้ยองแจ...
มันนิ่งค้างก่อนใบหน้าจะขึ้นสีแดงระเรื่อ ผมฉีกยิ้มบางๆให้กับมันก่อนจะยอมปล่อยข้อมือมันให้เป็นอิสระ ประตูรถปิดลง ผมค่อยๆเคลื่อนรถออกมาจากหน้าบ้านของมัน แต่ที่กระจกมองหลังยังสะท้อนภาพของมันยืนมองตามรถผมอยู่ ผมอมยิ้มมองเงาสะท้อนของมัน
“Rrrrrrrrrr”เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ขัดความสุขของผมจริงๆ ผมรีบคว้ามันขึ้นมากดรับสาย
ไอ้เซโล่ มาเจอกูที่บ่อนหน่อยเป็นไอ้ยงกุกนั้นเองที่โทรมา
ห๊ะ ตอนนี้เลยหรอว่ะผมถามกลับไป ไหนมันบอกว่ามันจะไม่อยู่สักพักไง แล้วทำไมจู่ๆบอกให้ผมไปหามันว่ะ
กูมีเรื่องจะคุยกับเมิง เรื่องแฟนมึ
สิ้นคำพูดของไอ้ยงกุก ผมก็เหยียบคันเร่งไปที่บาร์มันทันที เรื่องยองแจงั้นหรอ เรื่องอะไรกัน?

[Yoo Young Jae]

ใจผมกำลังเต้นแรง ผมยกมือขึ้นมาจับที่หน้าอก ตาก็มองตามรถของไอ้เซโล่ที่ขับออกไป นี้มันอยากจะทำให้ผมหัวใจวายตายรึไงเนี้ย... คิดจะพูดคำนั้นออกมาก็พูด เล่นเอาซะผมตั้งตัวไม่ทัน
ไอ้บ้าเซโล่...ถึงปากจะว่าอย่างงั้น แต่หน้าผมก็ยังไม่หายแดงซักที ทำไมผมถึงต้องเขินขนาดนี้ด้วยนะ ผมไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อยที่จะมาเขินกับคำพูดหวานๆแบบนี้
ผมสะบัดหัวไล่ความคิดไล่ความรู้สึกทั้งหมดออกไป แต่คำพูดเมื่อกี้ของไอ้เซโล่ก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว สุดท้ายผมก็ต้องกุมใบหน้าที่แดงแจ๋เข้าบ้านไป ถ้าคนในบ้านเห็นหน้าผมตอนนี้จะบอกว่าผมป่วยรึเปล่าเนี้ย เป็นเพราะไอ้เซโล่คนเดียวเลย ให้ตายสิ

**********

[Zelo]

ผมเดินเข้ามาภายในบ่อนใต้ดินของไอ้ยงกุก ที่นี้ยิ่งกลางคืนคนยิ่งคับคลั่ง เสียงเพลงเปิดดังกระหึ่มเพราะเป็นบ่อนกึ่งบาร์ กลิ่นเหล้าและกลิ่นบุหรี่คละคลุ้ง ผมรีบเดินตรงไปที่ห้องทำงานของไอ้ยงกุก ลูกน้องมันที่เฝ้าหน้าห้องก้มโค้งให้ก่อนจะเปิดประตูให้ผม
 “ไอ้ยงกุก...ผมเอ่ยทักมันที่กำลังนั่งพิงโซฟาสูบบุหรี่อยู่ มันหันมามองผมก่อนจะทิ้งบุหรี่ในมือลงที่เขี่ยบุหรี่ ผมเดินไปนั่งตรงข้ามมันสีหน้าตึงเครียด


มึงไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นก็ได้ไอ้เซโล่...มันบอก ก็ผมเครียดอ่ะเรื่องของไอ้ยองแจเมียผมเลยนะ
มึงจะบอกอะไรกูเรื่องไอ้ยองแจ...ผมเข้าประเด็ดถาม มันโยนโทรศัพท์เครื่องหนึ่งมาให้ผม
ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก โทรศัพท์เครื่องนั้นมันเป็นของนักโทษกูน่ะ กูเอาไปชาร์ตแบตแล้วเห็นชื่อของคนที่โทรเข้ามาเหมือนชื่อเมียมึง เลยอยากจะถามว่านั้นใช้เบอร์เมียมึงรึเปล่าไอ้ยงกุกบอก ผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นดู กดไปที่เบอร์โทรเข้า มีรายชื่อไอ้ยองแจขึ้นมาเป็นร้อยๆสาย พอกดเช็คเบอร์ดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของไอ้ยองแจจริงๆ
ใช่ นี่เบอร์ของไอ้ยองแจผมขมวดคิ้วบอกมัน มันพยักหน้ารับ นี้มันเอามาให้ผมดูทำไม
กูแค่อยากให้มึงช่วยดูเมียมึงไว้หน่อย กูกลัวว่าเมียมึงจะตามหานักโทษของกู
มึงอย่าบอกนะว่านักโทษของมึงคือฮิมชาน เพื่อนของยองแจน่ะมันพยักหน้าตอบข้อสงสัยของผม
เห้ย! ไอ้ยงกุกกูรู้ว่ามึงแค้นตระกูลเขามาก แต่มึงทำอย่างนี้มันไม่ถูกนะเว้ย
มึงจะมาห้ามกูอะไรตอนนี้ว่ะ ขนาดฆ่าคนกูยังทำได้เลย
มันก็จริงอย่างที่มันพูด ผมจะมาห้ามอะไรมันตอนนี้ ทั้งเรื่องผิดกฎหมาย ยาเสพติด การพนัน เราก็ทำมันมาด้วยกันทั้งนั้น และผมจะไม่ขอบอกว่าผมเองไม่เคยฆ่าคน ผมฆ่าคนมาก่อนไอ้ยงกุกซะอีก...


ตามใจมึงหละกัน กูจะช่วยได้แค่เรื่องไอ้ยองแจเท่านั้น เพราะกูก็ไม่อยากให้ไอ้ยองแจเข้าไปพัวพันกับการแก้แค้นของมึงด้วย...ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นเดินจากมา และเผลอถือโทรศัพท์ที่ไอ้ยงกุกส่งมาให้ดูติดมือมาด้วย ถ้าไอ้ยองแจเกิดรู้ว่าเพื่อนตัวเองหายไป ไอ้ยองแจมันจะตามหารึเปล่านะ แล้วถ้ามันพยายามตามหาผมจะขัดขวางได้ยังไง......

********

[Yoo Young Jae]

“Rrrrrrrrrrr”
ผมที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จรีบวิ่งออกมารับโทรศัพท์ที่ร้องดังอยู่นานแล้ว ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กยังคงอยู่บนหัว
ฮัลโหล...ผมกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์
ทำไมรับช้าจังว่ะปลายสายพูดอย่างไม่พอใจนัก เป็นไอ้เซโล่เองครับที่โทรมา ผมเดินไปนั่งที่ขอบหน้าต่าง ก่อนจะเอ่ยตอบมัน
กูไปอาบน้ำมา มึงมีอะไรอ่ะโทรมาป่านนี้...ผมถามกลับ แต่มันนิ่งเงียบไป มันเป็นอะไรรึเปล่านะ
คืนนี้ท้องฟ้าสวยเนอะมันบอก ผมไม่เข้าใจว่ามันมาอารมณ์ไหนของมัน แต่ผมก็เงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีดาวระยิบระยับ
อือ... สวย...ผมบอก
มึงเป็นอะไรรึเปล่าไอ้เซโล่... คงไม่ได้โทรมาชวนกูดูท้องฟ้าเฉยๆหรอกนะผมถาม เพราะรู้สึกว่ามันทำตัวแปลกๆยังไงก็ไม่รู้
กูไม่ได้เป็นอะไร แค่คิดถึงมึงไม่ได้ไง...มันตอบ เล่นเอาใบหน้าผมร้อนผ่าวอีกครั้ง ภาพที่มันบอกรักผมตอนมาส่งที่บ้านฉายขึ้นมาบนหัว
ไอ้เชี่ยเซโล่...เลิกพูดเลยมึง คิดว่ากูจะเขินกับคำพูดของมึงรึไง กูไม่ใช้สาวน้อยไร้เดียงสานะเว้ย
ตอนนี้มึงก็เขินอยู่ไม่ใช่หรอมันบอกอย่างรู้ทัน ผมรีบหันควับมองหาตัวมันทันที แต่ก็ไม่พบใครเลยซักคน ที่หน้าบ้านมีแต่สุนัขเดินผ่านมาเท่านั้นเอง เฮ้อ...ค่อยโล่งหน่อย ผมคิดว่ามันจะมาแอบยืนถ้ำมองผมซะแล้ว และถ้ามันเป็นขนาดนั้น ผมคงต้องพามันไปส่งโรงพยาบาลโรคจิตแล้วหละ
ยองแจ...จู่มันก็เรียกชื่อผม
หืม...มีอะไรผมถามมัน แต่มันกลับเอาแต่เงียบ ผมขมวดคิ้วมุ่น ตกลงมันจะพูดรึเปล่า ถ้าไม่พูดแล้วมันจะเรียกผมทำไม
ไอ้เซโล่ เรียกกูแล้วทำไมไม่พูดว่ะ มึงเป็นไรป่าวเนี้ย...ผมถามอีกครั้ง ผมว่ามันแปลกไปจริงๆ
เปล่า...กูแค่จะบอกว่า ฝันดีนะมันพูด
อือ... มึงก็ฝันดีนะพูดจบผมก็ตัดสายทิ้งก่อนจะจ้องมองโทรศัพท์ในมือ ไอ้เซโล่มันไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม... ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอีกครั้ง คืนนี้ท้องฟ้าสวยมากจริงๆแหละ ตอนนี้ไอ้เซโล่มันก็กำลังมองอยู่ใช่รึเปล่า....


**********




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น