[Kim Him Chan]
ภายในห้องที่มืดมิด
กลิ่นอับผสมกับกลิ่นคาวเลือด ผมนั่งกอดตัวเองอยู่ที่มุมห้อง ความเจ็บปวดจากร่างกายไม่ได้ครึ่งกับจิตใจของผมที่ถูกทำร้ายเลยซักนิด
“ตึกๆๆ”เสียงฝีเท้าดังแว่วมาแต่ไกล ผมเงยหน้าขึ้นจากเข่าด้วยความตื่นตระหนก
“แอ๊ดด....”บานประตูค่อยๆถูกเปิดออก ร่างของไอ้ยงกุกเดินเข้ามา
มันมาแล้ว...มันจะมาฆ่าผมแล้วใช่ไหม...
“ยังไม่ตายสินะ มึงนี้มันยังอึดเหมือนเดิม”คำพูดที่ไม่มีเยื้อใยบีบหัวใจผมให้เจ็บปวด
“มึง...จะมาฆ่ากูใช่ไหม”ผมพูดออกไป ไอ้ยงกุกเหยียดยิ้ม
“ความตายมันง่ายไปสำหรับมึงไอ้ฮิมชาน
กูแค่จะมาบอกว่าต่อจากนี้ไปตระกูลของมึงต้องถูกกูทำลายอย่างไม่เหลือซาก”หัวใจผมกระตุกวาบ ผมคลานเข้าไปหามันทันที
“ย...อย่านะไอ้ยงกุก
อย่าทำลายตระกูลกูเลยนะ มึงจะทำอะไรกูก็ได้ กูขอร้องอย่าทำลายตระกูลกู”ผมเกาะขาเอ่ยขอร้องมัน ดวงตามีน้ำตาเอ่อคลอ
“กูเคยบอกมึงแล้วไง
ว่าคนอย่างมึงมันไม่มีค่าพอจะมาต่อรองกับกู”มันจ้องมองลงมาอย่างเหยียดหยามก่อนจะสะบัดตัวผมออก
“ฮึก
ไหนมึงบอกว่าจะยอมลืมความแค้นแล้วให้อภัยกูไง”ผมพูดทวงสัญญาจากมัน
สัญญาที่มันเคยให้ไว้
“หึ
มึงทำลายความรักที่กูมีให้กับมึง แล้วมึงยังกล้ามาทวงสัญญากับกูอีกหรอ”
“ล...แล้วมึงต้องการอะไร
ทำยังไงมึงถึงจะไม่ทำลายตระกูลของกู”
“มันสายไปแล้วไอ้ฮิมชาน”พูดจบมันก็หันหลังเดินจากไป
“ฮือ...ไอ้ยงกุกอย่าทำลายตระกูลกู
กูขอร้อง.....”ผมตะโกนไล่หลังมันไป
ก่อนที่ประตูห้องขังจะถูกปิดลง และผมหวังว่าครั้งนี้มันคงไม่ได้ปิดตายหรอกใช่ไหม
ผมกลับมานั่งกอดเข่าร้องไห้ท่ามกลางความมืด
หัวใจกระวนกระวายเป็นห่วงตระกูลของตัวเอง ป่านนี้พ่อกับแม่จะเป็นยังไงบ้าง
ผมอยากกลับไปหาพวกท่านจังเลย
ผมนั่งร้องไห้อยู่ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาอีกครั้ง
“ตึกๆๆ”ผมเงยหน้าขึ้นจากเข่าตัวเองทันที
คิดว่าไอ้ยงกุกแน่ที่เดินกลับมาหรือว่ามันจะให้อภัยผมแล้ว แต่เดี๋ยวก่อน
ถ้ามันกลับมาเพื่อฆ่าผมหละ ความกลัวเริ่มกลับมาอีกครั้ง ผมจ้องมองบานประตู
เสียงฝีเท้าหยุดลงอยู่แค่ข้างนอก
บานประตูไม่ได้ถูกเปิดออก หัวใจผมเต้นระทึก ทำไมมันถึงไม่เข้ามา?
“คุณฮิมชานค่ะ
ฉันฮยอนอาเองนะค่ะ”เสียงที่เอื้อนเอ่ยแนะนำตัวทำให้ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ฮ...ฮยอนอา! ท...ทำไมเธอถึงลงมาอยู่ที่นี้”
“ฉันแอบลงมาค่ะ”เสียงของฮยอนอาเอ่ยตอบผมผ่านบานประตู
“แอบลงมา?เธอแอบลงมาทำไม ถ้าเธอถูกจับได้เธออาจจะ....”
“ใช่ค่ะ
ฉันรู้ดีว่าจะโดนอะไร แต่ฉันลงมาที่นี้เพื่อช่วยคุณ”
“ช่วยฉัน?”
“ค่ะ
แต่ก่อนที่ฉันจะช่วคุณออกมา คุณช่วยบอกฉันก่อนได้ไหมว่าทำไมคุณถึงถูกจับลงมาที่นี้”ผมอึกอักที่จะตอบ ฮยอนอาต้องการจะรู้เพราะอะไร
“คือฉัน...ฉันแอบเอาหลักฐานการทำผิดของไอ้ยงกุกไปให้หุ้นส่วนของมันเพราะคิดว่าหุ้นส่วนของมันจะร่วมมือกับฉันน่ะ
แต่มันก็ผิดพลาด ฉันดันถูกหุ้นส่วนมันทำร้ายและยังถูกไอ้ยงกุกจับได้ว่าวางแผนทำลายมัน”ผมเล่าให้ฮยอนอาฟังแบบคราวๆ
“แล้วตอนนี้หลักฐานพวกนั้นยังอยู่ไหมค่ะ”ผมขมวดคิ้ว ฮยอนอาต้องการจะทำอะไร
“ฉันไม่แน่ใจ”ผมตอบ
“แอ๊ดด....”จู่ๆบานปะตูก็เปิดออก ร่างของฮยอนอายืนอยู่ตรงนั้น
“ฉันจะพาคุณหนีออกไปแต่คุณช่วยไปเอาหลักฐานพวกนั้นกลับมาได้ไหมค่ะ”
“เธอหมายความว่าไง
เธอจะทำอะไรฮยอนอา”ผมถาม เธอมีสีหน้าเป็นกังวล
“คือ...ที่จริงแล้วฉันเป็นตำรวจ
ฉันมาที่นี้เพื่อจะหาหลักฐานเอาผิดบังยงกุก”ความจริงที่ฮยอนอาบอกเล่นเอาผมอ้าปากค้าง
มันเป็นไปได้ยังไงกัน
“ฉันต้องการให้คุณช่วนค่ะคุณฮิมชาน
คุณไปเอาหลักฐานมา แล้วฉันจะพาคุณหนีไปจากที่นี้”ผมนิ่งงันคุ้นคิด
หนีไปจากที่นี้งั้นหรอ ใช่ ผมต้องหนี...และนี้ก็จะเป็นการหนีครั้งสุดท้ายของผม
“ตกลง”
…….
…………..
…………………
ผมขึ้นมาจากห้องใต้ดินแล้ว
ฮยอนอาเดินนำหน้าผมอยู่ เราทั้งสองแอบย่องชิดไปตามกำแพงพร้อมกับมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง
กลัวว่าจะมีคนอยู่แถวนี้แล้วพบพวกเราเข้า
“หลักฐานอาจจะยังถูกเก็บไว้
ฉันจะไปหาที่ห้องทำงานส่วนคุณไปหาที่ห้องนอนนะค่ะ”ฮยอนอาแบ่งหน้าที่
ผมพยักหน้ารับก่อนที่เราทั้งสองจะค่อยๆย่องขึ้นบันไดไป
พอขึ้นมาถึงชั้นบนผมกับฮยอนอาก็ต้องแยกทางกัน
ผมเดินตรงไปที่ห้องนอนของไอ้ยงกุก ตอนที่เดินขึ้นมาจากห้องใต้ดิน
ฮยอนอาบอกว่าไอ้ยงกุกออกไปข้างนอกแต่ไม่รู้ว่าไปไหน
ผมจึงค่อยโล่งใจหน่อยที่ไม่ต้องไปเสี่ยงเจอไอ้ยงกุกที่ห้องนอน
ผมเปิดประตูห้องนอนเดินเข้าไป
ภายในห้องนอนมีกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง นี้ไอ้ยงกุกกินเหล้าทั้งคืนเลยรึยังไง
ทำไมกลิ่นถึงแรงขนาดนี้ แต่โชคดีที่มีแต่กลิ่นเหล้า ไม่มีร่างของไอ้ยงกุก
ผมมองไปรอบห้องหากล้องที่ถ่ายหลักฐานการทำผิดของไอ้ยงกุกไว้
ผมคิดว่าไอ้ยงกุกไม่หน้าจะยังเก็บไว้ แต่แล้วสายตาผมก็ไปหยุดอยู่ที่โต๊ะข้างหัวเตียง
กล้องถ่ายรูปถูกวางอยู่ตรงนั้น
ผมฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจก่อจะตรงไปคว้ามันมาทันที
“เห้ย! นั้นใครน่ะ”ซวยแล้ว ผมดันเปิดประตูห้องทิ้งไว้
ลูกน้องไอ้ยงกุกคนหนึ่งดันเห็นผมเข้า มันเดินตรงเข้ามาทันที
ผมหันซ้ายหันขวาไม่มีทางให้หนีจึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
“นี้มันนักโทษของคุณยงกุกนิ
ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ อั๊ก!”จู่ๆลูกน้องของไอ้ยงกุกก็ล้มลง
ด้านหลังปรากฎร่างของฮยอนอาที่ใช้ปืนฝาดหัวลูกน้องไอ้ยงกุก
“ฮยอนอา....”
“ได้หลักฐานแล้วใช่ไหมค่ะ
เราหนีกันเถอะค่ะ นี้ค่ะปืน”ฮยอนอาหยิบปืนออกมาจากลูกน้องไอ้ยงกุกที่สลบไปแล้วส่งมาให้ผม
ผมรับมาอย่างไม่ลังเล
“ไปเถอะค่ะ”ฮยอนอาบอก ผมพยักหน้ารับ
“เห้ย! นักโทษหนี!!!”จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งตะโกนจากด้านนอก
ผมกับฮยอนอารีบวิ่งออกจากห้องนอนทันที ลูกน้องของไอ้ยงกุกหลายคนวิ่งตามมา
ผมกับฮยอนอาพากันวิ่งหนีไปตามทางเดิน ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้นไล่หลัง
“ปัง!ปัง!ปัง!”ผมกับฮยอนอาหาที่หลบ
ก่อนจะยิงสวนกลับไปบ้าง
“ปัง!”เพียงนัดเดียวของผมก็ฝังเข้าไปที่หัวของพวกมันคนหนึ่ง
ตอนนี้ผมไม่กลัวการฆ่าคนอีกแล้วเพราะพวกมันเป็นคนชั่วที่สมควรตาย
“ปัง!ปัง!ปัง!”เสียงปืนยังดังต่อเนื่อง
ฮยอนอายังยิงปืนโต้ตอบอยู่กับพวกมัน ผมหันซ้ายหันขวาหาทางหนี
ขืนยังอยู่แบบนี้ผมกับฮยอนอาคงไม่รอดแน่
“ฮยอนอา...มาทางนี้เร็ว”ผมบอก ก่อนจะนำไปทางที่ไม่มีลูกน้องของไอ้ยงกุกอยู่ เสียงปืนดังไล่หลังมา
ผมกับฮยอนอาวิ่งลงมาชั้นล่างได้สำเร็จ แต่ก็ต้องพบกับลูกน้องของไอ้ยงกุกอีกฝูงหนึ่ง
“เห้ย!พวกมึง!! ปัง!ปัง!”ทันทีที่พวกมันเห็นผมกับฮยอนอา พวกมันก็ยิงปืนใส่ทันที
จนผมกับฮยอนอากลิ้งตัวหลบแทบไม่ทัน
“คุณฮิมชานค่ะ
ฉันจะยิงคุ้มกันไว้ คุณหนีไปเถอะค่ะเอาหลักฐานไปด้วย”ฮยอนอาตะโกนบอก
เพราะดูท่าว่าผมกับเธอจะสู้พวกมันไม่ไหวแล้ว
“ไม่
ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ เราต้องออกไปด้วยกัน ปัง!ปัง!ปัง!”ผมบอกก่อนจะยิงปืนใส่ไอ้พวกนั้น
กระสุนทุกนัดเจาะเข้าหัวพวกมันอย่างแม่นยำ จนพวกมันไม่เหลือซักคน
ผมกับฮยอนอารีบออกจากที่ป้องกันแล้วตรงออกไปนอกบ้านทันที
“คุณฮิมชานค่ะ
เรา....ปัง!”ยังไม่ทันที่ฮยอนอาจะพูดจบ
เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกครั้ง ผมกับฮยอนอารีบมอบตัวลง
ลูกน้องของไอ้ยงกุกเดินมาจากด้านหน้า พวกมันรอดักผมกับฮยอนอาอยู่
ปืนในมือของพวกมันหลายกระบอกจ่อมาที่ผมกับฮยอนอา
และตอนนี้ก็ดูท่าว่าปืนในมือผมกับฮยอนอาจะไม่เหลือลูกกระสุนแล้วด้วย
“พวกมึงคิดว่าจะหนีรอดรึไง
เห้ย...จับพวกมันไว้แล้วรายงานคุณยงกุก”
“อย่านะเว้ย
อย่าเข้ามานะ”พวกมันตรงเข้ามาจับตัวผมกับฮยอนอา
นี้สุดท้ายผมก็หนีไม่รอดหรอเนี้ย
“เอี๊ยดดด!!!”แต่แล้วจู่ๆก็มีรถคันหนึ่งขับเข้าด้วยความเร็วสูง พวกมันทุกคนต่างหันไปมอง
รวมทั้งผมกับฮยอนอาที่ต้องเบิกตากว้าง
“เห้ย ทุกคนหลบเร็ว!”เสียงลูกน้องไอ้ยงกุกตะโกนบอก แต่ไม่ทันซะแล้ว รถคันนั้นขับชนมันเต็มๆ
ผมกับฮยอนอายืนมองด้วยความอึ้ง นี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย
“ไอ้ฮิมชานขึ้นรถมาเร็ว!”เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยเรียกผม ผมพบว่าเป็นไอ้ยองแจที่เป็นคนขับรถคันนั้น
มันเลื่อนกระจกรถลงตะโกนสั่ง ผมจึงดึงฮยอนอากระโดดขึ้นรถมันทันที
ก่อนที่มันจะเหยียบคันเร่งจนมิดขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ผมกับฮยอนอาหันกลับไปมองที่ด้านหลัง
ภาพเซฟเฮาส์ของไอ้ยงกุกที่เราหนีไกลออกมาแล้ว ทำให้ผมกับเธอถอนหายใจอย่างโล่งอก
เพราะคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว
“พี่ฮิมชาน...พี่ปลอดภัยใช่ไหม”อีกเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยเอ่ยถาม
เมื่อผมหันกลับมาก็พบว่ามีไอ้จงออบอีกคนที่อยู่บนรถ มันกับยองแจมาช่วยผมไว้
“กูไม่เป็นอะไร
แต่ทำไมพวกมึงถึงมาช่วยกูได้ว่ะ”ผมถาม
“กูแค่รู้สึกว่าแผนการของมึงจะไม่สำเร็จนะสิ
โชคดีไหมหละที่พวกกูไปช่วยมึงทันพอดี”ไอ้ยองแจมองผ่านกระจกมองหลังเอ่ยตอบ
“ขอบใจพวกมึงนะ”ผมบอกแค่สั้นๆ ไอ้ยองแจกับจงออบพยักหน้าให้
…….
…………..
…………………
“ฮยอนอาเธอแน่ใจนะว่าจะไม่ไปกับพวกเรา”ผมถาม หลังจากที่ฮยอนอาขอให้จอดรถส่งเธอแค่ตรงนี้
“ค่ะ
ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ฉันจะต้องไปที่สถานีตำรวจต่อ คุณก็ต้องหนีไปก่อนนะค่ะ
ไม่งั้นอาจจะโดนไอ้พวกนั้นตามล่าได้”ผมพยักหน้ารับก่อนจะส่งกล้องถ่ายรูปให้เธอ
“ขอบคุณนะที่ช่วยฉันออกมา”ผมบอก เธอยิ้มนิดๆให้ผมก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ผมจ้องมองแผ่นหลังเล็กนั้นที่เดินจากไป ขอให้เธอปลอดภัยด้วยเถอะ
และขอให้เธอจับไอ้ยงกุกได้ซักที
…….
…………..
…………………
[Yoo Young Jae]
รถขับออกมาไกลแสนไกลจากเมืองที่เราอยู่
ภายในรถไม่มีใครเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา ผมมองที่กระจกหลัง
เห็นไอ้ฮิมชานเอาแต่นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง
สายตาของมันคาดเดาไม่ได้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่มันช่างดูเศร้าเสียเหลือเกิน ส่วนจงออบที่นั่งอยู่ข้างๆ
ก็เอาแต่นั่งกอดเข่าตัวเอง
ผมมองสภาพของทุกคนและคิดว่าแต่ละคนก็คงเจอเรื่องราวเลวร้ายมาไม่ต่างกันนัก
ตอนนี้พวกเราทั้งสามตกอยู่ในสถานะเดียวกัน
คือต้องหนี....หนีไปให้ไกลจากที่นี้และให้ไกลจากคนที่ทำร้ายตัวเอง
แต่แล้วฉับพลันผมก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมา
ป่านนี้ไอ้เซโล่จะรู้รึยังนะ
ว่าผมไม่ได้อยู่ในห้องนอนมันแล้ว แล้วถ้ามันรู้แล้วมันจะเป็นยังไง
มันจะเสียใจมากไหม อาการของมันจะต้องกำเริบอีกรึเปล่า แต่ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ
กูขอโทษนะไอ้เซโล่....
ผมขับรถมุ่งตรงไปเรื่อยๆ
หนทางข้างหน้ายังมืดมิดไม่รู้ว่าควรจะหนีไปที่ไหนดี
แต่อย่างน้อยก็ไปให้ไกลจากที่นี้เป็นพอ.....
********
[Jung Dae Hyun]
สถานที่จัดงานหมั้นคือที่ตระกูลเมฆาของผมเอง
สาวใช้หลายคนอยู่ล้อมรอบตัวผมเพื่อแต่งตัวให้
ภาพที่สะท้อนอยู่ในกระจกนั้นคือตัวผมที่มีสีหน้านิ่งเรียบ
ตอนนี้ผมเหมือนคนไร้วิญญาณไม่มีผิด
“วันนี้ลูกของแม่หล่อมากจ๊ะ”เสียงหวานของแม่เอ่ยบอก ก่อนที่เงาในกระจกด้านหลังของผมจะปรากฏร่างของแม่
แม่เดินเข้ามาหาผม
“ลูกรู้ไหมวันนี้แม่มีความสุขมากเลย
แต่แม่จะมีความสุขที่สุดเมื่อถึงวันแต่งงานของลูก”แม่บอกพร้อมยกมือขึ้นจัดเสื้อผ้าให้ผม
“หรอครับ”ผมตอบกลับไปเพียงแค่นั้น แม่ฉีกยิ้มหวานให้
“ใช่จ๊ะ
เมื่อลูกแต่งงานแล้วสิ่งที่เราต้องการจากตระกูลหิมะก็จะเป็นของเรา”แม่พูดอย่างมีความสุข ผมจ้องมองแววตาของแม่
ในแววตาของแม่ข้างในนั้นเคยมีความรักให้ผมจริงๆมั้งรึเปล่า
นอกจากจะพยายามผลักดันให้ผมอยู่จุดที่สูงที่สุดแล้วใช้ผมเป็นหุ่นเชิดอีกที
ความสามารถความเพรียกพร้อมที่ผมมี
มันไม่ได้ทำให้ผมมีความสุขเลย
ใครๆต่างก็มองผมว่าผมนั้นเป็นความภูมิใจของครอบครัวและตระกูล
แต่เคยรู้ไหมว่าผมต้องทนต่อแรงกดดันเหล่านั้นขนาดไหน จนกระทั่งวันนี้
วันที่ผมควรจะมีสิทธิ์เลือกคู่ครองของตัวเอง แต่ผมก็ยังทำไม่ได้....
“แม่ครับ”ผมเอ่ยเรียก
“ว่าไงจ๊ะ”แม่เงยหน้าขึ้นถามผม
“ยกเลิกงานหมั้นเถอะครับ”ผมพูดออกไป แม่นิ่งเงียบไปแต่แล้วซักพักก็ส่งยิ้มกลับมาให้
“ได้เวลาออกไปข้างนอกแล้วนะจ๊ะ
อย่าชักช้าหละลูกรัก”แม่บอกก่อนจะเดินออกไปจากห้อง แม่ทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูด
ผมได้แต่กำมือตัวเองแน่น สายตาสะท้อนความเจ็บปวด
ทำไมกัน...ทำไมไม่เหลือทางเลือกไว้ให้ผมมั่ง
…….
…………..
…………………
ผมออกมาภายในงานที่ถูกจัดในสวนของตระกูล
แขกมากมายที่ต่างมียศศักดิ์และตำแหน่งใหญ่โตต่างมาร่วมงานหมั้นของผม แม่และพ่อต่างฉีกยิ้มกว้างต้อนรับแขกในงานอย่างชื่นบานซึ่งแตกต่างจากผมโดยสิ้นเชิง
“ว่าไงมึงไอ้แดฮยอน
ยินดีด้วยนะ”เสียงที่คุ้นหูเอ่ยทัก
เมื่อผมหันไปมองก็พบว่าเป็นไอ้ยงกุกกับไอ้เซโล่ แขกในงานต่างจ้องมองมาที่พวกมัน
ก็พวกมันเป็นถึงผู้นำของตระกูลใหญ่โต โดยเฉพาะไอ้ยงกุกที่เพิ่งสร้างผลงานครั้งใหญ่ที่งานประมูล
“กูคิดว่าพวกมึงจะไม่มาซะอีก”ผมพูด
“ต้องมาดิว่ะ
งานหมั้นมึงทั้งที”ไอ้ยงกุกบอกยิ้มๆ
แต่ดูสีหน้าของพวกมันทั้งสองไม่ค่อยดีนัก ดูๆแล้วก็เหมือนจะไม่ต่างจากผมนักเลย
และยิ่งไอ้เซโล่ที่เอาแต่ยืนนิ่งเงียบ ผิดกับนิสัยปกติที่มันจะเป็นคนร่าเริง
หรือว่าอาการมันจะกำเริบอีกหลังจากที่หายไปนาน
“ไอ้เซโล่มึงเป็นไรเปล่าว่ะ”ผมเอ่ยถาม ไอ้เซโล่เงยหน้ามาจ้องหน้าผมช้าๆ ผมกับไอ้ยงกุกมองมัน
“เปล่า
กูแค่เป็นห่วงที่บ้าน”มันตอบ ผมกับไอ้ยงกุกขมวดคิ้ว
มันเป็นห่วงอะไรที่บ้าน ถึงจะสงสัยแต่ผมกับไอ้ยงกุกก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
“มึงเป็นไงบาง
แล้วจงออบหละ”ไอ้ยงกุกถามผม สายตาผมเศร้าลงทันที
“มาถึงขนาดนี้แล้ว
กูคงทำอะไรไม่ได้แล้วว่ะ แต่กูก็จะไม่ทิ้งจงออบไป”ผมตอบ
ไอ้ยงกุกพยักหน้าอย่าเข้าใจ
“ฝ่ายหญิงมาถึงแล้ว....”เสียงหนึ่งตะโกนบอก แขกในงานต่างแหวกทางออกเป็นสองฝั่ง
“ว่าที่เจ้าสาวมึงมาแหละ
โชคดีนะเพื่อน”ไอ้ยงกุกตบไหล่ผมก่อนที่มันกับไอ้เซโล่จะไปยืนรวมกับคนในงาน
ผมเดินไปหน้ายืนหน้าแท่นพิธี
ร่างเพรียวบางในชุดสีขาวแต่ยังไม่ใช่ชุดแต่งงานเดินเข้ามาในพิธี
ใบหน้าที่งดงามถูกแต่งแต้มให้ดูอ่อนหวานแต่สีหน้ากลับเศร้าหมอง เธอเดินมาหยุดยืนที่ข้างกายผม
ผู้คนในงานต่างมองด้วยความชื่นชมผมและเธอ
“จงออบหละค่ะ”เธอถามทันทีเมื่อมาอยู่ตรงหน้าผม สีหน้าของเธอดูกังวลอย่างมาก
เธอคงเป็นห่วงจงออบมาก เพราะตั้งแต่วันที่ผมไปพาตัวจงออบมาก็ไม่ได้ติดต่อไปเลย
“สบายดี”ผมตอบแค่นั้น แต่เธอดูเหมือนจะไม่เชื่อผม
“แล้วตอนนี้จงออบอยู่ที่ไหนค่ะ
พี่พาเขากลับมาได้ไหม ฉัน...ฉันเป็นห่วงน้อง”จียอนยังคงถามผมต่อ
เธอพูดแล้วทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ผมหันไปมองผู้คนในงานก่อนจะหันกลับมามองเธอ
“ฉันขอโทษเรื่องวันนั้นด้วยนะที่อาจจะเผลอพูดจาไม่ดีกับเธอ
แต่ฉันคงพาจงออบกลับมาให้เธอไม่ได้”
“ท...ทำไมหละค่ะ
ฉันขอร้องหละ พี่ปล่อยจงออบไปเถอะ ยังไงเรื่องของพี่กับจงออบก็เป็นไปไม่ได้
พี่คิดว่าฉันจะอยู่กับพี่แล้วจงออบก็จะทนอยู่ด้วยงั้นหรอ”เธอพูด
ผมได้แต่นิ่งเงียบ นั้นสิ ทำอย่างงั้นมันจะดีแล้วหรอ
หรือว่าผมควรจะปล่อยจงออบไปจริงๆ แต่....ผมทำอย่างงันไม่ได้
หัวใจผมมันไม่ยอมปล่อยจงออบไป
“ขอโทษ
แต่ฉันทำอย่างงั้นไม่ได้”
“พี่แดฮยอน...”จียอนมองผมด้วยสายตาตัดพ้อ เธอก้มหน้านิ่งเหมือนจะร้องไห้
เธอคงรักและเป็นห่วงจงออบมาก แต่ผมเองก็รักและเป็นห่วงจงออบมากไม่แพ้กัน
มากจนไม่อยากเสียไป
“พิธีหมั้นจะเริ่มขึ้นแล้วนะครับ”เสียงประกาศบอกแขกในงานและผมกับจียอน
ผมหันหน้าเข้าหาเธอก่อนจะหยิบแหวนขึ้นมา
พิธีหมั้นไม่จำเป็นต้องมีพิธีการอะไรมากมาย
ก็แค่สวมแหวนให้กันและกันทั้งสองฝ่ายก็ถือว่าจบ
ผมยืนมือออกไปข้างหน้าขอมืออีกฝ่าย
จียอนยืนมือมาว่างลงบนมือผม ผมค่อยๆสวมแหวนให้เธอ ก่อนที่เธอจะทำแบบเดียวกับผมบ้าง
เราทั้งคู่ต่างสวมแหวนให้กันและกันเรียบร้อยแล้ว เสียงผู้คนในงานปรบมือ
“ยินดีกับคู่หมั้ยคู่ใหม่ด้วยนะรับ
แล้วเราก็มีเรื่องหน้ายินดีอีกเรื่องมาแจ้งให้ทราบ”ผมกับจียอนมองหน้ากัน
เรื่องหน้ายินดีอะไรอีก ในเมื่อการหมั้นจบลงแล้ว
“คู่หมั้นคู่นี้จะแต่งงานกันในอีกสองวันข้างหน้านี้ครับ”ผมกับจียอนเบิกตากว้าง ผู้คนในงานต่างตบมือดังกว่าเดิม
ไอ้ยงกุกกับไอ้เซโล่มีสีหน้างงๆแต่ก็ตบมือให้ ผมหันไปมองหน้าแม่และพ่อ
แม่กับพ่อหันมาฉีกยิ้มให้ผม นี้มันเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงเร็วขนาดนี้
“เดี๋ยวครับ หยุดก่อน!”ผมตะโกนเสียงดัง แขกในงานต่างหยุดตบมือ ทั้งงานเงียบลง
ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผมรวมจียอนที่อยู่ข้างๆ แม่รีบเดินเข้ามาหาผม
“แดฮยอนจะทำอะไรลูก”แม่กระซิบถาม ใบหน้าแสร้งยิ้มให้แขกในงาน
“ผมต่างหากที่ต้องถามว่าแม่ทำอะไร
ทำไมถึงต้องจัดงานแต่งเร็วขนาดนี้”ผมพูด
“มันก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง
ยังไงก็ต้องแต่งอยู่ดี จะช้าจะเร็วก็ต้องแต่ง”ผมส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ
และผมก็ทนมันอีกไม่ได้แล้ว แม่ทำเกินไปแล้วจริงๆ
“ขอโทษนะครับแม่
แต่ผมทำให้ไม่ได้ ทั้งเรื่องแต่งงานและเรื่องหมั้น”
“แกจะทำอะไรแดฮยอน”แม่หน้าซีดถามผม ผมแย้งไมค์จากพิธีกรมาถือไว้
“ผมมีเรื่องจะประกาศให้ทุกคนในงานทราบ”ผมกรอกเสียงลงไปในไมค์ ทุกคนในงานต่างจ้องมองผมอย่างตั้งใจฟัง
แม่ทำท่าทางลนลานอยู่ด้านหลังผม
“ผมแดฮยอนผู้นำตระกูลเมฆา
จะขอประกาศให้ทุกคนทราบว่าในอีกสองวันจะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้น และมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลย
เพราะผมจะขอถอนหมั้นเดี๋ยวนี้”เมื่อผมพูดจบ
ผมก็ถอดแหวนที่นิ้วเขวี้ยงทิ้งไป
ผู้คนในงานต่างส่งเสียงฮือด้วยความตกใจ
จียอนเองก็ตกใจเหมือนกัน แต่ไอ้ยงกุกกับไอ้เซโล่กับยกยิ้มให้ผม
เหมือนกับพวกมันจะรู้อยู่แล้วว่าผมต้องทำแบบนี้
“ไม่ได้! แม่ไม่ยอมนะแดฮยอน
แกจะถอนหมั้นไม่ได้ และแกจะต้องแต่งงานด้วย”แม่พูดขึ้น
ผมหันไปยกยิ้มให้แม่
“ก็ถ้าแม่ยังบังคับให้ผมแต่งงาน
ผมก็จะเลิกเป็นผู้นำตระกูลเหมือนกัน”ผมบอกทำเสียงเฉียบขาด
เล่นทำเอาแม่และพ่อและคนทั้งตระกูลช็อกไปตามๆกัน
“ม...ไม่ได้นะแดฮยอน ลูกคือผู้นำตระกูลเมฆาที่น่าภูมิใจของเรา”แม่พูดน้ำเสียงอ่อนลง
“งั้นแม่ก็ต้องยอมให้ผมตัดสินใจด้วยตัวเอง
ในฐานะที่ผมคือผู้นำของตระกูล”ผมบอก แม่
พ่อและคนในตระกูลต่างพยักหน้าหงึกหงักให้
“งานหมั้นวันนี้ได้ถูกยกเลิกแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่มารวมงานหมั้นและการถอนหมั้นของผมในวันนี้ครับ”ผมประกาศอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าความสุขของผมได้กลับมาอีกครั้ง
ผมจะรักกับจงออบโดยไม่ต้องมีอุปสรรคขวางกั้นอีกต่อไปแล้ว จงออบเรารักกันได้แล้วนะ
…….
…………..
…………………
“ยินดีด้วยนะที่มึงทำลายงานหมั้นได้สำเร็จ”ไอ้ยงกุกกับไอ้เซโล่เดินเข้ามาหาผม มันพูดเหมือนเอ่ยแซว
ผมหันไปยิ้มให้พวกมัน ตอนนี้แขกที่มาร่วมงานกำลังเดินออกจากงาน
แม่ถูกพ่อพาเข้าไปในบ้านเพราะจะเป็นลมกับเรื่องที่ผมทำ
“พวกมึงก็เหมือนจะรู้อยู่แล้วนะว่ากูจะทำแบบนี้”ผมบอก
“มึงก็เหมือนพวกกูนั้นแหละ
ยอมปล่อยคนที่รักไปไม่ได้”ไอ้ยงกุกพูด
สีหน้าและแววตามันดูเหมือนจะเศร้าลง ไอ้เซโล่ก็ด้วย
“พี่แดฮยอน....”เสียงเล็กเอ่ยเรียกผม ทั้งผม ไอ้ยงกุและไอ้เซโล่หันไปมอง
พบว่าเป็นจียอนนั้นเอง เธอดูมีท่าทางลังเลแต่ก็เดินเข้ามาหาผม
“มีอะไรหรอจียอน
ทำไมเธอยังไม่กลับบ้านหละ”ผมถาม
“คือ...เรื่องตระกูลของฉัน”เธอพูด ผมเข้าใจทันทีว่าเธอหมายถึงอะไร
เธอคงหมายถึงเรื่องที่ถ้าเธอแต่งงานกับผม ตระกูลของเธอก็จะรอดพ้นจากการล้มละลาย
ผมฉีกยิ้มนิดๆให้เธอ
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก
ฉันไม่ยอมให้ตระกูลของคนที่ฉันรักล้มละลายหรอก”ผมบอก
เธอฉีกยิ้มกว้างออกมา
“ขอบคุณนะค่ะ
ฉันขอให้พี่กับจงออบรักกันมากๆนะค่ะ แต่ช่วยพาน้องชายฉันกลับมาหาฉันบ้างเถอะนะค่ะ
ฉันคิดถึงน้อง”เธอบอก ผมพยักหน้าให้
“งั้นฉันไปแล้วนะค่ะ
ฝากจงออบด้วยนะค่ะพี่แดฮยอน”พูดจบเธอก็เดินจากไป
ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่า ถึงไม่ฝากผมก็จะดูแลจงออบให้ดีที่สุด
เพราะคนที่ผมรักที่สุดคือจงออบ
[Bang Yong Gook]
ผมมองไอ้แดฮยอนที่พูดคุยกับอดีตคู่หมั้นของมัน
สีหน้าของมันแตกต่างจากก่อนเริ่มพิธีโดยสิ้นเชิง มันฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
ที่มันและคนที่มันรักจะได้รักกันโดยไม่มีอะไรมาขัดขวางซักที
เมื่อได้เห็นอย่างงั้นผมก็ต้องรู้สึกเจ็บลึกๆ เพราะเรื่องของผมกับไอ้ฮิมชานคงไม่สามารถจะมีความสุขแบบนี้ได้
มันมีแต่ความเจ็บปวดและเจ็บปวดยิ่งกว่า
“คุณยงกุกครับ”จีโอเดินเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าร้อนรน ผมขมวดคิ้วจ้องมอง มีเรื่องอะไรกัน
“มีอะไร”
“คุณฮิมชานครับ
คุณฮิมชานหนีไปแล้ว!”ผมเบิกตากว้างทันที ไอ้ฮิมชานหนีไปแล้ว!
“เป็นไปได้ไง
ในเมื่อกูขังมันไว้ในห้องใต้ดิน”ไอ้แดฮยอนและไอ้เซโล่หันมาสนใจบทสนทนาของผมกับจีโอ
“ฮยอนอาครับ
ลูกน้องที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่าฮยอนอาช่วยคุณฮิมชานหนีไป และยังมี...”
“มีใคร!”ผมถามเสียงเข้ม
“มีอีกสองคนขับรถมาช่วยคุณฮิมชานกับฮยอนอาไป
แต่ลูกน้องเราไม่ทราบว่าเป็นใครครับ”
“รถหรอ?”เป็นไอ้เซโล่ที่ถาม จีโอพยักหน้าให้
“พวกมึงรู้หรอว่าสองคนนั้นเป็นใคร”ผมถาม ไอ้เซโล่ดูสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ไอ้แดฮยอนก็เช่นกัน พวกมันไม่ตอบผม
“กูต้องไปแล้ว”พูดจบไอ้เซโล่ก็รีบร้อนจากไป ไอ้แดฮยอนก็เช่นเดียวกัน
ผมมองตามหลังของพวกมันสองคน
ผมว่าพวกมันต้องรู้แน่ว่าสองคนนั้นที่มาช่วยไอ้ฮิมชานคือใคร
“ไอ้ฮิมชาน....”ผมกำมือแน่นพูด ในที่สุดมันก็หนีผมไปได้สำเร็จ
แต่แทนที่ผมจะรู้สึกโกรธอย่างเดียว ทำไมผมถึงยังรู้สึกอย่างอื่นด้วย
รู้สึกเสียใจ.....
*********
[Zelo]
ผมรีบขับรถกลับมาที่บ้าน
ลางสังหรณ์บางอย่างบอกผมว่าสองคนที่ไปช่วยฮิมชานจากเซฟเฮาส์ไอ้ยงกุกอาจจะเป็นไอ้ยองแจ
และทันทีที่มาถึงบ้านผมก็พบว่ารถของไอ้ยองแจที่จอดอยู่หน้าบ้านหายไป
หัวใจของผมกระตุกวูบ
“ไอ้ยองแจ!”ผมรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอน ประตูห้องนอนยังถูกล็อกอยู่ แต่ทำไมรถถึงหายไป
ผมรีบไขประตูเข้าไปทันที หวังว่าไอ้ยองแจจะยังอยู่ในห้อง แต่แล้ว....
“ปัง!”ประตูถูกผมกระแทกเปิดออก สิ่งที่ผมพบมีเพียงห้องนอนที่ว่างเปล่า
มีเพียงบานหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้ สายลมพัดเข้ามาในห้อง ผ้าม่านโบกพัดไปตามแรงลม
ผมมองหามัน
“ไอ้ยองแจ!”ผมตะโกนเรียกหามัน
มันสัญญาว่าจะไม่หนีผมไป และผมก็เชื่ออย่างงั้น แต่ทำไม... ทำไมมันไม่ตอบผมกลับมา
“ไอ้ยองแจ!”ผมตะโกนเรียกหามันอีกครั้งเหมือนคนไม่มีสติ
ตอนนี้ผมเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมเดินหามันไปทั่วห้องเหมือนคนบ้า
“โครมมม!!!”ผมเริ่มทำลายข้าวของเมื่อหาไอ้ยองแจไม่พบ
โต๊ะและเก้าอี้ถูกผมเหวี้ยงล้มระเนระนาด ผมกวาดข้าวของกระจายเต็มพื้น
“อ้ากกก!!!!”ผมเริ่มเกิดอาการคลุ้มคลั่ง มือยกขึ้นกุมหัวตัวเอง
“ทำไม
ทำไมมึงต้องทิ้งกูไปยองแจ!!!!”ผมตะโกนร้องออกมา
ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบลงมาบนใบหน้า ไม่อยากเชื่อว่าไอ้ยองแจจะหนีผมไป
ผมทิ้งตัวล้มลงบนพื้น ทำไมกัน...ทั้งๆที่มันสัญญากับผมแล้ว
แต่มัน.....ก็ยังทิ้งผมไป
*********
[Jung Dae Hyun]
ภายในห้องนอนที่ว่างเปล่า
ไร้ร่างของคนที่ผมรีบกลับมาหา ผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่กลางห้อง มือถือคีย์การ์ดที่ถูกสอดไว้ให้ใต้ประตู
ผมจ้องมองมันด้วยความเจ็บปวด
จงออบไปจากผมแล้ว......
หลังจากที่ผมรีบขับรถกลับมาที่คอนโด
ผมก็พบคีย์การ์ดสอดอยู่ใต้ประตูห้อง ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองทำหล่นไว้
แต่พอเข้ามาในห้อง ผมก็พบว่าจงออบหนีไปแล้ว
ผมออกไปขับรถตามหาจงออบไปทั่วด้วยความร้อนใจ
หวังว่าจงออบจะยังไปไม่ไกลนัก ผมตระเวนขับรถไปทุกที่แม้แต่ที่บ้านของเขา
แต่จียอนบอกว่าจงออบไม่ได้กลับไปที่นั้น ผมจึงขับรถกลับมาที่คอนโด
หวังว่าจงออบจะเปลี่ยนใจและกลับมารอผมที่คอนโด
แต่ผมก็พบเพียงห้องที่ว่างเปล่าเหมือนเดิม
“นายหนีพี่ไปอยู่ที่ไหนจงออบ....”ผมพูดออกมาอย่างเจ็บปวด มือกำคีย์การ์ดแน่น น้ำตาของลูกผู้ชายหยดลงมา
ทั้งๆที่ผมกำลังจะกลับมาบอกข่าวดีกับเขาแท้ๆ แต่ทำไม....ทั้งๆที่จงออบบอกว่าจะรอผม
แต่ผมคงมาช้าไปใช้ไหม เขาถึงหนีผมไป
“พี่ขอโทษจงออบ....”ผมทรุดตัวลงกับพื้น คิดแต่ว่าเป็นเพราะตัวเองจงออบถึงหนีไป
ถ้าตอนนี้ผมสามารถทำอะไรเพื่อให้ได้จงออบกลับมา
ผมก็ยอมทำทุกอย่างแม้จะต้องแลกด้วยชีวิต
********
[Bang Yong Gook]
“ปึก! พลั๊ก! ผลั๊ว!”
“คุณยงกุกครับ
พอเถอะครับ”จีโอพยายามห้ามผมที่กำลังกระทืบลูกน้องตัวเอง
ลูกน้องที่ผมสั่งให้เฝ้าไอ้ฮิมชานไว้
“พวกมึงไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่! พวกมึงปล่อยให้มันหนีไป!”ผมตะคอกใส่พวกมันที่นอนเกลือนอยู่ที่พื้น
แต่ละคนใบหน้าฟกช้ำด้วยฝีเท้าของผมเอง
“พอเถอะครับคุณยงกุก
พวกมันก็บอกแล้วว่ามีคนมาช่วยคุณฮิมชานกับ ฮยอนอาอีกที”
“มึงไม่ต้องมาห้ามกูไอ้จีโอ
กูจะยิงพวกมันทิ้ง!”พูดจบผมก็ชักปืนออกมา
แต่จีโอคว้าปืนในมือผมไว้
“ปล่อยไอ้จีโอ กูจะฆ่าพวกมัน!”
“หยุดเถอะครับคุณยงกุก”
“กูบอกให้มึงปล่อย!”
“คุณไม่ได้โกรธแต่คุณกำลังเสียใจที่คุณฮิมชานหนีไปใช่ไหมครับ!”ผมถึงกับชะงัก คำพูดของจีโอทำให้ผมนิ่งงัน ในอกรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา
“หยุดเถอะครับ”จีโอค่อยๆดึงปืนออกจากมือผม ผมยอมปล่อยมือออกจากปืน
ไอ้พวกลูกน้องที่รอดตายอย่างหวุดหวิดรีบลุกขึ้นพากันหนี
“ใจเย็นๆเถอะครับ
ผมว่าคุณฮิมชานคงยังหนีไปไม่ไกลนักถ้าคุณต้องการตัวคุณฮิมชานกลับมาจริงๆ
แต่จะกลับมาในฐานะอะไรเท่านั้นเอง”จีโอบอก ตาจ้องตากับผม
จีโอกำลังจะสื่อว่าผมต้องการให้ไอ้ฮิมชานกลับมาเพราะผมรักมันงั้นหรอ หึ...มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง
“ความรักที่กูมีให้ไอ้ฮิมชานมันหมดลงไปแล้ว
ถ้ากูต้องการให้มันกลับมา มันก็ต้องกลับมาในฐานะนักโทษกูเหมือนเดิม!”ผมพูด จีโอมองผมเหมือนเอือมระอา ผมยังคงไม่ลืมความแค้นที่ไอ้ฮิมชานทำไว้กับผมแน่นอน
และมันจะต้องกลับมาชดใช้
“กูจะไปตามล่ามันกลับมา!”พูดจบผมก็ทำท่าจะเดินออกไป
“ปัง!”จีโอรีบดึงผมกลับเข้ามา เสียงที่ดังขึ้นเป็นเสียงปืนแน่นอน
มันดังมาจากข้างนอกเซฟเฮาส์
“คุณยงกุกครับ!”ลูกน้องหลายคนวิ่งเข้ามาในเซฟเฮาส์ พวกมันดูมีสีหน้าตื่นๆ
“เกิดอะไรขึ้น!”ผมถาม
“ตำรวจครับ
พวกตำรวจบุกมาที่นี้”ผมกับจีโอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
พวกตำรวจตามหาที่นี้พบได้ยังไงกัน
“โธ่เว้ย! ฆ่าพวกมันให้หมด!”ผมเอ่ยสั่งอย่างใจร้อน
“เดี๋ยวก่อน
ผมว่าเราหนีเถอะครับคุณยงกุก ขืนสู้ไปเราอาจจะตายหรือโดนจับเอาได้นะครับ ลูกน้องของเราที่นี้ก็มีไม่มากด้วย”จีโอเอ่ยขัดไว้ ลูกน้องทั้งหมดจึงยังไม่ออกไปตามคำสั่ง
ผมมองออกไปด้านนอกเซฟเฮาส์อย่างขัดใจ
ผมอยากจะออกไปฆ่าไอ้พวกตำรวจเศษสาวะพวกนั้นให้หมด
พวกมันกล้ามากที่มากบุกเซฟเฮาส์ของผม แต่ที่จีโอพูดก็ถูก
ลูกน้องของผมที่นี้มีไม่มากพอ ถ้าออกไปสู้ก็คงตายหมดแน่
“ปัง!ปัง!ปัง!”ยังไม่ทันที่ผมจะตัดสินใจอะไร
เสียงปืนก็ดังใกล้เข้ามา
“คุณยงกุกหนีเถอะครับ
ส่วนพวกมึงยิงคุ้มกันไว้ด้วย”จีโอหันไปสั่งพวกลูกน้อง
ก่อนจะดึงผมให้หนี
…….
…………..
…………………
“ปัง!ปัง!ปัง!”ผมกับจีโอหนีออกมาจากทางด้านหลังของเซฟเฮาส์ แต่พอออกมานอกเซฟเฮาส์ปุ๊บก็เจอกับพวกตำรวจปั๊บ
ผมกับจีโอหลบหลังที่กำบัง
“จีโอส่งปืนมา”ผมเอ่ยสั่ง จีโอจึงส่งปืนที่เอาไปจากผมคืนมาให้ ผมยิงสวนกลับไป
ร่างของตำรวจหลายนายลงไปนอนกองกับพื้น
“ปัง!ปัง! คุณยงกุกครับ ปัง! รถอยู่ทางนั้นรีบไปกันเถอะครับ”จีโอพูดไปก็ยิงปืนโต้ตอบกับพวกตำรวจไป ผมหันไปมองที่รถตามที่จีโอบอก
รถจอดอยู่ไม่ห่างจากจุดที่พวกเราอยู่นัก
“ปัง!ปัง! กูจะยิงคุ้มกันให้ มึงไปสตาร์ทรถรอก่อน”ผมสั่ง
“ต แต่...”
“ไปสิว่ะ! ปัง!ปัง!”จีโอทำท่าเหมือนจะขัด
แต่แล้วก็ต้องจำใจทำตาม ผมคอยยิงคุ้มกันให้ จนในที่สุดจีโอก็ไปถึงตัวรถ
จีโอสตาร์ทรถเตรียมขับมารับผม
“หึ
มาสนุกกันหน่อยไหมหละ”ผมยกยิ้มพูดขึ้น
ตอนนี้ปืนในมือเหลือลูกกระสุนไม่มากแล้ว แต่พวกมันก็เหลืออยู่ไม่กี่ชีวิตเช่นกัน
“คุณยงกุกครับ!”จีโอตระโกนเรียกผม เป็นสัญญาณให้ผมรีบขึ้นรถ ผมกระชับปืนในมือแน่นก่อนจะพุ่งตัวออกไป
“ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!”ในขณะที่ผมพุ่งตัวออกไป ปืนในมือเร่งไปที่พวกมัน
กระสุนทุกนัดเจาะเข้าหัวอย่างแม่นยำโดยที่พวกมันยังไม่ทันได้ลั่นไกใส่ผม
ผมลดปืนลงข้างกาย
พวกมันตายเรียบไม่เหลือ พอกับที่กระสุนปืนผมหมดลงพอดี ผมแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจ เลือดสีแดงฉานกระจายเต็มพื้นอย่างน่าสยดสยอง
“คุณยงกุกครับ”จีโอเรียกผมอีกครั้ง ผมจึงเดินตรงไปที่รถ
มือเอื้อมเปิดประตูรถกำลังจะก้าวขึ้นไป แต่แล้ว.....
“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ผมต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด
ที่ต้นแขนมีเลือดไหลออกมา
“คุณยงกุก!”จีโอร้องอย่างตกใจ ผมหันไปมองว่าใครที่เป็นคนยิงผม
ก่อนที่ผมจะต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
“ฮยอนอา...”เธอถือปืนจ่อมาทางผม เธออยู่ในชุดเครื่องแบบ ฮยอนอาเป็นตำรวจ...! ทำไมผมถึงไม่เคยรู้มาก่อน
“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้มันทำให้ผมถึงกับล้มลงกับพื้น ผมกุมที่ท้องของตัวเองที่ถูกยิง
เลือดมากมายไหลทะลักออกมา ทั้งจากบาดแผลและจากปากของผม
“ปัง!ปัง!ปัง!”สายตาผมเริ่มพร่าเบลอ
สิ่งที่ผมเห็นคือจีโอลงมาจากรถแล้วยิงปืนสวนกลับไป แต่พวกตำรวจก็เริ่มเข้ามามากขึ้น
พวกมันคงเข้ามาจากทางด้านหน้าเซฟเฮาส์ได้สำเร็จแล้ว....
“คุณยงกุก....คุณยง.....”จีโอพยายามเขย่าตัวเรียกผม เสียงที่เอ่ยเรียกชื่อผมค่อยๆเบาลงๆจนหายไป
ในที่สุดผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย.....
********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น