วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

B.a.p : Dark Love ความรักสีดำ Chapter 2

[Kim Him Chan]

เช้าวันใหม่ที่อากาศสดใส แต่ทำไมผมถึงรู้สึกไม่ดีเลยนะ เหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสแบบนี้เลย
ฮิมชาน....เสียงของผู้เป็นพ่อเรียกผมไว้ ขณะที่ผมเดินลงมาจากบ้าน
ครับ...ผมขานรับ สายตามองช่อดอกไม้ในมือของพ่อ นี้พ่อจะเอาไปให้ผู้หญิงที่ไหนเนี้ย....
แกช่วยเอาดอกไม้นี้ไปให้ท่านนายกที วันนี้วันเกิดท่านแต่พ่อติดธุระที่อื่นนี้คือเรื่องเลวร้ายที่ผมรู้สึกรึเปล่า... ผมกำลังจะออกไปเที่ยวเลยอ่ะ นัดไอ้ยองแจไว้ด้วย T_T
ครับ...แต่ก็ต้องตอบตกลงไป ขืนปฏิเสธสิมีหวังโดนดีแน่ ผมรับช่อดอกไม้มา แล้วเดินไปขึ้นรถที่ถูกเตรียมไว้แล้ว พร้อมบอดี้การ์ดอีกหลายคน... แค่แวะไปให้ช่อดอกไม้แปปเดียวคงไม่เป็นไรมั้ง ไอ้ยองแจคงไม่โกรธหรอกแค่ผมไปช้านิดหน่อย
…….
…………..
…………………
รถขับออกมาได้สักพักพร้อมรถของบอดี้การ์ดที่ขับตามมาด้านหลัง ผมมองออกไปนอกหน้าต่างพบว่าท้องฟ้าที่เมื่อกี้ยังแจ่มใสกลายเป็นมืดครึ้มซะแล้ว ผมไม่ชอบเลยบรรยากาศแบบนี้....
ดูเหมือนฝนกำลังจะตกเลยนะครับลุงคนขับรถพูดกับผม
นั้นสิ เมื่อกี้ยังแจ่มใสอยู่เลยแท้ๆผมตอบกลับไปยิ้มๆ ถึงแม้ผมจะเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไป และอีกฝ่ายเป็นเพียงลูกน้อง แต่ผมก็ไม่ค่อยจะถือตัวนัก ผมคิดว่าการเคารพผู้มีอายุมากกว่าสำคัญที่สุด
เอี๊ยดดดด!”จู่ๆรถก็เบรกกะทันหัน ผมหัวทิ่มไปข้างหน้า ช่อดอกไม้ในมือล่วงหล่น
เกิดอะไรขึ้นน่ะผมร้องถาม ลุงคนขับรถทำสีหน้าตื่นๆหันมามองผม กำลังจะเอ่ยปากบอกแต่....
ปัง!”กระสุนหนึ่งนัดฝังลงบนหัวของเขา ผมเบิกตากว้าง เลือดกระเซ็นมาโดนใบหน้าผม ร่างไร้วิญญาณเบิกตากว้างแน่นิ่งไป
ประตูรถข้างผมเปิดออก ผมหันไปมองด้วยความตกใจ แต่เป็นบอดี้การ์ดของผมเอง...
คุณฮิมชานครับ เราโดนดักทำร้าย ปัง! ปังๆๆเสียงปืนดังลั่นขึ้น บอดี้การ์ดยืนป้องกันผมไว้ ส่วนบอดี้การ์ดที่เหลือกำลังยิงปะทะกับอีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร
ผมมองออกไปเบื้องหน้า เห็นรถยนต์คันหนึ่งจอดขวางรถของผมไว้ พร้อมกับชายอีกหลายคนที่ยิงปืนใส่บอดี้การ์ดของผม
พวกมันเป็นใคร...ผมเอ่ยถามเสียงสั่น ดูการปะทะกันของสองฝ่าย และดูท่าว่าฝ่ายของผมกำลังจะเสียเปรียบ เพราะพวกมันมาเพิ่มกันอีกทางด้านหลัง ตอนนี้ทั้งบอดี้การ์ดและผมกำลังโดนล้อม...
ไม่ทราบครับ เราไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อน คุณฮิมชานรีบหนีเถอะครับผมกำลังจะก้าวลงจากรถเพื่อหนีตามที่บอดี้การ์ดบอก แต่แล้วกระสุดหนึ่งนัดก็ฝังเข้าที่กะโหลกของบอดี้การ์ดตรงหน้า ผมเบิกตากว้างถอยตัวกลับเข้าไปดังเดิม
และในเวลาอันรวดเร็ว บอดี้การ์ดทั้งหมดที่ติดตามผมก็ตายหมด ผมมองร่างไร้วิญญาณของพวกเขาที่นอนจมกองเลือด ตัวผมสั่นระริกด้วยความกลัว
จู่ๆที่ประตูก็ปรากฏร่างของใครคนหนึ่ง มันสวมหน้ากากปิดปากไว้ ผมจ้องมองด้วยความหวาดกลัว นี้ผมกำลังจะตายใช่ไหม ผมถอยตัวหนีถึงจะรู้ว่าไม่มีที่ให้หนีก็ตาม และแล้วสิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้ก็คือ ผู้ชายคนนั้นฉีดอะไรบางอย่างใส่หน้าผม ก่อนที่ผมจะสลบไป....
…….
    …………..
    …………………
เจ็บ ผมรู้สึกเจ็บที่ข้อมือมากหลังจากตื่นขึ้นมา ผมขยับข้อมือไปมาถึงรู้ว่ากำลังโดนมัดอยู่ ผมพยายามจะลืมตาขึ้นแต่มันก็มืดสนิท นั้นเพราะผมถูกปิดตาอยู่...
เราจับว่าที่ผู้นำตระกูลสายลมได้แล้วครับเสียงหนึ่งพูดขึ้น ผมนิ่งเงียบฟัง
หึ ทำดีมาก
เสียงฝีเท้าดังขึ้น ใครบางคนกำลังเดินมาหาผม ผมรู้สึกหัวใจเต้นรัวแรง ผมยอมรับเลยว่ากำลังกลัว เสียงฝีเท้าหยุดลงข้างๆตัวผม ผมแกล้งทำเป็นนอนนิ่งๆ ไม่อยากให้มันรู้ว่าผมตื่นแล้ว เสียงลมหายใจดังขึ้นที่ข้างใบหน้า ริมฝีปากของผมถูกสัมผัส มันกำลังใช่ปลายนิ้วไล่เกลี่ยริมฝีปากของผมอยู่....
ใจผมเต้นรัวแรงยิ่งกว่าเดิม มันกำลังจะทำอะไรกัน แล้วมันเป็นใคร....
หึๆเสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นที่ข้างหูผม ก่อนที่เสียงฝีเท้าจะเดินจากไป มันไปแล้ว....
ลูกน้องของมันคงออกไปด้วย เพราะผมไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลย มันเงียบสงบ นี้พวกมันเอาผมมาไว้ที่ไหนกัน แล้วใครเป็นคนจับตัวผมมา มันคือใครต้องการอะไรกัน....
คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวสมอง ผมกลัวจังเลย...พวกมันจะฆ่าผมรึเปล่านะ....



*******


[Yoo Young Jae]

ผมพยายามโทรหาไอ้ฮิมชาน แต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับ วันนี้เรามีนัดไปเที่ยวกันแท้ๆ ผมชักอารมณ์เสียจ้องมองโทรศัพท์ในมือ นี้มันเอาโทรศัพท์ฝากหมาที่บ้านไว้รึไง ทำไมไม่รับว่ะ
หงุดหงิดอะไรหรอ...เสียงของใครบางคนเอ่ยทัก ผมหันไปมองก่อนจะต้องเซ็งกว่าเดิม
มึงอย่ามายุ่งกับกูได้ไหมไอ้เซโล่...ผมว่าก่อนจะกดโทรศัพท์หาไอ้ฮิมชานอีกครั้ง และเช่นเดิมไม่มีคนรับสาย นี้มันไปตายที่ไหนเนี้ย...
นัดใครไว้หรอ ถ้าเขาไม่มาไปกับกูก็ได้นะผมชักรำคาญไอ้บ้านี้แล้วหละ ทำไมมันถึงตามผมเจอทุกที่เลยนะ
นัดผู้หญิงไว้ จะไปเดทกัน มึงมีไรป่ะผมแกล้งโกหกออกไป มันทำสีหน้าไม่พอใจใส่ผม แต่ผมไม่สนใจมันหรอก มันจะพอใจหรือไม่พอใจก็เรื่องของมัน
ทำไมไม่รับว่ะผมว่า มือก็ยังคงกดโทรออก นี้มันเลยเวลานัดมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ
อ๊ะ!”ผมอุทาน เมื่อโทรศัพท์ในมือถูกไอ้เซโล่แย้งไป
มึงจะทำอะไร เอาโทรศัพท์กูคืนมานะ
ไม่ให้ มันไม่มาหรอกผมขมวดคิ้ว
มึงหมายความว่าไงไอ้เซโล่ทำสีหน้าอึกอัก มันดูมีพิรุธแปลกๆ
เปล่า... กูแค่บอกว่าผู้หญิงที่มึงนัดคงไม่มาแล้วแหละ ไปกับกูเหอะผมมองมันเหมือนพยายามจับผิด มันหมายความอย่างงั้นจริงๆหรอ... แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรมากกว่านั้น มันก็คว้ามือผมลากไปกับมัน
เห้ย!...

…….
…………..
…………………
ไอ้ยองแจเราไปเล่นม้าหมุนกันเถอะ ไปนะๆไอ้เซโล่ทำเสียงอ้อนผม มันพาผมมาที่สวนสนุก ผมไม่เข้าใจมันจริงๆ มันคิดว่าผมเป็นเด็กอายุหกขวบรึไง แล้วนี้ตกลงมันพาผมมาเที่ยวหรือผมพามันมาเที่ยวกันเนี้ย...
จะบ้ารึไง! ไม่ใช่เด็กๆนะ ขืนไปเล่นได้โดนมองว่าปัญญาอ่อนกันพอดีผมตะคอกใส่มัน
เเหะๆ กูล้อเล่นหรอกน่า...ก็เห็นมึงทำหน้าเครียดตลอดเวลาก็เครียดเพราะมึงนั้นแหละ
อ๊ะ! เดี๋ยวมานะไอ้เซโล่พูด จู่ๆมันก็วิ่งหายไป ทิ้งให้ผมยืนทำหน้าเหวอ นี้ผมตามอารมณ์มันไม่ถูกแล้วนะ แล้วนี้มันจะไปไหนอีกเนี้ย ทิ้งผมไว้อยู่คนเดียวอีก
 เฮ้อ....ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงมานั่ง หวังว่ามันจะไม่ได้ทิ้งผมจริงๆหรอกนะ
ผมนั่งมองผู้คนในสวนสนุก ทุกคนต่างมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ผมมองไปมองมาสายตาก็ปะทะเข้ากับคู่รักชายหญิงคู่หนึ่ง ทั้งคู่ดูเหมือนกำลังง้องอนกันอยู่ แต่

แล้วก็คืนนี้กัน ทั้งคู่ค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าหากันก่อนจะจุมพิตอย่างดูดดื่ม ผมมองภาพนั้นยิ้มๆ นี้สินะความรัก
อ๊ะ!”ผมตกใจ เมื่อจู่ๆก็มีอะไรกลมๆสีชมพู ฟูๆยื่นเข้ามาตรงหน้า มันคือสายไหมนั้นเอง ผมเงยหน้ามองคนที่ยื่นมาให้ ไอ้เซโล่นั้นเอง ที่มันรีบวิ่งไปก็แค่ไปซื้อสายไหมเนี้ยนะ
เอาไปสิอร่อยนะมันบอกผมยิ้มๆ ในมือมันก็มีอีกอันหนึ่ง ผมรับสายไหมมาไว้ในมือ มองไปมองมาสายไหมนี้ก็เหมือนหัวไอ้เซโล่เหมือนกันแฮะ
อร่อยมั้ย
กูยังไม่ได้กินเลย
ก็กินสิ หรือจะให้กูป้อน แต่ป้อนด้วยปากนะไอ้บ้านี้เมื่อไหร่จะเลิกกวนผมซะที
ไม่ต้อง กูแดกเองได้ผมว่า ก่อนจะงับสายไหมเข้าปาก ทันทีที่สายไหมแตะกับลิ้นของผม มันก็ละลายหายไปทันที แต่ความหวานของมันกลับแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปากอย่างน่าอัศจรรย์
หวานจัง...ผมพูด
ก็สายไหมนิ ถ้ามึงไม่อยากให้หวานก็ไปแดกดินดิมันกวนผมครับ
ไอ้เชี่ยโ.....อุ๊บ!”ผมที่กำลังหันไปจะด่ามัน กลับโดนมันประกบปากซะก่อน ผมจะดันหน้าออก แต่ไอ้เซโล่ดันจับท้ายทอยของผมไว้ มันบดเบียดริมฝีปากมันเข้ามามากขึ้น ผมเม้มปากไว้แน่นไม่ยอมให้มันสอดลิ้นเข้ามา
มือของไอ้เซโล่ที่จับท้ายทอยของผมเอาไว้ ลูบไล้ที่ต้นคอของผมเบาๆ ทำให้ผมรู้สึกขนลุกวูบขึ้นมา จนต้องยอมอ้าปากออก ลิ้นของมันสอดเข้ามาในปากของผม ไล่วนไปทั่วโพรงปาก น้ำรสชาติหวานถูกแลกเปลี่ยน มันจูบอยู่เนิ่นนานจนผมเริ่มจะขาดอากาศหายใจ
อื้ออ...ผมส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ มันจึงยอมถอนจูบออกแต่ก็อ้อยอิ่ง
จูบมึงหวานกว่าสายไหมอีก...มันบอก ผมรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้ใบหน้าผมต้องกำลังแดงอยู่แน่ ไอ้บ้านี้เล่นพูดออกมาแบบนี้ แถมเมื่อกี้ยังจูบท่ามกลางผู้คนในสวนสนุกอีก จนผมไม่กล้าเงยหน้ามองไปรอบๆเลย
มึงเขินหรอ...
เปล่าเว้ย! ไม่ได้เขิน...ไม่ได้เขินซะที่ไหนหละ ผมทั้งเขินทั้งอายเลยต่างหาก ผมก้มหน้างุดๆ ไม่กล้าสบตามัน
ไอ้ยองแจ... มึงมาเป็นแฟนกูเหอะ กูสัญญาว่าจะไม่ทำให้มึงเสียใจแน่นอนผมรีบหันควับไปมองหน้ามัน สายตาของมันดูจริงจังกว่าทุกครั้งจนผมพูดไม่ออก
มาเป็นแฟนกูเหอะนะยองแจ...มึงจะพูดย้ำทำไมเนี้ย... ผมแกล้งเสหน้ามองอย่างอื่น ไม่อยากเห็นหน้ามัน ไม่อยากเห็นสายตามันแบบนั้นเลยจริงๆ ทำไมมันต้องชอบผมด้วยนะ
ถ้ามึงไม่ตกลง กูจะจูบมึงต่อหน้าทุกคนอีกนะมันพูดก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาเหมือนจะทำจริงๆ
เห้ย! เดี๋ยวก่อน... ให้เวลากูคิดก่อนดิผมว่า มันจ้องหน้าผม แต่ยิ่งมันจ้องผมก็ยิงคิดไม่ออก

โอ้ย... คิดไม่ออกเว้ย...ผมพูดก่อนจะแกล้งลุกขึ้นยืน ผมว่าผมรีบเผ่นจากมันดีกว่า...
ไม่เป็นไร มึงจะกลับบ้านไปทั้งๆที่ไม่ตอบกูก็ได้นะ แต่โทรศัพท์ กระเป๋าตังค์ บัตรเครดิตมึงอยู่นี้ มึงก็หาทางกลับบ้านเองโดยไม่ใช้เงินหละกันนะมันชูของบางสิ่งให้ผมดู ผมถึงกลับตาโตจ้องมองของในมือมัน นี้มันเอาของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี้ย...
ไอ้เซโล่เอาของกูคืนมานะเว้ย...
มึงก็ตอบคำถามกูมาก่อน ไม่งั้นก็เดินกลับบ้านเองหละกันมันขู่ แล้วคิดหรอว่าอย่างผมจะเดินกลับเองไม่ได้ ใช่... ผมเดินกลับเองไม่ได้หรอก ทางตั้งไกล มีหวังขาหักก่อนถึงบ้านแน่T_T
ถ้ากูตอบว่าไม่อ่ะ
กูก็จะโยนของของมึงทิ้ง แล้วปล่อยให้มึงหาทางกลับบ้านเองไงถ้ามันจะเหลือทางเลือกเดียวไว้ให้ผม แล้วมันจะถามผมหาหอกอะไรเนี้ย...
อย่างงี้มันมัดมือชกนิหว่า...ผมว่า
เปล่า... กูมัดใจมึงต่างหาก...คำพูดของมันเล่นเอาผมอึ้งครับ นี้ตกลงผมต้องยอมเป็นแฟนมันใช่ไหมเนี้ย...
เออ... เป็นก็เป็น มึงเอาของกูคืนมาได้และผมบอกก่อนจะเข้าไปแย้งของในมือมัน แต่มันก็ชักกลับ นี่มันจะเอาไงกับผมเนี้ย...
เห้ย... อะไรอีกอ่ะ กูก็ตอบตกลงแล้วไง
มึงต้องพูดให้ชัดเจน ว่ามึงตกลงเป็นแฟนกับใคร...ทำไมมันไม่เอาธูปเอาเทียนพร้อมดอกไม้มาให้ผมสาบานเลยหละ อะไรจะต้องชัดเจนขนาดนั้น
กู...ยู...ยอง...แจ...ตกลงเป็นแฟนกับไอ้...เซ...โล่...ครับผมพูดเน้นชื่อเสียงดังฟังชัด ไอ้เซโล่ยิ้มระรื่นก่อนจะส่งของทั้งหมดคืนให้ผม
ไป... กลับบ้านกันเหอะ เดี๋ยวกูจะไปส่ง...แล้วมันก็เดินนำหน้าไปทิ้งให้ผมยืนเอ๋อ พอได้คำตอบแล้วมันคิดจะกลับก็กลับ ผมละปวดหัวกับมันจริงๆ เฮ้อ...ยองแจนะยองแจ ดันตกลงเป็นแฟนกับมันแล้วซะด้วย แล้วต่อไปนี้ชีวิตผมจะเป็นยังไงเนี้ย...


*******


[Moon Jong Up]

ผมเดินลงบันไดมา ได้ยินเสียงพูดคุยดังมาจากห้องรับแขก เป็นเสียงของพ่อและแม่กับใครอีกก็ไม่รู้ ด้วยความอยากรู้ผมจึงเดินเข้าไปแอบฟังที่หน้าประตู นี้ผมไม่ได้สอดรู้สอดเห็นเลยนะ
ผมแง้มประตูออกนิดนึง เป็นพ่อและแม่ของผมจริงๆด้วย กำลังพูดคุยอยู่กับชายหญิงคู่หนึ่ง ผมแอบฟังบทสนทนาของพวกเขา
ต้องขอโทษด้วยนะครับที่แดฮยอนมาครั้งที่แล้วแต่ไม่เจอพวกเรา พอดีผมกับภรรยาติดธุระนิดหน่อยพ่อผมพูด ทำไมท่าทางของพ่อกับแม่ถึงดูเกรงใจพวกเขาจังนะ
ไม่เป็นไรหรอกครับ ครั้งนั้นผมแค่ให้แดฮยอนมาพบว่าที่คู่หมั้นเฉยๆ แต่วันนี้ที่ผมมาเพราะจะมาคุยเรื่องหมั้นอย่างเป็นทางการซักที
จริงๆแล้วต้องเป็นฝ่ายเราต่างหากที่ต้องไปพบพวกคุณ เพราะพวกเราเป็นคนเสนอเรื่องหมั้นไป ต้องขอโทษจริงๆครับผมไม่ค่อยชอบใจในท่าทีอ่อนน้อมของพ่อเลย แล้วอะไรกันเรื่องที่พ่อผมเป็นคนเสนอเรื่องหมั้นไป
ฝ่ายชายมาหาฝ่ายหญิงถูกต้องแล้วครับ เรามาคุยเรื่องกำหนดการหมั้นกันเลยดีกว่า ผมว่าอีกเดือนหนึ่งคงดี
ผมก็เห็นด้วยครับผมแอบฟังบทสนทนาต่ออีกสักพัก สายตามองเข้าไปในห้อง แต่ไม่พบร่างของผู้ชายคนนั้นที่เป็นว่าที่คู่หมั้นพี่จียอน...
ชิ! ถ้าอยากหมั้นจริงๆก็มาเองสิผมพูดก่อนจะหันหลังกลับ เลิกสนใจเรื่องนี้ดีกว่า...
ปึก! โอ้ยย...ผมรีบคลำจมูกตัวเอง ใครกล้ามายืนขวางทางผมเนี้ย...
เป็นอะไรมากมั้ย ไหนพี่ขอดูหน่อย...เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามผม ก่อนจะจับมือผมออก ก้มลงจ้องมองจมูกของผมที่แดงนิดๆ
น นาย...ผมผงะถอยหลัง เป็นคนที่ผมเพิ่งพูดถึงเมื่อกี้นี้นั้นเอง
พี่ชื่อแดฮยอนครับเขาบอกผมยิ้มๆ อย่ามายิ้มอ่อนโยนแบบนั้นนะ ผมไม่ชอบเลยมันทำให้ผมใจสั่นแปลกๆ

ไหนพี่ขอดูจมูกหน่อย...
ม ไม่เป็นไรแล้วครับผมก้าวถอยหลังหนีใบหน้าที่ยื่นเข้ามา รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวยังไงไม่รู้ หรือว่าผมจะไม่สบายกันนะ
อ้าว... จงออบมาทำอะไรตรงนี้น่ะพี่จียอนที่เพิ่งเดินเข้ามาถาม พร้อมกับจ้องมองผมกับคนข้างๆสลับกัน
อ เออ... ค คือว่า... ผมเดินผ่านมาอ่ะครับผมอึกอักตอบ
พ่อกับแม่คุยธุระอยู่ มาเดินเล่นแถวนี้เดี๋ยวก็โดนดุหรอกพี่จียอนว่า
ครับ... ผมกำลังจะไปที่อื่นแล้วผมรีบเดินออกมา แต่แล้วขาก็หยุดชะงัก ผมหันกลับไปมองที่ด้านหลัง ก็พบว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองตามผมอยู่ พี่แดฮอยน....

*******


[Kim Him Chan]

ผมนอนอยู่ท่ามกลางความมืดมิดมานานมากแล้ว ความเจ็บปวดที่ข้อมือเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันหายไปไหนกันนะ คงไม่ได้คิดจะทิ้งให้ผมนอนตายอยู่แบบนี้ใช่ไหม...
เห้ย... ไปเปิดผ้าปิดตามันออกสิเสียงหนึ่งพูดขึ้น พวกมันมาแล้ว... หัวใจผมเต้นรัว...

เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ ผ้าที่ปิดตาอยู่ถูกดึงออก ผมกระพริบตาถี่ๆปรับสายตา มองเห็นรางๆว่าพวกมันมีกันสามสี่คน ถ้าเชือกที่มัดมืออยู่ด้านหลังถูกแกะออก ผมก็คงจะพอสู้พวกมันไหว
แดกข้าวซะมันบอกผม ก่อนจะวางถาดอาหารที่หน้าตาเหมือนอาหารหมาไว้ตรงหน้า ผมเงยหน้ามองมัน
อะไรมันถามเสียงเหี้ยมด้วยใบหน้าโหดๆ
จะให้กูแดกยังไง มือถูกมัดอยู่ด้านหลังแบบเนี้ย...ผมบอก มันชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยอมแก้มัดให้ผม คงเป็นเพราะมันเห็นผมสภาพดูไม่น่าเป็นอันตราย และพวกมันยังมีกันหลายคนอีก
ผมหยิบถาดอาหารเข้ามาใกล้ ช้อนก็ไม่มีให้อีก ผมจึงแกล้งทำเป็นใช้มือหยิบข้าวกิน แต่สายตากำลังมองสำรวจพวกมันอยู่ พวกมันมีกันแค่สามสี่คนจริงๆ แต่ละคนมีปืนพกอยู่ที่เอว
อึก...อัก! แค่กๆๆๆผมแกล้งทำเป็นสำลักข้าวออกมา ไอ้คนที่อยู่ใกล้ผมที่สุดเดินเข้ามาดู
เป็นอะไรอีกว่ะมันทำสีหน้ารำคาญ มองดูว่าผมเป็นอะไรมากรึเปล่า
ผมอาศัยจังหวะที่มันไม่ทันตั้งตัว ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วชกมันไปหนึ่งที ก่อนจะแย้งปืนที่เอวมันมา แล้วล็อกตัวมันไว้จากด้านหลัง ผมใช้ปืนที่แย้งมาจ่อหัวของมันไว้ พวกมันที่เหลือรีบหันมามอง ก่อนจะหยิบปืนจ่อมาที่ผม
เห้ย! ย...อย่ายิงนะเว้ย...มันคนที่โดนผมล็อกคอไว้เอ่ยบอกเสียงสั่น ใช่ ถ้าพวกมันยิงมา รับรองว่าโดนไอ้บ้านี้เต็มๆ

ถอยไป!”ผมเอ่ยสั่งพวกมัน พวกมันมีท่าทางลังเลแต่ก็ยอมถอย ผมลากตัวประกันไปที่ประตู ปืนในมือจ่อไว้ที่หัวมันพร้อมยิง
ผมยกยิ้มอย่างได้ใจเมื่อเดินถอยออกมาพ้นประตู ก่อนจะพบว่าที่นี้เป็นโกดัง ผมผลักไอ้ตัวประกันล้มลง ก่อนจะหันหลังวิ่งหนี
ปึก! โอ้ย...ผมวิ่งชนกับอะไรบางอย่าง ปืนในมือถูกแย้งไป ผมเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะต้องเบิกตากว้าง
ผลั๊ก! อึก!”คนตรงหน้าใช้ปืนที่แย้งไปจากผมตบเข้าที่หน้าผมอย่างแรง ผมเซล้มลง มุมปากเจ็บแปลบ พอยกมือขึ้นจับก็พบว่ามีเลือดออก...
สัสเอ้ย!”ผมสบถ
ไอ้คนที่ตบผมเดินเข้ามา มันเชยคางผมขึ้นให้สบตากับมัน ผมจำได้ว่ามันคือใคร.... มันคือผู้นำตระกูลความมืด บัง ยงกุก!
ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!”เสียงปืนสี่นัดดังติดกัน มันยิงลูกน้องของมันที่เฝ้าผมไว้ ผมเบิกตากว้างจ้องมอง มันแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างเลือดเย็น
จับมันมัดแล้วลากไปไว้ท้ายรถ!”มันเอ่ยสั่งลูกน้องเสียงเข้ม ลูกน้องมันเดินเข้ามาหาผม
ไอ้เชี่ย! พวกมึงต้องการอะไรว่ะ อุ๊บ!”ผมเอ่ยออกไปก่อนที่จะโดนปิดปาก มือถูกมัดไว้ด้านหลังอีกครั้ง ผมเบ่หน้าเพราะความเจ็บที่ข้อมือ ผมจ้องหน้าไอ้ยงกุกเขม็ง มันทำเพียงแค่แสยะยิ้มให้
คนที่จับเรามาคือ...บัง ยงกุก!

*******


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น