[Yoo Young Jae]
หลังจากได้ฟังคำเตือนของไอ้ฮิมชานเรื่องไอ้เซโล่
ผมก็ขับรถตรงมาที่บ้านไอ้เซโล่ทันที มันมีเรื่องที่จะต้องบอกผมอีกหลายเรื่อง
ทั้งเรื่องที่มันทำร้ายพี่แจบอม เรื่องที่มันค้ายาเสพติด
เรื่องที่มันทำธุรกิจผิดกฎหมายและเรื่องที่มันเป็นเพื่อนกับไอ้ยงกุก....!
“ไอ้เซโล่ มึงอยู่ไหน....”ผมตะโกนเรียกหามัน แต่ก็ไม่มีเสียงขานรับตอบกลับมา
หรือว่ามันจะไม่อยู่บ้านเพราะผมตรงมาที่นี้เลยโดยที่ไม่ได้โทรบอกมันก่อน
ผมเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อมันจะอยู่ที่นั้น
“ไอ้เซโล่...”ผมเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับเอ่ยเรียกชื่อของมัน แต่ภายในห้องว่างเปล่า
ไม่มีแม้แต่เงาของไอ้เซโล่
“มันไปไหน...”ผมพูด ก่อนทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง
แต่แล้วขาของผมก็ต้องชะงักเมื่อสายตาไปสะดุดเข้ากับโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือ
ผมขมวดคิ้วจ้องมองมันนั้นไม่ใช่โทรศัพท์ของไอ้เซโล่
ผมเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมา มันคุ้นตาผมมากเหมือนโทรศัพท์ของ....
ว่าแล้วด้วยความสงสัยผมก็กดเปิดหน้าจอทันที
และภาพบนหน้าจอก็ทำให้ผมถึงกับต้องเบิกตากว้าง
เพราะมันคือรูปผมกับไอ้จงออบและไอ้ฮิมชานที่ยืนกอดคอกันส่งยิ้มกว้างออกมา
นี้เป็นโทรศัพท์ของไอ้ฮิมชาน!
ผมกำโทรศัพท์มือถือแน่น
ความกลัวของผมเป็นจริง ไอ้เซโล่มีส่วนรู้เห็นด้วยกับการถูกจับตัวไปของไอ้ฮิมชาน
พวกมันทั้งหมดสมรู้รวมคิดกัน ผมจะไม่มีวันให้อภัยพวกมันแน่
“มึงมันเลวไอ้เซโล่...”ผมพูดขึ้นกับตัวเอง
“ใช่กูมันเลว....”จู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง ผมรีบหมุนตัวกลับไปมอง
ไอ้เซโล่มันอยู่บ้าน!
“ทำไมมึงมาอยู่นี้”ผมถามออกไป ก่อนจะต้องรู้สึกว่าคำถามที่ถามออกไปนั้นช่างแปลกประหลาดเพราะนี้คือบ้านของมัน
แต่ว่าทำไมผมเรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ตอบ
“มึงกำลังทำอะไรไอ้ยองแจ...”มันถามผมกลับมา ผมก้มลงมองโทรศัพท์ในมือ
“มึงต่างหากต้องบอกความจริงกูมา
นี้มันคือโทรศัพท์ของไอ้ฮิมชาน ทำไมมันมาอยู่ที่มึง”ผมเห็นสีหน้าตกใจของมัน
“กู...ไม่รู้”มันตอบ แต่มันไม่ยอมสบตากับผม
“มึงร่วมมือกับไอ้ยงกุกจับตัวไอ้ฮิมชานไปใช่ไหม”ผมยังคงถามมันต่อ มันนิ่งเงียบ งั้นแสดงว่ามันทำจริงๆ
ความโกรธทำให้ผมแทบระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่
“มึงกับกูวันนี้เราจบกัน
มึงไม่ต้องมาเจอกูอีก”ผมว่าก่อนทำท่าจะเดินออกไป
แต่ไอ้เซโล่คว้าแขนผมไว้
“อย่าไปนะยองแจ
กูไม่ได้ตั้งใจนะ ไอ้ยงกุกมันเป็นเพื่อนกู กูเลยต้องช่วยมัน”มันบอก
ผมมองมันอย่างพูดอะไรไม่ถูก
“หึ
เป็นเพราะมันเป็นเพื่อนมึงงั้นหรอ ไอ้ฮิมชานก็เป็นเพื่อนกูเหมือนกัน
และกูจะไม่ยอมให้มันโดนพวกมึงทำร้ายแน่นอน”ผมพยายามสะบัดแขนออกจากมัน
“ที่มึงต้องการจะไปจากกู
เพราะมึงจะไปหาไอ้เหี้ยนั้นใช่ไหม!”
“มึงพูดอะไรของมึงไอ้เซโล่
กูกับพี่แจบอมไม่ได้มีอะไรกัน”
“กูไม่เชื่อ
มึงจะไปหามันใช่ไหม!”ไอ้เซโล่เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง
“ไม่เชื่อก็เรื่องของมึง
แต่กูจะไป...ปล่อย”ผมสะบัดแขนออกจากมือของมันได้สำเร็จ
แต่.....
“ขอโทษ...แต่กูคงไม่สามารถจะปล่อยมึงไปได้
โครมมม!!!”ผมถูกไอ้เซโล่กระชากอย่างแรกก่อนจะโดนเหวี่ยงไปกระแทกเข้ากับโต๊ะ
“อุก!”ผมจุกจนตัวงอ วัตถุอะไรบางอย่างถูกผมกระแทกล่วงหล่นลงมา
มันเป็นกระปุกยาสีขาวที่ไอ้เซโล่บอกว่าเป็นยาแก้ปวดหัว
กระปุกยากลิ้งไปมาอยู่ที่พื้นก่อนที่มันจะหยุดนิ่ง
ชื่อของมันปรากฏขึ้นต่อสายตาของผม ยาระงับประสาท! ผมเบิกตากว้าง ไอ้เซโล่กินยาระงับประสาท ทำไมกัน....!
“โพล๊ะ!!!”และผมยังไม่ทันได้สงสัยอะไรไปมากกว่านั้น
วัตถุบางอย่างในมือไอ้เซโล่ก็ฝาดเข้าที่หัวผมอย่างแรง ผมล้มลงนอนแน่นิ่งกับพื้น
ความเจ็บปวดแล่นลิ่ว เลือดสีแดงเข้มไหลอาบลงมา
ผมจ้องมองไอ้เซโล่ที่ยืนอยู่
ในมือของมันถือกรอบรูปที่แตกกระจาย นั้นคงเป็นสิ่งที่ไอ้เซโล่ใช้ฝาดหัวผม
ผมจ้องมองมันด้วยความหวาดหวั่น ไอ้เซโล่มันเป็นโรคประสาท
และตอนนี้มันก็กำลังทำร้ายผม....!
ไอ้เซโล่จ้องมองผมที่ล้มลงไปนอนที่พื้น
สายตาของมันนิ่งเฉยจนไม่สามารถรู้ได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ มุมปากของมันแสยะยิ้ม
“มึงสมควรจะได้รับบทลงโทษไอ้ยองแจ
ข้อหาที่มึงกล้านอกใจกู!”ผมเบิกตากว้าง
พูดจบมันก็ก้าวเดินเข้ามา ผมพยายามจะดันตัวลุกขึ้นหนี
เลือดที่ไหลอาบลงมาบนใบหน้าทำให้ผมมองเห็นไม่ถนัดนัก
“เพลี๊ยะ!!”ไอ้เซโล่ตบหน้าผม ผมหน้าหันไปตามแรงตบของมัน
ก่อนที่มันจะทุบตีลงมาที่ร่างกายของผม ผมยกมือขึ้นมากันที่หน้าไว้
“อึก! โอ้ยยย!”มันทุบตีผมไม่ยั้ง
ผมได้แต่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“พอแล้วไอ้เซโล่...กูขอโทษ...”ผมเอ่ยขอร้องมัน ไอ้เซโล่หยุดทุบตีผม ตอนนี้ร่างกายของผมบอบช้ำไปทั้งตัว
“ฮึก
กูขอโทษ...แต่กูไม่ได้นอกใจมึงจริงๆ โอ้ย!”ผมพยายามจะอธิบาย
แต่ไอ้เซโล่ก็ไม่ฟัง มันกระชากหัวผมขึ้นมา
“กูไม่อยากฟังคำแก้ตัวของมึง
และต่อจากนี้ไปมึงจำไว้ด้วยนะว่ากูเป็นผัวมึง มึงไม่มีทางจะไปมีใครได้อีก!”พูดจบมันก็กระชากผมให้ลุกขึ้นก่อนจะเหวี่ยงลงไปบนที่นอน ผมพยายามจะคลานหนี
แต่มันก็ลากผมกลับมาที่เดิม
“ปึก! อุก!”ไอ้เซโล่ชกเข้ามาที่ท้องของผม
ผมนอนกุมท้องตัวงอ ไอ้เซโล่จับผมให้นอนหงาย เสื้อผ้าของผมบนร่างกายถูกมันฉีกทิ้งอย่างไม่ใยดี
ร่างกายของผมเปล่าเปื่อยไม่เหลือเสื้อผ้าซักชิ้น
ไอ้เซโล่จับขาผมแยกออกกว้าง โดยไม่คิดที่จะเตรียมพร้อมใดๆ มันจับแกนกายมาจ่อที่ปากทางเข้า
“ฮึก ไอ้เซโล่กูขอโทษ...กูไม่ได้นอกใจมึงจริงๆ”ผมเอ่ยอ้อนวอนมัน ไอ้เซโล่เหยียดยิ้ม ผมรู้ว่ามันไม่เชื่อในคำพูดของผม
“โอ้ยยย!!!”ผมกรีดร้องออกมา เมื่อแกนกายของไอ้เซโล่ลุกล้ำเข้ามาในช่องทางด้านหลัง
มันดันเข้ามาจนสุดในทีเดียว
และผลจากการที่ไม่ได้เตรียมพร้อมก็ทำให้ช่องทางรักของผมฉีกขาด
ผมจิกผ้าปูที่นอนแน่น
น้ำตาซึมออกมาจากหางตาก่อนจะไหลล่วงลงสู่ที่นอน เลือดสีแดงข้นไหลอาบลงมาตามเรียวขาของผม
“เจ็บใช่ไหมหละ
แต่ที่มึงเจ็บยังไม่เท่ากับที่กูเจ็บซักนิด!”มันพูด
สายตาที่จ้องมองมาที่ผมไม่ได้มีความสงสารเลย แต่มันกับเหยียดยิ้มอย่างซะใจ
นี้มันคือผลกรรมของผมใช่ไหม ผลกรรมที่ผมไม่ได้พูดความจริง....
ไอ้เซโล่เริ่มต้นขยับทันที
ความเจ็บปวดที่ยังไม่บรรเทาลงแม้แต่นิดแล่นลิ่วเจ็บเจียนตาย
“ฮึก
โอ้ยย...กูเจ็บ...ไอ้เซโล่หยุดเหอะ”ผมขอร้องมัน
แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ มันยังขยับเข้าออกอย่างรุนแรง ไม่ว่าผมจะขอร้องยังไงมันก็คงไม่สนใจจะฟังผมเลย....
“ฮึก ฮือ....”ผมได้แต่ร้องไห้ออกมา สะโพกถูกไอ้เซโล่ยึดไว้แน่น
“อึก
อ้า....มึงนี้ยังคับแน่นเหมือนเดิมเลยนะ”คำพูดของมันช่างทำร้ายจิตใจผมเหลือเกิน
นี้เป็นเพราะมันโกรธผมมากใช่ไหม
ความเจ็บปวดของร่างกายเริ่มทำให้สายตาของผมพร่าเบลอ
บทรักที่แสนรุนแรงยังคงดำเนินต่อไป ไม่มีการเล้าโลมหรือการสัมผัสส่วนอื่นใดของร่างกาย
แต่มันเป็นการระบายความเจ็บปวดและความโกรธเคืองที่ไอ้เซโล่มีต่อผมล้วนๆ
ตอนนี้สมองของผมเริ่มที่จะเลือนราง
ผมได้แต่นอนนิ่งให้มันกระทำ น้ำตาที่ไหลอาบบนใบหน้าแห้งเหือดไปแล้ว คงเหลือแต่ความเจ็บปวดที่ไอ้เซโล่มอบให้
“อึก อ๊า.....”ไอ้เซโล่กระตุกเกร็ง ผมรู้สึกได้ถึงน้ำที่ถูกฉีดพ้นเข้ามาในตัว
ไอ้เซโล่ปลดปล่อยออกมาแล้ว มันจบแล้วใช่ไหม... ผมเอียงหน้าซบลงกับหมอน
อยากจะสลบลงไปเต็มที แต่แล้วไอ้เซโล่กลับจับหัวผมให้หันกลับไปมองมัน
“มันยังไม่จบหรอกนะที่รัก
มึงยังต้องได้รับบทเรียนอีกเยอะ...!”หัวใจของผมกระตุกวูบ
เมื่อไอ้เซโล่หยิบคัตเตอร์ขึ้นมา มันจะทำอะไร....!
“มึงจะทำอะไรกูไอ้เซโล่...อย่านะ...อย่า...”ผมจ้องมองมันด้วยความหวาดกลัว ไอ้เซโล่เลื่อนใบมีดออกมา
มันจ้องมองคัตเตอร์ในมือเหมือนคนโรคจิต
“อ้ากกก!!!”ผมกรีดร้องออกมาสุดเสียง เมื่อใบมีดคมกริบกรีดลงมาบนผิวเนื้อ ไอ้เซโล่จ้องมองเลือดที่ค่อยๆไหลซึมออกมา
มันเหยียดยิ้มอย่างพอใจ
“ฮึก
ฮือ....ไอ้เซโล่...มึงมันโรคจิต...”ผมกดด่ามัน
ไอ้เซโล่หุบรอยยิ้มลง
“เพลี๊ยะ!”มันตบหน้าผม หน้าผมหันไปตามแรงตบ ที่มุมปากมีเลือดไหลซึมออกมา
แต่มันคงไม่สามารถจะเจ็บปวดไปได้มากกว่านี้แล้วหละ
“ใช่กูมันโรคจิต
แต่ที่กูเป็นแบบนี้ก็เพราะมึงไง!”พูดจบมันก็เริ่มขยับแกนกายเข้าออกอีกครั้ง
และครั้งนี้มันรุนแรงกว่าเดิม
“โอ้ยยย!!!”ผมสะดุ้งร้องออกมา น้ำตาไหลอาบแก้ม ผมจ้องมองหน้าไอ้เซโล่ผ่านหยาดน้ำตา
ไอ้เซโล่กระแทกกระทันลงมารุนแรงพอๆความความโกรธในตัวของมัน
“พอเหอะไอ้เซโล่...กูจะไม่ไหวแล้วนะ...”ผมเอ่ยบอกมัน เพราะตอนนี้ร่างกายของผมรับความเจ็บปวดอีกไม่ไหวแล้ว
แต่มันก็ไม่สนใจฟังผมเหมือนเคย ผมอยากจะให้นี้เป็นเพียงความฝันเหลือเกิน
อยากจะให้มันเป็นเพียงฝันร้าย
และผมก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฝันร้ายนี้จะจบลงเสียที.....
และแล้วสติของผมก็ดับวูบลง.......
*******
[Bang Yong Gook]
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับผม
จุดมุ่งหมายเดิมของผมยังอยู่รึเปล่า ตั้งแต่นักโทษที่ผมจับมา
เลิกขัดขืนเลิกต่อต้าน แล้วมีที่ท่าเปลี่ยนไปจากเดิม
ผมก็เริ่มลืมจุดมุ่งหมายเดิมของตัวเอง.....
ผมไม่รู้ว่าไอ้ฮิมชานมีอิทธิพลต่อผมเมื่อไหร่
แต่ทุกครั้งที่มันเอาใจและยอมเชื่อฟังคำสั่งของผม
ความโกรธแค้นในตัวผมก็ค่อยๆลดน้อยลงไป
หรือผมอาจจะไม่ได้โกรธแค้นมันแล้วก็เป็นไปได้
“กำลังคิดอะไรอยู่หรอครับ”จีโอที่ยืนอยู่ข้างๆผมเอ่ยถาม เมื่อเห็นผมเอาแต่ถือแก้วเหล้านั่งเหม่อลอย
จริงๆแล้วผมไม่ได้เหม่อลอย แต่ผมกำลังมองไอ้ฮิมชานที่นั่งอยู่ที่โต๊ะคาสิโน่ต่างหาก
มันกำลังเล่นพนันอยู่กับลูกค้ารายใหม่ของผม
“นายคิดว่าฉันยังควรทำตามแผนอยู่ไหมจีโอ...”ผมย้อนถามในสิ่งที่ผมยังไม่แน่ใจ
“ไม่รู้สิครับ
แต่ถ้าเป็นผม...ผมจะยอมลืมเรื่องเลวร้ายทั้งหมด เพื่อรักษาคนที่ตัวเองรักไว้
เพราะเขาคนนั้นย่อมสำคัญมากกว่าความแค้น...”จีโอพูดอย่างเข้าใจในความรู้สึกของผมตอนนี้ดี
ผมได้แต่ฉีกยิ้มบางๆ จ้องมองร่างของคนที่กำลังพูดถึง
นั้นสิ
หรือผมควรจะยอมลืมความแค้นทุกอย่างกัน.......
[Kim Him Chan]
ผมกำลังนั่งเล่นคาสิโนอยู่กับลูกค้ารายใหม่ของไอ้ยงกุก
มันเป็นงานชิ้นหนึ่งที่ผมควรทำไม่ใช่เพื่อเอาใจลูกค้า
แต่เพื่อให้ไอ้ยงกุกเห็นในความสามารถของผมและไว้ใจในตัวผมมากขึ้น
“คุณนี้เล่นเก่งจริงๆเลยนะครับ”ชายมาดนักธุรกิจแต่จริงๆแล้วอยู่ในวงการมืดพูดขึ้น เขาคือลูกค้ารายใหม่ที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะทำการค้ากับไอ้ยงกุกดีไหม
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ
ผมก็เกือบจะเสียท่าให้คุณเหมือนกัน”ผมพูดออกไปพร้อมรอยยิ้ม
แต่ที่จริงในใจอยากจะบอกว่า ‘ระดับมึงน่ะเร็วไปสิบปีที่จะเอาชนะกู’ แต่ผมก็ไม่ได้พูดออกไป
“ผมชอบคุณนะ
ทั้งเก่งทั้งฉลาดสมกับเป็นคนที่ยืนเคียงข้างคนอย่างยงกุก”คำพูดของอีกฝ่ายทำให้หัวคิ้วผมกระตุก
จะบอกว่าผมเหมาะสมกับไอ้ยงกุกงั้นหรอ ผมไม่ยินดีกับคำชมนี้เลยซักนิดเดียว
ผมชำเรืองมองไปที่ไอ้ยงกุก
มันก็กำลังมองผมอยู่เหมือนกัน ข้างๆมันนั้นคือจีโอ
ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความไว้วางใจที่มันมีต่อผมมากขึ้น
มากขนาดที่ว่าไม่จำเป็นต้องลามโซ่ ไม่จำเป็นที่ต้องมีจีโอคอยเดินคุม
และผมก็ไม่โดนมันทำร้ายร่างกายอีกแล้วด้วย
“ผมตัดสินใจแล้ว
ผมจะตกลงทำการค้ากับยงกุก”อีกฝ่ายพูดขึ้น ผมฉีกยิ้มให้ด้วยความยินดี
“ขอบคุณครับ
เราจะดูแลคุณอย่างดีเพราะคุณคือลูกค้าคนสำคัญของเรา”ผมทิ้งประโยคที่คิดว่าจะทำให้อีกฝ่ายเชื่อใจและมั่นใจในการค้านี้มากขึ้น
และมันได้ผล
“ผมก็คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น”อีกฝ่ายบอกก่อนจะยืนมือมาจับมือกับผม ไอ้ยงกุกเดินเข้ามา
“คุณตกลงทำการค้ากับเราแล้วใช่ไหมครับ”มันถามพร้อมกับรอยยิ้มนิดๆ
“ใช่แล้วครับ คุณต้องขอบคุณคนรักของคุณนะ
เพราะผมชอบเขาถึงยอมตกลงทำธุรกิจด้วย”ไอ้ยงกุกหันมามองหน้าผมนิดนึง
เหมือนกับว่าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
“ขอบคุณครับ
แล้วเราคงได้เริ่มธุรกิจกันเร็วๆนี้”มันบอกก่อนจะยื่นมือออกไปจับมือกับอีกฝ่าย
แล้วทั้งสองก็เดินออกไปด้วยกัน ผมจ้องมองแผ่นหลังของไอ้ยงกุกที่เดินออกไปส่งลูกค้ารายใหม่ของมัน
เหอะ...ผมเนี้ยนะเหมาะกับซาตานอย่างไอ้ยงกุก....
“เก่งจังนะครับผูกใจลูกค้าได้ดีซะด้วย”เสียงๆหนึ่งดังขึ้น ผมรีบหันควับไปมอง
“คริส...”ผมเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่าย คริสเดินมานั่งลงที่โต๊ะคาสิโน
“เล่นด้วยกันซักเกมไหม”ผมขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ คริสเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาผมเองทั้งๆที่ไอ้ยงกุกขู่ไว้แท้ๆ
แต่ผมก็ไม่คิดว่าคริสจะกลัวไอ้ยงกุกหรอก แต่ผมคิดว่าคริสจะไม่อยากยุ่งมากกว่า
แล้วทำไม....
“เอาสิ”ผมนั่งลงตามคำเชิญชวน
เกมเริ่มดำเนินขึ้น
ไพ่มากมายถูกแจกให้กับผมและคริส เราต่างฝ่ายต่างหยิบไพ่ของตัวเองขึ้นมาดู
ไม่มีใครพูดอะไร จนกระทั่ง....
“คุณกำลังวางแผนอะไรอยู่ใช่ไหม...”ผมเงยหน้าขึ้นจากไพ่ในมือมองฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เข้าใจ
คริสไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผม แต่มุมปากของเขากำลังยกยิ้ม ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ
เขาไม่ได้ตั้งใจจะชวนผมเล่นใช่ไหม....
“หมายความว่ายังไง”ผมถามออกไป
“แผนของคุณเป็นยังไงหละ
หลอกให้ไอ้ยงกุกไว้ใจแล้วหลอกใช่ผมช่วยกำจัดมันงั้นหรอ.....!”ไพ่ในมือของผมแทบล่วงหล่น ผมเบิกตากว้าง คริสรู้แผนการของผมงั้นหรอ
แล้วไอ้ยงกุกหละ
“ไม่ต้องห่วงหรอก
ไอ้ยงกุกมันไม่ฉลาดพอจะรู้ได้หรอกนะ แต่ผมสนใจแผนการของคุณ”หัวใจผมกระตุก
มือเริ่มมีเหงื่อชื่นออกมา คริสหมายความว่ายังไงที่สนใจในแผนของผม
เขาจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกไอ้ยงกุกใช่ไหม
“นายจะร่วมมือกับฉันงั้นหรอ...”ผมถามอย่างกล้าๆกลัวๆ คริสละสายตาออกจากไพ่ในมือ แล้วเงยขึ้นมาสบตากับผม
“ใช่ครับ
ผมจะร่วมมือกับคุณด้วย เรามาร่วมมือกันกำจัดไอ้ยงกุก”
“ไอ้ฮิมชาน!”เสียงไอ้ยงกุกดังขึ้น มันเอ่ยเรียกผมพร้อมกับกำลังเดินเข้ามา สีหน้าบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจ
“หว่า...เจ้าของมาแล้วสินะ
เกมนี้ผมชนะคุณนะครับ”คริสว่าก่อนจะทิ้งไพ่ในมือลงแล้วเดินจากไป
ไอ้ยงกุกเดินมาถึงตัวผมพอดี
“กูบอกแล้วใช่.....”
“ก็แค่เล่นคาสิโนด้วยกันน่ะ
ไม่ได้มีอะไรหรอกไว้ใจกูสิ”ผมรีบชิงพูดแทรก
ก่อนที่มันจะเริ่มโวยวายใส่ผม ไอ้ยงกุกเชื่อในสิ่งที่ผมบอก
มันจึงไม่พูดอะไรต่อแต่สีหน้าบ่งบอกว่ายังไม่หายไม่พอใจ
ผมหันกลับไปจ้องมองไพ่ที่โต๊ะ
คริสชนะผมจริงๆ แล้วเขาจะร่วมมือกับผมจริงๆใช่ไหม... ผมได้แต่แอบยกยิ้มในใจ
งั้นแผนการของผมก็ใกล้จะสำเร็จแล้วสิ
*********
[Zelo]
ผมนั่งกุมหัวตัวเองอยู่ในห้องที่ข้าวของกระจัดกระจาย
กระปุกยาที่อยู่ข้างกายถูกหยิบมากลอกใส่ปาก
น้ำตาของผมไหลอาบใบหน้าก่อนจะหันไปมองร่างที่นอนอยู่บนเตียง
ร่างของไอ้ยองแจที่ตามตัวมีแต่รอยฟกช้ำ
หัวมีเลือดไหลอาบลงมา ที่แขนและหน้าอกมีรอยโดนของมีคมบาด
หลังจากที่ได้สติแล้วเห็นสภาพของไอ้ยองแจที่สลบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ผมก็แทบอยากฆ่าตัวเองให้ตายนัก
ผมทำร้ายไอ้ยองแจ
ผมเผลอทำร้ายมันโดยที่ไม่รู้ตัว ทุกอย่างเป็นเพราะฝีมือของผมเอง
ผมไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายมันจริงๆ
ผมเข้าไปโอบกอดร่างของไอ้ยองแจไว้
หัวใจของผมบีบรัดด้วยความเจ็บปวด เป็นเพราะผมรักมันมาก
เพราะรักมันมากถึงควบคุมตัวเองไม่ให้ทำร้ายมันไม่ได้
มันทำให้ผมเจ็บปวดกับความรักที่ผมมีให้มัน
“ฮึก ยองแจกูขอโทษ...”ผมเข้าไปโอบกอดร่างไอ้ยองแจที่ยังไม่ฟื้นแน่น พร้อมกับร้องไห้ออกมา
ผมเสียใจจริงๆ เสียใจที่ทำร้ายมัน แต่.......ถ้าให้ปล่อยมันไป ผมคงทำไม่ได้....!
*********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น