วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

B.a.p : Dark Love ความรักสีดำ Chapter 15

[Kim Him Chan]

หลายวันมานี้ไอ้ยงกุกยังคงพาผมมาที่บ่อนของมัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมพยายามทำดีกับมันสารพัด อย่าเพิ่งคิดว่าผมพิศวาสมันหละ ผมแค่แกล้งทำดีกับมันเพื่อให้มันตายใจ อย่างเช่นตอนนี้ที่ผมกำลังนั่งอยู่ข้างกายของมัน คอยนั่งวางมาดเป็นคู่รักสุดเร้าร้อนกับมันต่อหน้าลูกค้าทางธุรกิจที่เป็นแก๊งมาเฟียจากต่างประเทศ
ไอ้หัวหน้าแก๊งมาเฟียจ้องมองผมอย่างจะกลืนกิน ผมจึงแกล้งยกยิ้มเล็กๆพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนไปให้ ก่อนจะโน้มหน้าไอ้ยงกุกลงมา แล้วใช้ปลายจมูกเกลี่ยลงบนแก้มซากของมัน ไอ้หัวหน้าแก๊งมาเฟียถึงกับนิ่งอึ้งกับภาพยั่วยวนตรงหน้า มันจึงเผลอตอบตกลงกับข้อตกลงที่ดูท่าว่ามันจะเสียเปรียบชัดๆ
ไอ้ยงกุกกับผมยกยิ้มอย่างพอใจที่เหยื่อติดเบ็ด พอไอ้หัวหน้าแก๊งมาเฟียได้สติแต่มันก็สายไปเสียแล้ว มันได้ตอบตกลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือว่างานนี้สำเร็จได้เพราะผมแท้ๆ ไอ้ยงกุกหันมากดจูบผมเพื่อเป็นรางวัล ผมเพิ่งรู้ว่าผมก็มีแววด้านนี้เหมือนกันแหะ
ถือว่าเราได้ทำการตกลงกันแล้วนะครับไอ้ยงกุกพูดก่อนจะลุกขึ้นยืน มันยื่นมือออกไปตรงหน้าเพื่อจับมือกับอีกฝ่าย ไอ้หัวหน้าแก๊งมาเฟียยืนตามด้วยอาการที่ยังมึนงง ก่อนจะจับมือกับไอ้ยงกุกอย่างงงๆเช่นกัน
เดี๋ยวผมจะไปส่งที่ทางออกนะครับไอ้ยงกุกบอกก่อนจะผายมือเชิญ ไอ้หัวหน้าแก๊งมาเฟียเดินออกไปตามคำเชิญพร้อมลูกน้อง ไอ้ยงกุกทำท่าจะเดินตามออกไปแต่มันกลับชะงักเท้าแล้วหันกลับมาหาผมกับจีโอที่ยืนอยู่ข้างๆ
จีโอ.....มันเรียกก่อนจะเว้นช่วงคำพูดไป มันหันมามองที่ผมแวบหนึ่งก่อนจะพูดต่อ
ตามฉันมา....มันพูดแค่นั้นก่อนจะหันหลังเดินออกไป ผมกับจีโอหันมามองหน้ากัน จีโอรีบเดินตามเจ้านายตัวเองออกไป แม้จะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้วนั้นหมายถึงว่าไอ้ยงกุกให้อิสระกับผม มันไม่สั่งให้จีโอคอยเฝ้าผมแล้ว และนั้นยังหมายถึงความไว้วางใจที่มันเริ่มมีให้กับผม
ผมยกยิ้มออกมาเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะเริ่มเดินออกไปจากที่นี้บ้าง ก็แหม...คนอุตส่าห์ได้เป็นอิสระทั้งที่ ผมก็ย่อมอยากเดินไปนู้นไปนี้เองบ้าง แต่ที่จริงแล้วผมกำลังจะไปทำอะไรบ้างอย่างต่างหาก.....
ผมเดินออกมาจากห้องทำงานของไอ้ยงกุก แต่มันไม่ได้อยู่ที่นี้คาดว่าคงไปส่งไอ้แก๊งมาเฟียพวกนั้น ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายกว่าๆที่นี้จึงยังไม่ค่อยมีคนนัก แต่คนที่ผมเห็นสะดุดตาคือร่างที่กำลังนั่งดื่มอยู่ที่เคาน์เตอร์ ผมรีบเดินตรงเข้าไปหาทันที
ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆก่อนจะเอ่ยสั่งเครื่องดื่มกับบริกร คนข้างๆเมื่อได้ยินเสียงผมก็หันมามอง ผมหันไปมองจ้องตอบกลับไป
วันนี้ไม่มีคนคุมหรอครับถึงออกมาอยู่คนเดียวได้ผมยกยิ้มนิดๆให้
มีก็เห็นแล้วสิ แล้วคริสหละทำไมถึงมานั่งอยู่คนเดียวผมถามกลับ ใบหน้าหล่อเหลานั้นหันกลับไปมองแก้วเหล้าของตัวเองด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ
ก็ผมอยู่คนเดียวนิ ไม่ได้มีคนคู่ใจอยู่ข้างกายอย่าง.....
อย่าพูดถึงหมอนั้นเลยผมแทรกพูดขึ้นก่อนที่ชื่อของไอ้ยงกุกจะหลุดออกมาจากปากของอีกคน คริสหันกลับมามองผมอย่างไม่เข้าใจ
ทำไมหละ คุณกับเขาเป็น เอ่อ...แฟนกันไม่ใช่หรอผมรู้ว่าคริสพยายามหลีกเลี่ยงคำว่าเมีย และผมรู้สึกขอบคุณเขามากที่ไม่พูดคำนั้น เพราะแค่ทนฟังจากปากไอ้ยงกุกก็มากพอแล้ว
ฉันไม่อยากพูดถึงมันนะ แต่ฉันขอถามกลับเรื่องนายกับหมอนั้นได้ไหม ฉันได้ข่าวว่าพวกนายไม่ถูกกันมานานแล้วผมพูด แต่ดูสีหน้าคริสจะเศร้าลงอีกครั้ง
ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะผมบอก ผมก็ไม่อยากบังคับใครเหมือนกันถึงจะอยากรู้มากก็เหอะ
ไม่เป็นไรครับ... คือเรื่องมันก็นานมากแล้วหละ ตอนสมัยเรียนผมเคยมีแฟนอยู่คนหนึ่ง เรารักกันมาก คือผมหมายถึงว่าผมคิดว่าเรารักกันมากผมพยักหน้าแล้วนั่งฟังคริสเล่าอย่างตั้งใจ
แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็เปลี่ยนไป ผมไปได้ข่าวว่าเธอแอบคบกับใครคนหนึ่ง คนคนนั้นก็คือไอ้ยงกุกพอเล่าถึงตรงนี้คริสก็ดูเหมือนจะมีอารมณ์โกรธขึ้นมา เขากำแก้วเหล้าในมือแน่น ผมพอจะเดาเหตุการณ์ต่อจากนั้นได้ว่าทำไมทั้งสองถึงไม่ถูกกันเรื่อยมา.....
และเพราะเรื่องเล่านี้ทำให้ผมได้ข้อมูลมาใช้ในแผนการต่อป ผมจะทำให้ไอ้ยงกุกกับคริสเกลียดกันมากขึ้น  ผมหันไปคว้าแก้วเครื่องดื่มที่บริกรเอามาวางไว้ให้ ก่อนจะเหล่สายตามองคนข้างๆนิดนึง จากนั้นผมก็แกล้งทำเครื่องดื่มหกใส่ตัวเอง
อ๊ะ! หกหมดเลย โธ่เว้ย...ทำไมถึงซุ่มซ่ามงี้ว่ะเนี้ยผมแกล้งบ่นกระปอดกระแปด และตามคาดคริสรีบหันมาสนใจผม ผมแกล้งปลดกระดุมเสื้อออกสองสามเม็ด เผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียน คริสที่หันไปหยิบผ้าเช็ดหน้าก่อนจะหันกลับมาทำท่าจะเช็ดให้ถึงกลับชะงัก
เหนียวจังเลย คริสช่วยเช็ดให้หน่อยได้ไหมผมเอียงคอบอก คริสจ้องมองหน้าผมกับแผ่นอกสลับกัน ก่อนที่มือใหญ่จะค่อยๆซับผ้าเช็ดหน้าลงมาบนหน้าอกของผมเบาๆ ผมรู้สึกได้ถึงมือที่สั่นระริก คริสกำลังแอบลอบกลืนน้ำลายลงคอ ผมเหยียดยิ้มนิดๆให้ คริสเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม ผมสื่อความหมายผ่านไปทางสายตา....
ไอ้สัส! มึงมาแตะตัวเมียกูทำไม พลั๊ก!”จู่ๆไอ้ยงกุกที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็พุ่งเข้าชกหน้าคริสเต็มแรง คริสที่โดนชกล้มลงไปกองกลับพื้น ผมที่ตกใจกับเหตุการณ์รีบลุกขึ้นยืน
กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่งกับเมียกู!”ไอ้ยงกุกบอกก่อนทำท่าจะเข้าไปซ้ำ ผมรีบกระชากแขนมันไว้
เดี๋ยวไอ้ยงกุก มันไม่ใช่อย่างนั้นนะผมบอก ไอ้ยงกุกหันมาหาผมแทน ใบหน้าของมันโกรธจัด มันกระชากแขนของผมให้เข้าไปใกล้
ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วอย่างไหน หรือว่ามึงเป็นคนอ่อยมันเอง!”มันตระคอกใส่ผม ผมรีบหลุบตาลงต่ำ แรงบีบที่ต้นแขนมีมากขึ้น ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
ไม่ใช่อย่างนั้นอีกแหละ กูแค่ทำน้ำหกใส่เสื้อ คริสเลยจะช่วยเช็ดให้ผมบอกก่อนจะแกะมือมันออกจากต้นแขนของผม มันมองผมกับคริสสลับกัน
มันเป็นความจริง กูก็แค่จะช่วยคริสลุกขึ้นยืนก่อนจะบอก ที่มุมปากมีเลือดไหล เขายกมือขึ้นแตะมันนิดๆก่อนจะเหล่สายตามองไอ้ยงกุกแล้วเดินจากไปอย่างไม่เอาความ ผมที่มองตามคริสอย่างรู้สึกผิด แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของแผนผม ผมต้องทำให้คริสมาอยู่ฝั่งเดียวกับผมเพื่อทำลายไอ้ยงกุกให้ได้
ผมที่มัวแต่มองตามหลังคริสไป รู้สึกตัวอีกทีตอนโดนไอ้ยกกุกบีบที่ต้นแขนอีกครั้ง ผมหันไปมองหน้ามันด้วยความเจ็บปวด
โอ้ยย เชี่ย! เจ็บนะ ปล่อย...ผมร้องบอก
บอกมา...มึงกับมันมีอะไรกัน!”มันไม่ยอมปล่อยแขนผม แถมยังตระคอกเสียงดังถามผมอีก ผมที่เริ่มจะโมโหขึ้นมาบ้างต้องรีบสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ ไม่งั้นแผนที่วางไว้จะได้พังหมดแน่....
กูไม่ได้มีอะไรกับใครทั้งนั้น กูก็ยังเป็นของมึงคนเดียวนั้นแหละผมบอก ไอ้ยงกุกจ้องมองเข้าไปในแววตาของผมเหมือนต้องการจะค้นหาความจริง แต่มันคงไม่พบอะไร มันจึงยอมปล่อยแขนผมให้เป็นอิสระ ผมยกมือขึ้นจับแขนของตัวเองลูบไปมา นี้มันคุ้มกับแผนการของผมไหมเนี้ย....
ระหว่างผมกับมันไม่มีใครพูดอะไรต่อ ผมยังคงยกมือบีบแขนตัวเองไปมา จนกระทั่งมันมองมาที่หน้าอกและเสื้อของผมที่เปียกชุ่มบริเวณอกเป็นวงกว้าง
ไปกับกู...จู่ๆมันก็พูดขึ้นก่อนจะคว้าข้อมือของผม ผมรีบรั้งตัวเองไว้
เดี๋ยว...มึงจะให้กูไปไหนผมถามมัน มันหันกลับมาจ้องหน้าอกของผมอีกครั้ง ผมมองตามมันก่อนจะรีบดึงเสื้อปิด นี้มันไม่ได้เกิดมามีอารมณ์อะไรตอนนี้ใช่ไหมเนี้ย ซวยแล้วสิไอ้ฮิมชาน....
กูจะพามึงไปซื้อเสื้อใหม่ จะอยู่ชุดนี้ทั้งวันเลยรึไง เสื้อเลอะขนาดนั้นคำตอบของมันเล่นเอาผมเอ๋อไปเลย ผิดคลาดเลยแหะ
อ อ้าวหรอ...ผมพูด

ไปได้แล้วมันว่าก่อนจะลากผมไป ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วผมทำบาปอะไร ชาตินี้ถึงถูกมันลากเอาๆ

*********

[Yoo Young Jae]

ผมกำลังขับรถด้วยความเร็ว จุดหมายปลายทางคือโรงพยาบาลที่พีแจบอมพักรักษาตัวอยู่ หลังจากที่ผมพยายามติดต่อพี่แจบอมอยู่หลายครั้งและแล้วก็มีคนรับสาย นั้นคือนางพยาบาลนั้นเอง เธอบอกว่าพี่แจบอมถูกพาไปส่งโรงพยาบาลเมื่อคืนนี้โดยผู้พบเห็นคนหนึ่ง อาการคือเหมือนถูกซ้อมมา พี่แจบอมไปโดนใครทำร้ายกันทั้งๆที่เป็นตำรวจแท้ๆ
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลผมรีบพุ่งตรงไปที่ห้องที่พี่แจบอมพักอยู่ทันที ผมเปิดประตูพรวดเข้าไปโดยที่ไม่ทันคิดว่าต้องเคาะก่อน ทำให้ผมพบกับพี่แจบอมที่กำลังเปลือยท่อนบนให้นางพยาบาลเช็ดตัวอยู่
อ๊ะ! ข...ขอโทษครับผมรีบเอ่ยขอโทษก่อนทำท่าจะปิดประตูลงเหมือนเดิม
ยองแจ...ไม่เป็นไรพี่เสร็จแล้วเสียงพี่แจบอมพูดขัดไว้ ผมหันไปมองอีกครั้งด้วยใบหน้าแดงแจ๋ นางพยาบาลเก็บอุปกรณ์ต่างๆก่อนจะยิ้มให้ผมแล้วเดินสวนออกไป ผมค่อยๆเดินเข้าไปหาคนที่นอนอยู่บนเตียง
ยองแจมาเยี่ยมพี่หรอ...พี่แจบอมถามเสียงหวาน ดูแล้วเหมือนคนไม่ได้เป็นอะไรเลยแหะ แต่ก็มีรอยฟกช้ำให้เห็นตามตัวกลับใบหน้า
ใครทำร้ายพี่หรอครับผมถามเข้าประเด็นเลย พี่แจบอมหุบยิ้มลง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันนะ
พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร แต่มันบอกพี่ว่าอย่ายุ่งกับเมียมันอีก พี่ก็ไม่รู้ว่าพี่ไปยุ่งกับเมียใครกันผมนิ่งอึ้งไป จากคำบอกเล่าของพี่แจบอมผมเดาได้ไม่ยากเลยว่าเป็นฝีมือของใครกัน ไอ้เซโล่....ผมก็พอจะรู้อยู่หรอกว่ามันเริ่มระแคะระคายเรื่องของผมแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะทำถึงขนาดนี้
เออ...แล้วพี่ไปทำอะไรแถวนั้นหรอครับ สถานที่ที่นางพยาบาลบอกผมว่ามีคนไปพบพี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านพี่ไม่ใช่หรอครับผมถาม
อ่อ ใช่สิ พี่เกือบลืมไปเลยผมเอียงหน้าเหมือนจะถามว่าลืมอะไร สีหน้าของพี่แจบอมดูจะเคร่งเครียดขึ้น
คือ...พี่รู้แล้วว่าทายาทตระกูลไฟคนนั้นคือใครผมเบิกตากว้างมองหน้าพี่แจบอมอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ใครครับ ใครที่จับตัวไอ้ฮิมชานไปผมถามด้วยความร้อนใจ
ตระกูลดาร์ก บัง ยงกุก...!”

**********

[Bang Yong Gook]

ผมขับรถพาไอ้ฮิมชานออกมาข้างนอก นี้ผมทำถูกใช่ไหมกับการพามันออกมาข้างนอกที่ไม่ใช้ที่บ่อนของผมครั้งแรกโดยไม่มีการกักกุมใดๆทั้งสิ้น การเปลี่ยนไปของไอ้ฮิมชานทำผมแปลกใจไม่น้อย แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะบอกว่ารู้สึกดีกับสิ่งที่มันทำ จึงทำให้ผมเริ่มที่จะละเลยกับการกักกุมมันไว้
ผมเหลือบมองมันที่นั่งอยู่ข้างๆ มันจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างรถเหมือนไม่ได้เห็นโลกภายนอกมานานอย่างงั้นแหละ แต่ผมก็พอจะเข้าใจเพราะมันถูกผมจับตัวไว้นานเกือบเดือนได้แล้ว
ผมจอดรถลงที่หน้าร้านเสื้อผ้าประจำของผม ก่อนจะสั่งให้มันลงจากรถแล้วเดินตามผมเข้าไปในร้าน พนักงานในร้านเมื่อเห็นหน้าผมก็รีบพุ่งตรงเข้ามาหาทันทีอย่างรู้งาน ผมดันไอ้ฮิมชานไปข้างหน้าบรรดาพนักงาน พวกเธอเข้าใจทันทีว่าผมต้องการอะไร จึงจับไอ้ฮิมชานไปทาบกับเสื้อตัวนู้นทีตัวนี้ที
อ้ากก.... อะไรเล่า นี้ฉันถอดเองได้ ปล่อยมือก่อนเซ่...เสียงไอ้ฮิมชานโวยวายออกมา ผมที่กำลังจะไปหาที่นั่งรอกลับต้องขมวดคิ้วหันกลับไปมองมันอีกครั้ง มันกำลังจับเสื้อของตัวเองยื้อกับพนักงานที่จะถอดเสื้อของมันไปทิ้ง เพราะเสื้อของมันเลอะเครื่องดื่ม
ถอดเถอะค่ะ เสื้อมันเลอะหมดแล้ว คุณจะได้ลองเสื้อด้วย
หลบไป...พนักงานหลีกทางให้ผม เมื่อผมเดินเข้ามาในเหตุการณ์ชุลมุนนี้
นี้ มึงจะโวยวายห่าอะไรเนี้ยผมว่ามัน มันส่งสายตาค้อนๆมาให้ผม หึ...คิดว่าน่ากลัวตายหละ ผมหันไปเลือกเสื้อมาสองสามตัวที่คิดว่าเหมาะกับมัน ก่อนจะลากมันไปที่ห้องลองเสื้อผ้า
เห้ย! กูไม่เข้าไปกับมึงนะมันบอกแต่ไม่ทันซะแล้วหละ ผมลากมันเข้ามาก่อนจะล็อกประตู แล้วยืนขวางประตูไว้ไม่ให้มันออก
ถอดเสื้อออก...ผมเอ่ยสั่ง มันจ้องหน้าผมอย่างตื่นๆ
กูไม่ถอด มึงถอยไม่นะกูจะออกไปผมชักสีหน้าอย่างเบื่อหน่ายมัน ก่อนจะจับมันถอดซะเองเลย
เห้ย! มึงจะทำอะไรน่ะ อย่านะมันร้องโวยวายพร้อมกับดิ้นไม่หยุด นี้มันคิดว่าผมจะทำอะไรมันรึไงเนี้ย มันดิ้นไปมาจนตอนนี้เสื้อผ้าของมันหลุดลุ่ยจนเริ่มจะดูเหมือนผมกำลังทำอะไรมันแล้ว
แคว่กกก!”ในที่สุดเมื่อถอดไม่ได้ก็กระชากแม่งซะเลย ไอ้ฮิมชานมองผมอย่างอึ้งๆ ผมโยนเสื้อที่เลือกไว้ให้มัน
ใส่ซะ แล้วรีบออกไปหละ ไม่งั้นกูจะเข้ามาทำอย่างอื่นแทนจริงๆผมพูดขู่มัน ก่อนจะเดินออกมาจากห้องลองเสื้อด้วยอาการเหนื่อยๆเหมือนเพิ่งไปฟัดกับหมามา หมาที่ชื่อฮิมชาน....
ผมรอมันอยู่ไม่นานมันก็เดินตามออกมาพร้อมกับสวมเสื้อที่ผมเลือกให้ ผมกะขนาดไซน์มันได้พอดีตัว มันจ้องหน้าผมอย่างไม่พอใจแต่ผมไม่สนหรอก ก็มันอยากดื้อกับผมก่อนทำไมหละ
คิดเงินด้วยผมหันไปพูดห้วนๆกับพนักงานพร้อมกับยื่นบัตรเครดิตให้ ไอ้  ฮิมชานยืนรอทำหน้าบึ้งตึง ผมเหลือบมองมันเป็นระยะ พนักงานคิดเงินไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมกับส่งบัตรเครดิตคืนให้ผม
ไปได้แล้ว...ผมหันไปบอกมันก่อนจะเดินนำมันออกมาจากร้าน
เดี๋ยวไอ้ยงกุก...มันเรียกผมไว้ตอนที่เดินมาถึงรถ ผมหันกลับไปมองมันด้วยสายตาว่า มึงเป็นเชี่ยไรอีก....
อะไร...
ไหนๆมึงก็พากูออกมาข้างนอกแล้วพากูไปกินข้าวหน่อยสิ กูหิวแล้วนะมันบอก
ไม่ผมตอบโดยไม่ต้องคิด เพราะยังไงผมก็ยังไม่ไว้ใจมันอยู่ดี ถ้าเกิดมันมีแผนอะไรแล้วหนีไปหละ
ท...ทำไมอ่ะ หรือมึงคิดว่ากูมีแผนจะหนีรึไงมันเดาความคิดผมออก
กูไม่ทำอย่างนั้นหรอก มึงก็อยู่ด้วยคิดว่ากูจะกล้าหนีรึไง อีกอย่างกูก็ล้มเลิกความคิดที่จะหนีไปนานแล้วด้วยมันพูดพร้อมกับก้มหน้าเขินๆช้อนตาขึ้นมองผม ผมจ้องมองมันไม่รู้ว่าที่มันพูดนั้นจริงรึเปล่า จะบอกว่าที่มันล้มเลิกความคิดที่จะหนีเพราะรักผมงั้นหรอ ถึงจะไม่ค่อยเชื่อแต่ผมก็อดสั่นไหวไม่ได้
…….
…………..
…………………
ในที่สุดผมก็พามันมาที่ร้านอาหารจนได้ มันสั่งอาหารมากมายทำอย่างกับไปตายอดตายอยากมาจากไหนงั้นแหละ ทั้งๆที่ผมว่าผมก็ให้อาหารมันกินทุกมื้อนะ
นี้มึงจะสั่งมาเผื่อแดกชาติหน้ารึไงว่ะผมว่ามัน
กูก็สั่งเผื่อมึงไง...มันบอกพร้อมกับฉีกยิ้มให้ ผมถึงกับชะงัก นี้มันสั่งเผื่อผมด้วยงั้นหรอแถมยังรอยยิ้มนั้นอีก...
ไอ้ฮิมชาน มึงบอกกูมาดีกว่าว่ามึงมีแผนอะไร กูไม่เชื่อหรอกนะที่จู่ๆมึงจะมาทำดีกับกู
แผนอะไรหรอ...มันมองหน้าผมเหมือนไม่เข้าใจ นี้มันกำลังแกล้งทำรึเปล่า ผมจ้องหน้ามันนิ่ง จนกระทั่งมันถอนหายใจออกมา....
เฮ้อ.... กูยอมบอกก็ได้ว่าทำไมถึงยอมทำดีกับมึงในที่สุดมันก็ยอมบอก ผมกระตุกรอยยิ้มที่มุมปาก ว่าแล้วเชียวว่ามันจะต้องมีแผนการอะไรแน่ๆ
ที่กูทำดีกับมึงเพราะ....มันก้มหน้านิ่ง สองมือกำเข้าหากันแน่น
เพราะ...มึงเป็นคนแรกที่กูมีอะไรด้วย ถึงมึงจะโหดร้ายกับกูแต่ความจริงก็คือว่ากูเป็นของมึงแล้ว กูคงห้ามไม่ได้ถ้ามึงจะทำลายตระกูลของกู แต่กูก็หวังว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของกูที่มีต่อมึง จะช่วยล้างความโกรธแค้นในใจของมึงออกได้เช่นกันพูดจบมันก็เงยหน้าขึ้นสบตากับผม แววตาที่สั่นระริกนั้นผมมองไม่ออกว่าที่มันพูดนั้นจริงหรือโกหก แต่ผมกำลังรู้สึกว่าหัวใจเต้นรัวแรง.....
กูไม่รู้ว่ามึงพูดจริงหรือโกหก แต่จำไว้ว่าถึงกูจะโกรธแค้นตระกูลมึงแค่ไหน กูก็ไม่เคยคิดที่จะฆ่ามึงให้ตายจริงๆผมพูดสิ่งที่อยู่ในใจผมแท้จริง มันฉีกยิ้มบางๆมาให้ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมไว้ มือบางของมันกุมมือของผมแน่น
ผมควรจะเชื่อมันไหม มันรักผมจริงๆรึเปล่า แล้วถ้ามันรักผมจริง.....แล้วผมเองก็ดันรักมัน ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี
เดี๋ยวกูมานะมันพูดพร้อมกับลุกขึ้น ผมรีบคว้ามือมันไว้ทันที
มึงจะไปไหนผมถามเสียงเข้ม มันมองหน้าผมยิ้มๆ
กูจะไปห้องน้ำ ไม่ต้องกลัวหรอกน่า...กูบอกแล้วไงว่าจะไม่หนี ถึงหนีกูรู้ว่ามึงต้องตามหากูเจออยู่ดี กูยังไม่อยากตายหรอกนะมันบอก ผมจ้องหน้ามันอย่างไม่ไว้ว่างใจแต่ก็ยอมปล่อยมือมัน มันค่อยๆเดินจากไป ผมมองตามแผ่นหลังของมัน ถ้ามันกลับมา....ผมจะยอมเชื่อแล้วว่ามันรักผมจริงๆ

[Kim Him Chan]

ผมเดินจากไอ้ยงกุกมา ที่จริงแล้วผมไม่ได้ต้องการจะเข้าห้องน้ำและที่ขอให้มันพามาทานอาหารก็ไม่ใช่เพราะหิว ผมแค่ต้องการหาโอกาสหาทางติดต่อกลับไปที่บ้านของผม เมื่อกี้ผมก็เพิ่งเกือบโดนไอ้ยงกุกจับได้เรื่องแผนการของผมซะแล้ว แต่โชคยังเป็นของผมเมื่อผมโกหกออกไปเอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิด
ผมมองซ้ายมองขวาอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ก่อนจะมองเห็นประตูหลังร้านที่พนักงานของร้านเพิ่งเดินเข้ามา ผมมองซ้ายมองขวาอีกครั้งก่อนจะเปิดประตูเดินออกไป
ผมเดินผ่านผู้คนมากมาย ตอนนี้ผมกำลังมองหาตู้โทรศัพท์ เหรียญที่เจอในห้องลองเสื้อผ้าถูกผมกำไว้ในมือแน่น ผมเดินออกมาไกลขึ้นเรื่อยๆพร้อมหันมองกลับไปที่ด้านหลังเป็นระยะ จนกระทั่งผมก็ได้เจอกับตู้โทรศัพท์สาธารณะแล้ว ผมพุ่งตรงเข้าไปในนั้นทันที....
แต่เพราะความรีบร้อนทำให้เหรียญในมือล่วงหล่น มันกลิ้งออกไปนอกตู้โทรศัพท์ ผมรีบเปิดประตูออกไปไล่คว้ามัน มือของผมคว้าไม่ถูกมันซักที มันกลิ้งหนีมือผมออกไปก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของใครคนหนึ่ง ผมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเท้านั้นก่อนจะต้องเบิกตากว้างออกมา!!!!

********

[Yoo Young Jae]

ผมต้องเบิกตากว้างเมื่อหลังจากขับรถออกมาจากโรงพยาบาล ผมก็เห็นใครคนหนึ่งที่คุ้นเคยกำลังรีบร้อนไปไหนซักแห่ง ผมรีบจอดรถแล้วลงจากรถเดินตามไปทันที เพราะแถวนี้คนพลุกพล่านผมไม่สามารถจะขับรถไล่ตามไปได้ ก่อนจะมาพบว่าคนคนนั้นพุ่งตรงเข้าไปในตู้โทรศัพท์
เหรียญในมือของร่างนั้นกลิ้งตกลงพื้น ร่างนั้นไล่ตระคลุบมันไว้แต่ก็พลาด ก่อนที่เหรียญนั้นจะกลิ้งมาหยุดที่ปลายเท้าของผม ร่างนั้นค่อยๆเงยหน้าขึ้นจ้องมอง
ไอ้ยองแจ!!!” ผมโผเข้ากอดมันไว้ทันที
ไอ้ฮิมชาน...มึง...มึง...ผมพูดอะไรไม่ออก รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลพรากออกมาให้ได้
ไอ้ยองแจ...กู...กู..ไอ้ฮิมชานก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน มันกอดตอบผมแน่น
ทำไมมึงถึงมาอยู่ที่นี้ กูคิดว่ามึง....ผมดันตัวออกก่อนจะเอ่ยถาม ผมมองมันเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นมันจริงๆ
ใช่ กูถูกไอ้ยงกุกจับตัวไปมันบอก ผมกำมือแน่น ใช่อย่างที่พี่แจบอมบอกจริงๆ ไอ้ยงกุกมันจับตัวไอ้ฮิมชานไป!
แล้วทำไมมึงมาอยู่ที่นี้ว่ะ หรือว่ามึงหนีออกมาได้แล้วใช่ไหม งั้นก็ไปกันเหอะกูจะพามึงกลับบ้านเอง....ผมบอกก่อนทำท่าจะลากให้มันไปที่รถที่จอดทิ้งไว้ แต่มันกลับรั้งมือผมไว้ก่อน
เดี๋ยวไอ้ยองแจ กูไม่ได้หนีมันออกมาและกูก็ยังกลับบ้านไม่ได้ด้วย...ผมหันกลับไปมองหน้ามันอย่างไม่เข้าใจ มันหมายความว่ายังไงกัน....
ทำไม...
คือ...กูกำลังทำอะไรบางอย่าง ไอ้ยงกุกมันจะทำลายตระกูลของกู กูต้องช่วยตระกูลกูให้ได้ก่อน กูต้องกลับไปหามัน
มึงจะบ้ารึไงไอ้ฮิมชาน ถ้ามึงกลับไปมึงอาจจะไม่ได้กลับมาอีกก็ได้นะ เรื่องของตระกูลมึงเอาไว้ก่อน มึงควรห่วงชีวิตของตัวเองก่อนสิว่ะผมด่ามัน นี้มันคิดบ้าอะไรของมันอยู่ ผมไม่เห็นด้วยเด็ดขาดที่มันจะกลับไป
ยังไงกูก็ต้องกลับไป และมึงเชื่อกูเหอะว่าไอ้ยงกุกไม่ฆ่ากูแน่นอน แต่ที่แน่ๆตอนนี้มึงช่วยกลับไปบอกพ่อกับแม่กูทีว่ากูปลอดภัย แล้วกูก็กำลังวางแผนจะทำลายไอ้ยงกุกด้วยผมยังไม่เข้าใจมันอยู่ดีว่ามันจะทำอะไร
กูต้องไปแล้วไอ้ยองแจ ไอ้ยงกุกมันรอกูอยู่ ถ้ากูกลับไปช้ามันอาจจะสงสัยได้มันบอก
แต่...ไอ้ฮิมชาน...ผมทำท่าจะรั้งมันไว้ มันแตะที่มือผมเบาๆพร้อมกับฉีกยิ้มให้
เชื่อใจกูยองแจ กูไม่เป็นอะไรจริงๆ แต่ถ้ามึงเป็นห่วง กูถูกไอ้ยงกุกจับตัวไปไว้ที่xxx”ผมพยักหน้ารับ อย่างน้อยผมก็รู้ว่ามันถูกจับตัวไปไว้ที่ไหน มันทำท่าจะเดินจากไปแต่ก็หันกลับมา
เออ...ไอ้ยองแจ กูจะบอกมึงว่า กูเจอไอ้เซโล่อยู่กับไอ้ยงกุกด้วย พวกมันกับไอ้แดฮยอนรวมมือกันค้ายาเสพติด และยังร่วมกันทำเรื่องผิดกฎหมายอื่นอีก กูอยากบอกให้มึงระวังตัวไว้ด้วยพูดจบมันก็รีบร้อนเดินจากไป ผมได้แต่ยืนนิ่งงัน...
ไอ้เซโล่ค้ายาเสพติดและทำเรื่องผิดกฎหมายงั้นหรอ.....


*********



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น