วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

B.a.p : Dark Love ความรักสีดำ Chapter 14

[Kim Him Chan]

หลังจากที่มีแผนการในหัว ผมก็เดินออกมาจากห้องทำงานของไอ้ยงกุกโดยไม่สนเสียงคัดค้านของจีโอ ที่นี้ยิ่งดึกก็ยิ่งมีคนเยอะขึ้น ผมเห็นไอ้ยงกุกกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะคาสิโน ฝั่งตรงข้ามมันก็ไม่ใช่ใคร คริสคู่อริของมันนั้นเอง... สงสัยคงกำลังแข่งขันกันอยู่
ผมเดินตรงเข้าไปหา จีโอพยายามจะห้ามผมไว้แต่ผมก็ไม่สนใจ ไอ้ยงกุกกับคู่อริของมันหันมามอง ไอ้ยงกุกทำหน้าเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อผม
กูบอกไม่ให้มึงออกมาไง!”มันขึ้นเสียงใส่ผม แต่ผมกับฉีกยิ้มให้มัน
ก็อยู่แต่ในห้องมันน่าเบื่อนิ มึงก็ไม่เห็นอยู่เป็นเพื่อนกูเลยผมแสร้งทำหน้าหงอยๆบอก ไอ้ยงกุกทำสีหน้าประหลาดใจ
กำลังพนันกันอยู่หรอ ขอดูบ้างสิผมเอื้อมมือไปจะหยิบไพ่ตรงหน้าไอ้ยงกุก แต่ไอ้ยงกุกคว้ามือผมไว้ มันจ้องหน้าผม
ได้สิ อยากดูก็ได้ หรือว่ามึงกลัวแพ้กูต่อหน้าเมียมึงคริสบอก ประโยคหลังหันไปพูดกับไอ้ยงกุก
หึ ใครว่ากูจะแพ้มึงไอ้ยงกุกว่าก่อนจะยอมปล่อยมือผม ผมยกยิ้มก่อนจะหันไปส่งสายตาขอบคุณให้คริส คริสก็ยกยิ้มให้ผมเช่นกัน
ผมนั่งลงตรงข้างๆไอ้ยงกุก มันกำลังจดจ่อกับไพ่ในมือ ผมจ้องมองการแข่งขันตรงหน้าที่ดูจะดุเดือดซะเหลือเกิน นี้พวกมันเดิมพันกันด้วยชีวิตรึไงเนี้ย อะไรจะเครียดขนาดนั้น
ผ่านไปซักพักสีหน้าไอ้ยงกุกดูจะตึงเครียด ผิดกับคริสที่นั่งนิ่งไม่แสดงอาการใดๆ ผมคาดการจากสายตาคิดว่าตอนนี้คริสน่าจะกำลังเป็นต่ออยู่แน่ ผมจ้องมองทั้งสองฝ่ายสลับกัน ในหัวเริ่มคิดแผนการต่อไป
ผมลุกขึ้นจากที่นั่ง ไอ้ยงกุกกับคริสหันมาจ้องมองผม ผมเดินไปนั่งลงบนตักของไอ้ยงกุกท่ามกลางความงุนงงของมันและจีโอ ผมแอบเห็นสีหน้าตกตะลึงของมันตอนที่ผมนั่งลงบนตัก
ต้องเล่นแบบนี้ต่างหาก...ผมบอกก่อนจะสลับไพ่ในมือไอ้ยงกุกไปมา ผมทิ้งไพ่ในมือมันลง คริสจ้องมองไพ่ที่ผมทิ้งก่อนจะยกยิ้มให้
เก่งจังครับ คุณชนะแล้วคริสบอกยิ้มๆก่อนจะยอมทิ้งไพ่ในมือตัวเองลงเช่นกัน ตานี้ผมและไอ้ยงกุกชนะ ผมหันไปยกยิ้มให้ไอ้ยงกุก มันมองผมอย่างประหลาดใจ
ชนะแล้วนะที่รักผมเห็นความวูบไหวในแววตาของมันก่อนจะแปลเปลี่ยนเป็นนิ่งเรียบจ้องมองผม มันค่อยๆยกยิ้มขึ้นมา
เก่งอย่างนี้ต้องให้รางวัลซะแล้วมันเชยคางผมก่อนจะค่อยๆโน้มใบหน้าลงมา ผมไม่ได้หันหนีหรือขัดขืน ริมฝีปากร้อนของมันบดขยี้ลงมาอย่างรุนแรงก่อนจะลุกล้ำเข้ามา ผมอ้าปากตอบรับจูบของมัน เราจูบกันอย่างดูดดื่มและเร้าร้อนท่ามกลางสายตาของจีโอและคริสที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม
ในขณะที่จูบอยู่ผมก็เริ่มแผนการต่อไปทันที ผมเหล่สายตามองไปที่คริส หยอดสายตานิดๆอย่างยั่วยวน คริสที่จ้องมองฉากจูบของผมกับไอ้ยงกุกอยู่ถึงกับต้องกลืนน้ำลาย
ผมกระชากหัวไอ้ยงกุกออก มันถอนจูบออกอย่างอ่อยอิ่ง สายน้ำที่เชื่อมระหว่างปากผมกับไอ้ยงกุกหยาดเยิ้ม ผมแลบลิ้นไล่เลียแววตาเคลิบเคลิ้มจ้องมองไปที่คริสก่อนจะเบี่ยงมามองที่ไอ้ยงกุก ผมกำลังยั่วทั้งสองคนพร้อมกัน.....
มึงคงรู้ผลแพ้ชนะแล้วนะไอ้คริสไอ้ยงกุกหันไปพูดกับคริส คริสที่เหมือนพึ่งได้สติเหยียดยิ้มที่มุมปาก
ใช่กูแพ้... แต่กูไม่ได้แพ้ให้มึง กูแพ้ให้ฮิมชานต่างหากคริสบอกก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไป แต่ก่อนที่จะจากไปผมเห็นสายตาที่เขามองมาที่ผม สายตาที่หลงใหลและอยากได้ไปครอบครอง นี้ถือว่าแผนของผมสำเร็จ
ผมหันกลับไปมองที่ไอ้ยงกุก มันเองก็กำลังจ้องมองผมอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ผมยังนั่งอยู่บนตักของมันอยู่
มึงคิดจะทำอะไรมันถามเสียงเรียบ ผมเบี่ยงหน้าหลบสายตาของมัน
กูทำอะไรผมแกล้งถามออกไปทำเป็นไม่รู้เรื่อง
ก็ที่มึงกำลังทำอยู่นี้ไง มึงกำลังวางแผนอะไรฮิมชานมันถามผมเสียงกดต่ำลง ผมชักรู้สึกหวั่นๆ
ที่กูเข้าใกล้มึง ยอมให้มึงจูบ กูจำเป็นต้องมีแผนอะไรด้วยรึไง มึงบอกเองว่ากูเป็นเมียมึงไม่ใช่หรอผมบอกแต่ไม่ได้สบตากับมันเวลาพูด มันมองผมอย่างจับผิด

หึ อย่าให้กูรู้ว่ามึงมีแผนอะไรก็แล้วกันไอ้ฮิมชาน ไม่งั้นมึงคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมยกยิ้มน้อยๆให้มัน ก่อนจะต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอ ขอแค่แผนนี้เท่านั้นที่ผมจะต้องทำให้สำเร็จ ผมจะต้องช่วยตระกูลของผมแล้วทำลายไอ้ยงกุกให้ได้ คอยดู.....

********

 [Zelo]

ผมจอดรถอยู่แถวๆบ้านไอ้ยองแจ ไม่ว่ายังไงวันนี้ผมต้องเจอมันให้ได้ ผมกดโทรศัพท์โทรหามันแต่สายก็ไม่ว่างตามเคย นี้มันกำลังคุยกับใครนักหนา ผมกดโทรหามันอีกครั้งและครั้งนี้ติด เสียงสัญญาณดังขึ้นไม่นานมันก็กดรับสาย
มึงคุยกับใครอยู่!”ผมเอ่ยถามทันทีอย่างหงุดหงิด
มึงจะตะโกนทำไมว่ะไอ้เซโล่ กูคุยธุระเรื่องงานอยู่มันบอก แต่ผมไม่ค่อยเชื่อมันนัก
มึงอยู่ไหนกูจะไปหาผมถามมันอีกครั้ง มันเงียบไปนานก่อนจะตอบ
กู...อยู่ที่บ้านน่ะ แต่มึงจะมาทำไมอ่ะมันถามผมกลับ ผมขมวดคิ้วเพราะมันทำเหมือนไม่อยากให้ผมไปหาเท่าไหร่
กูกำลังจะไปหามึงแค่นี้แหละ
ห เห้ย...ไอ้....ผมรีบตัดสายทิ้งก่อนที่มันจะปฏิเสธ ผมสตาร์ทรถเลี้ยวรถตรงไปบ้านมันทันที และเพราะผมจอดรถอยู่ไปไกลจากบ้านมันนัก ตอนนี้รถของผมจึงมาถึงหน้าบ้านมันแล้ว.....
แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังจะเลี้ยวรถเข้าบ้านไอ้ยองแจ ก็มีรถคันหนึ่งขับสวนออกมาพอดี ผมขมวดคิ้วจ้องมองรถคันนั้น ผมรู้สึกคุ้นหน้าคนขับยังไงไม่รู้ ผมหันกลับไปมองทางตัวบ้าน ผมว่าผมคงมีเรื่องต้องคุยกับไอ้ยองแจเยอะเลยหละ
…….
…………..
…………………
 “ไอ้เซโล่กินนี้ดิ อร่อยนะ...ไอ้ยองแจบอกก่อนจะยื่นขนมมาที่ปากของผม ตอนนี้ผมกับมันนั่งอยู่ด้วยกันที่สวนหลังบ้าน อากาศกำลังร่มรื่นเย็นสบาย ผมจับมือมันไว้ไม่ได้อ้าปากรับขนมจากมือของมัน ผมมองหน้ามันนิ่ง
มึงเลี่ยงคำตอบกู....ผมบอก หลังจากที่ถามมันไปหลายคำถาม แต่มันก็เลี่ยงที่จะตอบได้ทุกคำถามที่ผมถามไป
มึงกำลังทำอะไรอยู่ยองแจ มึงยัง.....เป็นแฟนกูอยู่รึเปล่าผมถามออกไป ทั้งๆที่ในใจตัวเองไหวหวั่น มันหลบสายตาของผม ท่าทางของมันตอบคำถามของผมได้ชัดเจน แต่ผมพยายามจะไม่คิดแบบนั้น ผมยังเชื่อใจมันอยู่.....
ยองแจ....กูรักมึงมากนะ มากเกินกว่าที่จะเสียมึงไปผมพูด มันค่อยๆหันกลับมามองผม แววตาของผมวูบไหวจ้องมองมัน อยากให้มันมองเห็นความรู้สึกที่แท้จริงในใจ มันจะเป็นแบบนั้นได้มั้ยนะ
ไอ้เซโล่.....กู...ไอ้ยองแจเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ผมนิ่งเงียบรอฟังสิ่งที่มันจะพูด
กู....ก็ยังเป็นแฟนมึงอยู่ไงมันบอก ผมเม้มริมฝีปาก น้ำเสียงของมันเหมือนจะแค่พูดให้ผมสบายใจ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมัน ผมจะเชื่ออย่างนั้น และจะเชื่อแบบนั้นตลอดไป กูเชื่อมึงยู ยองแจ.....
…….
…………..
…………………
หลังจากที่อยู่บ้านไอ้ยองแจอยู่นาน ก็ถึงเวลากลับบ้าน ผมขับรถออกมาจากบ้านมันโดยมีมันยืนโบกมือส่ง ผมขับรถออกมาได้ซักพักก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก โทรหาคนที่ผมเพิ่งจากมา
...สายไม่ว่าง ผมหัวเราะหึในลำคอ อยากจะสมน้ำหน้าในความโง่ของตัวเองนัก ไม่รู้ทำไมน้ำตาผมถึงลื่นออกมา ผมกำลังโดนมันหลอกใช่ไหม โดนคนที่รักสุดหัวใจสวมเขาให้ตัวเอง.....
ผมเหยียบเบรกจอดรถตรงข้างทาง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งกดโทรออก แต่คราวนี้ไม่ได้โทรออกไปเบอร์เดิม เสียงสัญญาณดังอยู่เพียงอึดใจ ก่อนที่ปลายสายจะกดรับ
ตามสืบยูยองแจ ว่าไปไหน ทำอะไร กับใครบ้าง ด่วนที่สุด...!”ผมเอ่ยสั่งก่อนจะกดวางสาย ผมกำพวงมาลัยรถแน่น มึงจะนอกใจกูไม่ได้ยองแจ มึงเป็นของกูคนเดียวเท่านั้น ของกูคนเดียว!!!

********

[Jung Dae Hyun]

ตั้งแต่เรื่องในคืนนั้น ผมพยายามติดต่อจงออบ โทรหาเป็นร้อยๆสายจงออบก็ไม่รับสายผมเลย ผมเฝ้าโทรหาจนถึงขั้นหลับไปพร้อมกับโทรศัพท์ที่ยังแนบหู ตื่นมาก็ยังโทรหา แต่ไม่ว่าจะกี่สายกี่ข้อความ จงออบก็ไม่คิดจะรับหรือตอบข้อความกลับมาเลย
ผมเริ่มกังวลไปต่างๆนาๆ กลัวว่าจงออบจะไม่อยากเจอผมอีกตลอดชีวิต จงออบจะต้องเกลียดผมแล้วแน่ๆ ผมควรจะทำยังไงดี ทำยังไงจงออบถึงจะกลับมาหาผม
และด้วยความเครียดผมจึงเลือกแก้ปัญหาด้วยการไปที่บาร์ ผมดื่มจนเมาแทบไม่ได้สติแถมด้วยการไปมีเรื่องกับลูกค้าในบาร์อีกด้วย แต่ผมก็ยังลากสังขารกลับมาที่คอนโดได้ อ่อ...ผมลืมบอกว่าผมมีคอนโด เอาไว้เวลาที่ผมเครียดเรื่องงาน เรื่องที่บ้านแล้วไม่อยากกลับบ้านก็จะมานอนที่นี้แทน
ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนๆ ภายในคอนโดของผมมืดสนิท ข้าวของกระจัดกระจายด้วยฝีมือของผมเอง ผมนั่งนิ่งอยู่บนที่นอนจ้องมองโทรศัพท์มือถือในมือ ที่หน้าจอถูกตั้งเป็นรูปของคนที่ผมโหยหา ภาพของจงออบที่ฉีกยิ้มกว้างมาให้ผม รอยยิ้มที่ไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสได้เห็นอีกไหม
ผมกำโทรศัพท์ในมือแน่น ความรู้สึกบางอย่างพุ่งพล่านขึ้นมา ความรู้สึกที่ไม่ต้องการจะสูญเสีย ผมไม่อยากเสียจงออบไป และผมจะไปเอาเขาคืนมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม จงออบจะต้องกลับมาหาผม และจะต้องอยู่กับผมเท่านั้น!!!

********

[Moon Jong Up]

เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นอีกครั้ง ผมสะดุ้งทุกครั้งที่มันดังขึ้นมา ผมทิ้งมันไว้อยู่บนโต๊ะไม่ยอมกดรับหรือแม้แต่เดินเข้าไปไกล ในหัวมีแต่ภาพของพี่แดฮยอนที่ฆ่าคนในคืนนั้น ผมนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง ความกลัวครอยงำจิตใจ ไม่อยากพบเจอใครไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งสิ้นแม้กระทั่งพี่จียอน....
พี่จียอนเดินมาเคาะประตูห้องผมหลายครั้ง แต่ผมก็ไม่ได้เดินไปเปิดประตูให้ซักครั้งจนพี่จียอนเริ่มจะเป็นห่วง ผมรู้ว่าที่ผมทำแบบนี้พี่จียอนต้องเป็นห่วงมากแน่ๆ แต่ผมกำลังกลัว...กลัวว่าถ้าเปิดประตูออกไปแล้วจะพบกับพี่แดฮยอน ผมยังไม่พร้อมที่จะเจอเขาจริงๆ
ก๊อกๆๆ จงออบเปิดประตูให้พี่เข้าไปหน่อย จงออบทำแบบนี้พี่เป็นห่วงนะ ถ้าจงออบไม่เปิดพี่ก็จะไม่ไปไหน พี่จะยืนอยู่ตรงนี้ทั้งวันจนกว่าจงออบจะมาเปิดประตูคำพูดเด็ดขาดของพี่จียอนทำให้ผมต้องลุกขึ้นไปที่ประตูให้
ผมเอื้อมมือออกไปจับลูกบิดค่อยๆหมุนลูกบิดประตูแง้มเปิดออก ผมเห็นเสี่ยวหน้าของพี่จียอน พี่จียอนจ้องมองผมด้วยความเป็นห่วง ผมกำลังจะเปิดประตูให้กว้างขึ้นเพื่อให้พี่จียอนเดินเข้ามา แต่.....
จงออบทำไมถึง.... อ๊ะ! พี่แดฮยอนจู่ๆร่างของพี่แดฮยอนก็เข้ามายืนซ้อนหลังพี่จียอนอีกที ผมเบิกตากว้างกำลังจะปิดประตู แต่พี่แดฮยอนก็ผลักเข้ามาได้ซะก่อน
ผมถอยหลังกรูเข้ามาในห้อง พี่แดฮยอนก้าวเข้ามา ความกลัวทำให้ผมตัวสั่นไปหมด ผมเบิกตากว้างจ้องหน้าพี่แดฮยอน
จงออบทำไมไม่รับสายพี่! รู้ไหมว่าพี่โทรหานายตั้งกี่สายน้ำเสียงดุๆเอ่ยถาม ผมก้มหน้านิ่ง พี่จียอนรีบเดินมาคั้นกลางระหว่างผมกับพี่แดฮยอน
พี่แดฮยอนค่อยๆพูดนะค่ะ จงออบแค่ไม่สบายนี้ก็เพิ่งลุกขึ้นมาเปิดประตูให้จียอนเองพี่จียอนพยายามแก้ตัวให้ผม พี่จียอนคงคิดว่าผมกับพี่แดฮยอนทะเลาะกันเฉยๆ
จงออบกำลังจะทิ้งพี่ไปใช่ไหม พี่ทำอะไรผิดผมเม้มปากแน่น น้ำตาพาลจะไหลออกมา พี่แดฮยอนไม่รู้ว่าผมเห็นเหตุการณ์ในวันนั้นใช่ไหม
ทำไมไม่ตอบหละจงออบ!”พี่แดฮยอนขึ้นเสียง ผมสะดุ้งรีบเข้าไปหลบข้างหลังพี่จียอน ตอนนี้น้ำตาของผมไหลพรากลงมา ผมกลัวพี่แดฮยอนในตอนนี้เหลือเกิน....
พี่แดฮยอนใจเย็นๆสิค่ะ ค่อยๆพูดกันก็ได้ จงออบกลัวหมดแล้วนะพี่จียอนพยายามพูดให้พี่แดฮยอนใจเย็นลง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเท่าไร
พี่แดฮยอนเลื่อนสายตาไปที่โต๊ะเขียนหนังสือของผมก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ของผมขึ้นมา แต่แล้วพี่แดฮยอนก็ต้องชะงักเพราะข้างๆโทรศัพท์มือถือของผมนั้นมีพาสปอร์ตวางอยู่ ผมกับพี่จียอนเบิกตากว้าง พี่แดฮยอนค่อยๆหยิบมันขึ้นมาดู
ผมเห็นมือของพี่แดฮยอนที่กำลังสั่นด้วยความโกรธ ก่อนจะค่อยๆหันมามองผม สายตาที่มองมานั้นช่างดูน่ากลัว ผมรีบก้มหน้างุดหลบข้างหลังพี่จียอน
พี่แดฮยอนใจเย็นก่อนนะค่ะเรื่องนั้นจียอนอธิบายแทนจงออบได้พี่จียอนบอก แต่พี่แดฮยอนกลับเดินเข้ามากระชากผมอย่างแรง
นายจะไปไหน! บอกพี่มาจงออบนายจะไปไหน จะทิ้งพี่ไปใช่ไหมจงออบ!”ผมพยายามสะบัดแขนออกจากพี่แดฮยอน พี่จียอนพยายามเข้ามาห้ามไว้
ฮึก ฮือ...พี่จียอนช่วยผมด้วยผมร้องขอให้พี่จียอนช่วย
พี่แดฮยอนปล่อยจงออบเถอะค่ะ พี่กำลังทำจงออบเจ็บนะค่ะพี่จียอนบอก แต่พี่แดฮยอนก็ไม่สนใจ พยายามกระชากผมออกจากพี่จียอนให้ได้ ผมจับแขนพี่จียอนไว้ให้ช่วยผม น้ำตาก็ไหลพรากด้วยความกลัว
จงออบจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น จงออบต้องอยู่กับพี่!”พี่แดฮยอนว่าก่อนจะกระชากผมออกจากพี่จียอนได้สำเร็จ แล้วกำลังจะลากผมออกจากห้อง ผมเบิกตา กว้างพี่แดฮยอนจะทำอะไร จะพาผมไปไหน...ผมดิ้นขัดขืน
ฮือ...ปล่อยผม ฮือ...พี่จียอนช่วยผมด้วย...พี่จียอนทำท่าจะเข้ามาช่วย แต่พี่แดฮยอนก็หันไปส่งสายตาห้ามไว้ซะก่อน
จียอน เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันมีอิทธิพลต่อตระกูลเธอขนาดไหน ถ้ายังอยากช่วยตระกูลของเธอ ก็อย่าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้พี่จียอนถึงกับนิ่งงัน พี่แดฮยอนออกแรงลากผมไปอีกครั้ง ผมพยายามร้องให้พี่จียอนช่วย แต่พี่จียอนก็ทำได้แต่ยืนนิ่งจ้องมองผมโดนพี่แดฮยอนลากไปด้วยสายตาเจ็บปวด
ฮือ....พี่จียอนช่วยผมด้วย...พี่จียอน.....
พี่แดฮยอนลากผมมาขึ้นรถก่อนจะขับรถออกมาด้วยความเร็ว ความเร็วของรถทำให้ผมนั่งนิ่งตัวเกร็งบวกกับความกลัวคนข้างๆที่กำลังขับรถอยู่ พี่แดฮยอนจะพาผมไปไหน แล้วจะทำอะไรผมรึเปล่า ภาพในคืนนั้นฉายซ้ำในหัวสมองอีกครั้ง ตัวผมสั่นไปหมด
พี่แดฮยอนขับรถพาผมมาที่คอนโดแห่งหนึ่ง ผมไม่เคยมาที่นี้มาก่อน พี่แด ฮยอนจอดรถก่อนจะก้าวลงจากรถเดินมาที่ฝั่งของผม ผมมองตามพี่แดฮยอนอย่างหวาดๆ
พี่แดฮยอนกระชากประตูรถเปิดออก ก่อนจะลากผมลงมาจากรถ ผมขัดขืนความกลัวทำให้ผมร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
ฮือ....ผมไม่ไปนะ ปล่อยผม....ผมร้องบอก แต่ดูเหมือนพี่แดฮยอนจะไม่สนอะไรทั้งสิ้น พี่แดฮยอนลากผมเข้าไปในคอนโด
…….
…………..
…………………
ผมถูกลากเข้ามาในห้องอย่างทุลักทุเล ตลอดทางผมร้องไห้อ้อนวอนขอให้พี่แดฮยอนปล่อยผม พี่แดฮยอนล็อกประตูห้องลง ประตูห้องของพี่แดฮยอนเป็นระบบล็อกอัตโนมัติที่ต้องใช้คีย์การ์ด ถ้าไม่มีคีย์การ์ดที่อยู่ในมือพี่แดฮยอน ผมไม่มีทางเปิดประตูออกไปได้เลย
ผมเข้ามาอยู่ภายในห้องของพี่แดฮยอนแล้ว ผมมองไปรอบๆอย่างตื่นกลัวภายในห้องมืดสลัวผมมองเห็นทุกอย่างได้แค่เพียงรางๆ ก่อนสายตาจะมาหยุดอยู่ที่ร่างของคนตรงหน้าที่ยืนจ้องมาที่ผมอยู่
ผมก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ พี่แดฮยอนจะทำอะไรผม แสงสลัวทำให้ผมเห็นสีหน้าและแววตาของพี่แดฮยอนดูน่ากลัวกว่าเดิม มันไม่เหมือนพี่แดฮยอนคนเก่า แต่เหมือนพี่แดฮยอนคนในคืนนั้นมากกว่า ร่างกายของผมสั่นเทาด้วยความกลัว
พี่แดฮยอนค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาหาผม ผมรีบก้าวเท้าถอยหลัง และเพราะความมืดทำให้ผมสะดุดบางอย่างหงายหลังลงนั่งกับพื้น แต่สายตาผมก็ยังมองไปที่ร่างของพี่แดฮยอนที่กำลังเดินเข้ามา
อากาศรอบตัวเย็นจัด แต่เหงื่อกลับซึมออกมาเต็มฝ่ามือกับหน้าผากของผม ผมได้ยินแต่เสียงร้องไห้ของตัวเอง
ฮึก ฮือ.....ผมกลัว ตอนนี้ผมกำลังกลัว พี่แดฮยอนจะทำอะไร พี่แดฮยอนจะฆ่าผมรึเปล่า พี่แดฮยอนโกรธผมมากเลยใช่ไหม แล้วจะฆ่าผมเหมือนคนพวกนั้นใช่ไหม ผมเริ่มคิดไปต่างๆนาๆ เสียงร้องไห้ของผมเริ่มดังขึ้น พี่แดฮยอโผเข้ามาจับบ่าผมเอาไว้ ผมสะดุ้งสุดตัว
จงออบไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ทำอะไรจงออบหรอกพี่แดฮยอนบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ผมนิ่งค้าง แววตาของพี่แดฮยอนเปลี่ยนไป เริ่มกลับมาเป็นพี่แดฮยอนคนเดิม
พี่แดฮยอนจะไม่.....ไม่ฆ่าผมใช่ไหมผมถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
จงออบหมายถึงเรื่องในคืนนั้นใช่ไหมพี่แดฮยอนถาม ผมเบิกตากว้าง พี่แดฮยอนรู้ว่าผมรู้ ผมนิ่งงันไม่กล้าตอบ
เรามานั่งคุยกันดีๆ ดีกว่านะพี่แดฮยอนบอกก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดไฟ ภายในห้องสว่างวาบขึ้น ความกลัวในจิตใจของผมเริ่มลดลง พี่แดฮยอนดึงผมให้ไปนั่งลงบนเตียง ก่อนที่พี่แดฮยอนจะลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกันกับผม
เรื่องในคืนนั้นพี่รู้ว่าจงออบเห็นอะไรพี่แดฮยอนเริ่มเปิดประเด็น ผมบีบมือเข้าหากันแน่นก้มหน้าไม่กล้าสบตากับพี่แดฮยอน
พี่ขอโทษที่พี่ไม่ได้บอกจงออบว่าพี่ทำอะไรบ้าง พี่ไม่รู้ว่าพี่จะพูดยังไงให้จงออบเข้าใจและไม่กลัว มันเป็นธุรกิจอย่างหนึ่งที่พี่กำลังทำอยู่ มันอันตรายและเสี่ยงต่อชีวิตมาก คนพวกนั้นพยายามจะลอบฆ่าพี่ พี่จำเป็นต้องฆ่าพวกมัน เพราะพี่กลัว....พี่กลัวว่าซักวันพวกมันจะกลับมาอีก และครั้งนี้จงออบอาจจะต้องเป็นอันตรายผมได้แต่นิ่งเงียบฟัง
พี่ไม่โกรธเรื่องที่จงออบไม่รับโทรศัพท์เพราะตอนนั้นจงออบคงกำลังตกใจและกลัวมาก แต่พี่ขอร้องจงออบ อย่าไปจากพี่ได้ไหม พี่รักจงออบนะครับพี่แด ฮยอนถามผมด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ผมบีบมือเข้าหากันแน่นกว่าเดิม พี่แดฮยอนนิ่งรอฟังคำตอบของผม แววตาที่สั่นระริกจ้องมองผมอยู่ ผมควรจะทำยังไงดี ควรจะตอบว่าอะไร
ผมลองถามหัวใจของตัวเองลึกๆ พี่แดฮยอนฆ่าคน...ใช่ผมกลัวมาก พี่แด ฮยอนไม่เคยบอกว่ากำลังทำอะไร แต่จริงๆแล้วผมว่าผมก็พอจะรู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก เพราะทุกตระกูลย่อมมีเบื้องหลัง พี่แดฮยอนรักผมและผมว่าผมก็ยังรักพี่แดฮยอนเหมือนกัน แต่เรื่องที่ขอไม่ให้ผมจากไปนั้น....
ผมขอโทษ...ผมต้องไปในที่สุดผมก็ตอบออกไป ผมเห็นความวูบไวในแววตาของพี่แดฮยอน พี่แดฮยอนนิ่งเงียบไป หัวใจของผมเต้นรัว ผมขอโทษครับพี่แด ฮยอน ผมขอโทษจริงๆ
แต่แล้วพี่แดฮยอนก็ลุกพรวดขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นมองตามด้วยความงุนงง พี่แดฮยอนเดินหายไปจากตรงนั้น ผมนั่งอยู่ตรงนั้นเฉยๆ พี่แดฮยอนหายไปไหนกันแล้วไปทำอะไร ผมนั่งรออยู่เงียบๆด้วยหัวใจที่สั่นรัว พี่แดฮยอนคงจะเสียใจมาก ผมรู้ว่าซักวันผมก็ต้องบอกแบบนี้กับพี่แดฮยอนออกไป แต่แค่วันนั้มันมาถึงเร็วเกินไปเท่านั้นเอง
อ๊ะ พี่แดฮยอน พี่ไปไหนมา...ผมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อพี่แด ฮยอนเดินกลับมา แต่แล้วผมก็ต้องชะงักงันเมื่อพี่แดฮยอนเดินกลับมาพร้อมบางอย่างในมือ
ช..เชือก....ผมเงยหน้ามองหน้าพี่แดฮยอน ที่ตอนนี้แววตาและสีหน้ากลับเรียบเฉย กลับไปเป็นเหมือนพี่แดฮยอนที่ฆ่าคนในคืนนั้นอีกแล้ว
จงออบจะไม่มีวันทิ้งพี่ไปไหนได้!”พี่แดฮยอนบอกก่อนจะก้าวเข้ามาหาผม ผมเบิกตากว้างเตรียบจะวิ่งหนี แต่พี่แดฮยอนกลับคว้าผมไว้ ก่อนจะผลักผมลงไปบนเตียง
ฮึก อย่า...โอ้ยยยผมโดนจับให้นอนคว่ำ ข้อมือถูกจับไพล่หลัง พี่แดฮยอนใช้เชือกเส้นใหญ่มัดข้อมือผมไว้ ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ ผมพยายามดิ้นขัดขืนเพื่อไม่ให้พี่แดฮยอนมัดข้อมือผมได้
พี่แดฮยอนจะทำอะไร ปล่อยผมนะผมเจ็บผมร้องบอกน้ำตาไหลพราก ผมสู้แรงพี่แดฮยอนไม่ไหวจริงๆ พี่แดฮยอนมัดมือผมเสร็จก็หันมาลูบไล้ใบหน้าผมเบาๆ ผมหยุดดิ้นแววตาของพี่แดฮยอนที่จ้องมองผมช่างเรียบเฉย มันนิ่งจนผมรู้สึกหวาดกลัว
พี่ก็จะทำให้จงออบอยู่กับพี่ตลอดไปไงเสียงของพี่แดฮยอนกระซิบบอกที่ข้างหู ผมเบิกตากว้าง
ไม่นะ ช่วยด้วย....ใครก็ได้ช่วยผมด้วย...ฮือ.....


*********

[Zelo]

คุณเคยรู้สึกเจ็บอย่างที่ผมกำลังเจ็บอยู่ไหม เจ็บเพราะโดนคนที่เรารักหลอกหลวง เจ็บเพราะคนที่เรารักไปมีคนอื่น เจ็บที่เขานอกใจเราที่เขาโกหกเราต่างๆนาๆ แต่เราก็ยังรักเขาคนเดียวอยู่ดี....
ผมหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลขึ้นมา ก่อนจะหยิบรูปภาพมากมายออกมาจากข้างในซอง ภาพของไอ้ยองแจกับใครอีกคนที่ทำให้ผมเจ็บปวดที่หัวใจ ผมจ้องมองภาพเหล่านั้นที่กองอยู่บนโต๊ะด้วยความเจ็บปวด
ผู้ชายคนนั้นที่ผมไม่รู้จักผมจำได้ดีว่าคือคนที่ผมเห็นว่าขับรถออกมาจากบ้านมัไอ้ยองแจ ตอนนั้นผมถามมันว่าคือใครมันกลับบอกว่าลูกน้องของพ่อมัน หึ... ผมมันโง่มั้ยหละ ผมมาสืบรู้ที่หลังว่าผู้ชายคนนั้นเป็นตำรวจ ไอ้ยองแจมันนอกใจผม! แถมคนที่มันกำลังเป็นชู้ด้วยยังเป็นตำรวจ ตำรวจที่ไม่ถูกกับพ่อค้ายาบ้าอย่างผม
ผมขย้ำรูปในมือทิ้ง ความโกรธมากมายพุ่งพล่านขึ้นมา โกรธจนอยากจะฆ่าพวกมันทั้งสองคนให้ตาย...! แต่ในฉับพลันนั้นผมก็ต้องรู้สึกปวดหนึบที่หัวสมอง ผมยกมือขึ้นกุมหัว อาการปวดเริ่มรุนแรงขึ้น
อ้ากกก....ผมร้องออกมา มือขย้ำกุมผมแน่น ก่อนจะต้องทรุดลงนั่งกับพื้น ผมควานมือออกไปหากระปุกยา ก่อนจะคว้ามันมาได้ ผมรีบเปิดฝากระปุกยาออก ก่อนจะกลอกยาหลายเม็ดเข้าปาก ผ่านไปไม่นานอาการปวดที่หัวก็บรรเทาลง ผมนั่งหอบหายใจ
รูปของไอ้ยองแจหลายใบตกลงมาที่พื้นตอนที่ผมดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด ผมหยิบภาพพวกนั้นมาดูอีกครั้ง ก่อนจะต้องหัวเราะออกมาพร้อมน้ำตาเหมือนคนบ้า ความเจ็บปวดมันทำให้ผมบ้า............อีกครั้ง!


*********

ณ สถานีตำรวจ
ผู้กองปาร์คครับ ลืมเอกสารครับ....เสียงตำรวจนายหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะวิ่งกระหืดกระหอบเอาซองเอกสารมาให้ตำรวจอีกคน
อ๊ะ ขอบคุณมากนะ ฉันนี้แย่จริงลืมเอกสารคดีสำคัญซะด้วยตำรวจที่ถูกเรียกว่าผู้กอง บอกก่อนจะส่งยิ้มไปให้ลูกน้องของตน เขาคือผู้กองปาร์คหรือ         ปาร์คแจบอมนั้นเอง
คดีของลูกชายตระกูลสายลมที่หายไปนะหรอครับตำรวจผู้ที่มียศน้อยกว่าเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ใช่แล้ว ฉันกำลังตามสืบเรื่องนี้อยู่น่ะเขาบอกอย่างไม่มีปิดบัง
แต่เรื่องนี้ปล่อยไปไม่ดีกว่าหรอครับแจบอมขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าลูกน้องของตัวเองพูดอะไรกัน
ทำไมหละ
ก็คดีนี้มันอันตรายนะสิครับ ผู้กองนะเพิ่งย้ายมาที่นี้คงจะไม่รู้แจบอมยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ อะไรที่อันตรายกัน แล้วเขาไม่รู้อะไร ก็แค่คดีคนหายไม่ใช่หรอ
แล้วฉันควรจะรู้อะไรหละเขาถามอีกครั้ง ตำรวจนายที่มียศน้อยกว่ามองซ้ายมองขวาก่อนจะกระเถิบเข้ามาใกล้
ผู้กองรู้เรื่องระหว่างตระกูลไฟกับตระกูลสายลมแล้วใช่ไหมครับแจบอมพยักหน้าให้ก่อนจะนิ่งฟังต่อ
จริงๆแล้วตระกูลไฟกับตระกูลสายลมน่ะ..................แจบอมตั้งใจฟังเรื่องที่ลูกน้องกำลังเล่าให้ฟัง พอได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ ก็ต้องเบิกตากว้าง เขาหันไปมองหน้าลูกน้องของตัวเอง
นายพูดจริงหรอ เรื่องราวระหว่างสองตระกูลมันเป็นแบบนี้จริงๆหรอเขาทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
จริงสิครับ และเรื่องที่ลูกชายตระกูลสายลมหายไปที่จริงไม่ต้องสืบก็รู้ว่าเป็นฝีมือของตระกูลไฟแน่ๆ ผมถึงบอกว่าเรื่องนี้มันอันตรายไงครับแจบอมยกมือขึ้นจับคางของตัวเองอย่างครุ่นคิด
แล้วนายรู้รึเปล่าว่าทายาทตระกูลไฟตอนนี้อยู่ไหน แล้วเขาคือใครกันเขาถามออกไป ตำรวจนายนั้นทำสีหน้าตกใจ ทำเหมือนว่าคำถามนี้ไม่หน้าจะถามออกมาเลย
นี้ผู้กองไม่รู้หรอว่า.....ตระกูลไฟตอนนั้นก็คือตระกูลดาร์กในตอนนี้ไงครับประโยคหลังตำรวจนายนั้นพูดเสียงเบาลง แจบอมถึงกับเบิกตากว้าง ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจทุกอย่างแล้ว เขาหันตัวก้าวขึ้นรถทันที เขาต้องไปบอกเรื่องนี้ให้ใครคนหนึ่งทราบ.....!
อ้าว ผู้กองครับ จะรีบไปไหนน่ะครับ อะไรของเขาว่ะ
…….
…………..
…………………
แจบอมกำลังจะไปบอกเรื่องที่เพิ่งได้ฟังมาให้ยองแจทราบ ว่าใครคือทายาทตระกูลไฟคนนั้น... เขาขับรถมาตามทางเส้นทางด้วยความรีบร้อน แต่เพราะบนถนนตอนนี้มีรถสันจรแน่นขนัดทำให้รถของเขาขยับไปได้ด้วยความล้าช้า
โธ่เว้ย... ขับกันเร็วๆหน่อยสิว่ะเขาเป็นตำรวจแท้ๆแต่กลับกำลังพูดให้คนอื่นทำผิดกฎหมายซะงั้น
แจบอมหันซ้ายหันขวาเขาจำได้ว่าแถวนี้มีเส้นทางลัดที่จะพาเขาไปถึงบ้านยองแจได้ เมื่อพบแล้วก็ไม่รอช้าเขารีบหักเลี้ยวพวกมาลัยไปเส้นทางนั้นทันที
เส้นทางที่เขาเลี้ยวเขามาค่อนข้างเปลี่ยวไม่มีรถสันจรซักคัน แต่เขาไม่กลัวเพราะว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแถมยังเป็นตำรวจอีกด้วย ใครจะกล้าทำอะไรเขากัน
เขาขับรถมาตามเส้นทางเรื่อยๆ เขาไม่กล้าที่จะขับรถเร็วนักเพราะตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว ทำให้มองถนนได้ไม่ถนัดนัด ถ้าดันเกิดอุบัติเหตุขึ้น เขาอาจไม่มีโอกาสได้ไปบอกเรื่องสำคัญแน่...
เขาขับรถไปได้สักพัก ที่ด้านหลังก็ปรากฏรถคันหนึ่งกำลังขับตามหลังอยู่ เขาเริ่มรู้สึกอุ่นใจนิดหนึ่งเพราะยังมีคนใช้เส้นทางนี้เป็นเพื่อน แต่รถคันนั้นดูรีบร้อนผิดปกติ เพราะพยายามเร่งเครื่องและกระพริบไฟให้เขาหลายครั้ง เขาจึงชะลอรถลงให้อีกฝ่ายแซงไปก่อน
รถคันนั้นขับแซงขึ้นมาด้านหน้า แต่แทนที่แซงไปได้แล้วจะขับต่อไป รถคันนั้นกลับจอดรถขวางหน้ารถเขาไว้ ทำให้เขาต้องรีบเหยียบเบรกกะทันหัน โชคดีที่รถอยู่ของเขาชลออยู่ ทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆแม้แต่น้อย
แจบอมจ้องมองไปที่รถคันนั้น เขาเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ รถคันนั้นเปิดไฟหน้ารถสว่างจ้าส่องมาทางเขา แจบอมรีบคว้าปืนในรถออกมาทันที ตอนนี้เขารู้แล้วว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ปลอดภัย
เขาค่อยๆก้าวลงจากรถ ปืนจ่อไปที่ทางรถคันนั้นก่อนจะค่อยๆก้าวถอยหลังช้าๆ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร มีจำนวนเท่าไหร่และมีอาวุตรึเปล่า เพราะฉะนั้นทางที่ดีเขาควรจะหาทางหนีก่อน
แต่ในขณะที่เขาหันหลังเตรียมจะวิ่งหนี ก็มีใครคนหนึ่งยืนดักอยู่ คนๆนั้นชกเข้าที่หน้าของเขาไปอย่างจัง ก่อนจะเตะปืนในมือของเขาล่วงหล่น แล้วชกซ้ำมาที่หน้าเขาอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขายกมือกันไว้ได้
เขาได้ยินเสียงประตูรถเปิดออก ก่อนจะต้องพบว่าพวกมันอีกหลายคนเลยเดินลงมาจากรถคันนั้น ก่อนจะเข้ามารุมล้อมเขาไว้ เขาจ้องมองพวกมันที่อยู่รอบตัว
พวกมึงเป็นใครกัน!”เขาถาม ก่อนจะชกไปที่หน้าของไอ้คนที่ชกเขาตอนแรก พวกมันที่เหลือไม่ตอบแต่กับมองหน้ากันเหมือนกำลังตัดสินใจ พวกมันเป็นใคร ต้องการอะไรจากเขา
ย๊า....พวกมันคนหนึ่งพุ่งเข้าใส่ เขาเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็วก่อนจะปล่อยมัดใส่หน้าของไอ้เวรนั้นไป พวกมันที่เหลือเริ่มพุ่งเข้าใส่เขา และเพราะพวกมันมีจำนวนมากกว่าทำให้เขาสู้ไม่ไหว
จนกระทั่งในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายไปนอนกองอยู่ที่พื้น ใบหน้ามีเลือดออกจากบาดแผลที่บวมช้ำ สติของเขาใกล้จะเลือนรางเต็มทน รู้สึกเจ็บปวดไปหมดตามร่างกายและใบหน้า
และแล้วก็มีรถคันหนึ่งขับเข้ามา พวกมันถอยห่างจากร่างที่กองอยู่ที่พื้น ใครคนหนึ่งก้าวลงมาจากรถที่ขับเข้ามาใหม่ ก่อนจะเดินตรงไปที่ร่างของผู้กองหนุ่มที่ไม่เหลือสภาพของการเป็นตำรวจ
คนคนนั้นแสยะยิ้ม ก่อนใช้เท้าเหยียบไปที่ร่างๆนั้นที่ใกล้จะสลบเต็มที
หึ จำไว้ว่าอย่าเสือกมายุ่งกับเมียกูอีก ถ้ามึงยังไม่อยากตายในข้อหาเป็นชู้กับเมียพ่อค้ายาเสพติดอย่างกู!”พูดจบคนคนนั้นก็เดินจากไป
แจบอมจ้องมองคนคนนั้น ภาพที่เขาเห็นคือร่างของผู้ชายคนหนึ่งลางๆ เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองไปยุ่งกับเมียใครกัน แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรสติของเขาก็ต้องดับวูบไปเสียก่อน....


*********



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น