วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

B.a.p : Dark Love ความรักสีดำ Chapter 13

[Moon Jong Up]

ผมมองออกไปนอกกระจกรถ ตอนนี้ผมอยู่บนรถของพี่จียอน วันนี้ผมมีนัดเดทกับพี่แดฮยอน โดยมีพี่จียอนอาสามาส่ง ผมจ้องมองท้องฟ้าสีครามสดใส แต่หัวใจผมไม่ได้สดใสเหมือนท้องฟ้าเลย...ทั้งๆที่ผมกำลังจะไปเดทแท้ๆ
อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ กำลังจะไปเดทนะพี่จียอนบอกยิ้มๆแต่สายตานั้นแฝงไปด้วยความเป็นห่วง ผมยิ้มนิดๆตอบกลับไป
ครับ วันนี้ผมจะยิ้มออกมาให้มากที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมาในชีวิตเลย ดีมั้ย...ผมบอก พี่จียอมยกมือขึ้นลูบหัวของผมอย่างเอ็นดู ผมหันกลับไปจ้องมองข้างนอกกระจกอีกครั้ง ใช่...วันนี้ผมควรจะยิ้มให้มากๆ ผมควรจะมีความสุข เพราะผมเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะตักตวงความสุขแบบนี้แล้ว
รถของพี่จียอนจอดที่หน้าสถานีรถไฟ ผมเห็นพี่แดฮยอนกำลังยืนรออยู่ในมือถือตั๋วรถไฟสองใบ ผมกับพี่แดฮยอนคิดว่าจะไปทะเลด้วยกันโดยเดินทางด้วยรถไฟเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ผมคว้าข้าวของของตัวเองที่ไม่มีอะไรมากนอกจากกระเป๋าสะพายหนึ่งใบกับกล่องข้าวที่ผมลงมือทำเอง
จงออบ...พี่จียอนเรียกผมไว้ในขณะที่ผมกำลังจะก้าวลงจากรถ ผมหันกลับไปมอง
มีความสุขมากๆนะพี่จียอนบอก ผมฉีกยิ้มกว้างให้ก่อนจะก้าวลงจากรถ
ทันทีที่ก้าวลงจากรถพี่แดฮยอนก็หันมาเห็นผมพอดี พี่แดฮยอนฉีกยิ้มกว้างต้อนรับผม ผมเองก็ยิ้มกว้างไม่แพ้กันเดินเข้าไปหา วันนี้พี่แดฮยอนแต่งกายด้วยชุดสบายๆเสื้อยืดแล้วสวมเสื้อเชิ้ตไม่ติดกระดุมทับอีกที กางเกงสามส่วนดูแล้วแปลกตาไปอีกแบบแต่ก็ยังหล่อเหมือนเดิม ส่วนผมนั้นก็เสื้อยืดกับกางเกงสามส่วนเหมือนกัน
มานานรึยังครับผมเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม
เพิ่งมาเมื่อกี้เอง อ๊ะ จงออบทำอาหารมาด้วยหรอ...พี่แดฮยอนถามเมื่อเห็นกล่องข้าวในมือผม ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบ
เดี๋ยวเราไปกินบนรถไฟกันนะครับ แต่ไม่รู้จะอร่อยรึเปล่าเพิ่งทำครั้งแรกเลย พี่จียอนเป็นคนสอนผมบอก
จงออบทำอะไรพี่ก็กินหมดนั้นแหละพี่แดฮยอนยกมือขึ้นลูบหัวของผม
งั้นเราไปกันเถอะครับผมกับพี่แดฮยอนเดินจูงมือไปขึ้นรถไฟ โดยมีสายตาของพี่จียอนคอยมองส่งอยู่....
…….
…………..
…………………
ผมกับพี่แดฮยอนขึ้นมานั่งบนรถไฟแล้ว รถไฟเที่ยวนี้ไม่ค่อยมีผู้คนเท่าไหร่ คงเป็นเพราะสถานที่ที่ผมกับพี่แดฮยอนเลือกไปค่อนข้างจะห่างไกลอยู่พอสมควร
ผมหยิบกล่องข้าวขึ้นมาเปิดออก ข้างในเป็นอาหารง่ายๆคือข้าวพัดกิมจิ ไข่ทอดแล้วก็ไส้กรอกรูปปลาหมึก ผมจ้องมองมันแล้วรู้สึกอนาถในฝีมือการทำอาหารของตัวเองจริงๆ สงสัยจะทำได้อยู่แค่นี้แหละจงออบ....
แต่แล้วจู่ๆพี่แดฮยอนก็หยิบไส้กรอกรูปปลาหมึกของผมใส่ปาก
โอ้โห...อร่อยที่สุดในโลกเลยพี่แดฮยอนบอกพร้อมกับทำท่าทางโอเวอร์ จนผมอดยิ้มกว้างออกมาไม่ได้
ก็แค่ไส้กรอกทอดธรรมดาใครก็ทำได้ พี่แดฮยอนอ่ะโอเวอร์ผมว่า
ธรรมดาที่ไหน ที่มันอร่อยเพราะว่าเป็นฝีมือของจงออบ คนที่พี่รักที่สุดคนเดียวบนโลกต่างหากผมก้มหน้าด้วยความเขินอาย พี่แดฮยอนยื่นมือมากุมมือผมไว้
พี่รักจงออบนะครับผมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อดี ตอนนี้รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด หัวใจก็เต้นรัวแรงจนเหมือนจะทะลุออกมานอกอก จู่ๆพี่แดฮยอนก็เล่นบอกรักเสียดื้อๆแบบนี้
ผ ผมก็รักพี่ครับผมอ่อมแอ่มพูดออกมา
ห๊ะ อะไรนะพี่ไม่ได้ยินเลยจงออบพี่แดฮยอนเอียงหูเข้ามาใกล้ ผมรู้หรอกนะว่าพี่แดฮยอนได้ยินแต่แค่อยากแกล้งให้ผมพูดซ้ำ
ผมรักพี่แดฮยอนครับผมพูดเสียงดังขึ้น
ห๊ะ...อะไรนะ พี่ยังไม่ได้ยินเลย พูดซ้ำอีกทีได้มั้ยพี่แดฮยอนยังแกล้งผมไม่เลิก แต่คราวนี้ผมหยิบตะเกียบหนีบไส้กรอกยัดใส่ปากพี่แดฮยอนแทน ชอบแกล้งผมดีนัก
อื้อ...อร่อยจังพี่แดฮยอนไม่ได้สำนึกแต่กลับเคี้ยวไส้กรอกตุ้ยๆแล้วยิ้มกว้างพูด ผมและพี่แดฮยอนหัวเราะร่าอยากสนุกสนานพลางป้อนอาหารใส่ปากให้กันและกัน เหมือนกับว่ารถไฟคันนี้มีเพียงผมกับพี่แดฮยอนสองคน ผมรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน....

…….
…………..
…………………
รถไฟมาถึงที่หมายแล้ว ผมและพี่แดฮยอนก้าวลงมาจากรถไฟ ตามคาดที่สถานีนี้ไม่มีผู้โดยสารคนอื่นลงเลย มีแค่ผมกับพี่แดฮยอนแค่สองคนเท่านั้น...ซึ่งผมก็คิดว่าดีแล้ว ผมจะได้ใช้เวลานี้อยู่กับพี่แดฮยอนให้คุ้มที่สุด
ผมและพี่แดฮยอนออกเดินทางอีกครั้งจุดมุ่งหมายคือชายหาดที่มีภูเขาล้อมรอบ ผมกับพี่แดฮยอนออกเดินไปเรื่อยๆ มือของเราก็จูงกันไว้ตลอดการเดินทาง ผมไม่รู้สึกร้อนหรืออึดอัดหรืออยากปล่อยมือซักนิด การเดินทางของเราเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เสียงหัวเราะร่าเริงและรอยยิ้ม มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน
ผมและพี่แดฮยอนเดินออกจากสถานีมาไกลมาก และแล้วจุดมุ่งหมายของเราก็อยู่ตรงหน้าแล้ว น้ำทะเลสีครามที่สะท้อนแสงแดดอ่อนๆ โอบล้อมด้วยภูเขาสูงสีเขียวขจี ลมทะเลกระทบเข้ากับใบหน้าและผิวกาย ผมสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด รู้สึกดีจังแหะ
ผมและพี่แดฮยอนหันมามองหน้ากันอย่างตื่นเต้น ก่อนที่ผมจะรีบวางข้าวของลงบนหาดทรายแล้ววิ่งตรงไปที่น้ำทะเลตรงหน้า
จงออบ...รอพี่ด้วยสิพี่แดฮยอนรีบวางของแล้ววิ่งตามผมมา
ไม่รอหรอก แบร่...ผมหันไปแลบลิ้นใส่
เด็กดื้อ พี่จะจับนายโยนลงทะเลพูดจบพี่แดฮยอนก็วิ่งเข้ามาทำท่าจะจับผมอุ้มลงทะเลจริงๆ ผมวิ่งหนี เราสองคนจึงวิ่งไล่จับกันอยู่บนหาดทราย
ฮ่าๆๆ ไม่เอานะ อย่าจับผมโยนลงน้ำผมหัวเราะพรางเอ่ยขอร้องเพราะพี่แดฮยอนดันจับตัวผมไว้ได้แล้ว แต่พี่แดฮยอนก็ยอมปล่อยตัวผม แต่กลับเป็นผมเองที่กล้งแผลักพี่แดฮยอนหงายหลังลงไปในทะเล
ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้าผมบอกพรางหัวเราะร่วน
แกล้งพี่หรอจงออบ อย่างนี้ต้องโดนเอาคืนนะพี่แดฮยอนว่าก่อนจะลุกขึ้นมาอุ้มผมลงไปในทะเล ผมที่มั่วแต่หัวเราะต้องตกใจที่จู่ๆตัวก็ถูกอุ้มลอยสูงขึ้น ก่อนที่จะถูกโยนลงไปในน้ำจริงๆ
ตู้มมม แค่กๆๆผมโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ รู้สึกถึงรสชาติเค็มที่อยู่ในปากจากน้ำทะเลที่เผลอกลืนเข้าไป
ฮ่าๆๆ เป็นไงหละเด็กดื้อ....พี่แดฮยอนยืนหัวเราะผมตัวโยน ผมจ้องมองเคืองๆอย่างไม่ได้จริงจังนัก ก่อนจะเข้าไปกระโดดกดพี่แดฮยอนลงน้ำบ้าง พี่แดฮยอนพยายามตระเกียดตระกายให้พ้นน้ำ เราเล่นกันอยู่ในน้ำอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะดังระงม
ผ่านไปซักพักเราก็หยุดเล่นน้ำ ก่อนจะหันมามองกันและกันแทน พี่แด ฮยอนดึงผมเข้าไปไกล เรายืนหันหน้าเข้าหากัน ใบหน้าอยู่ห่างกันเพียงคืบ ผมรู้ว่าพี่แดฮยอนจะทำอะไร ผมเบี่ยงหน้าหนีไม่กล้าสบสายตาเพราะความเขินอาย พี่แด ฮยอนจับหน้าผมให้หันกลับไป สายตาของเราประสานซึ่งกันและกัน
ไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ย มีเพียงใบหน้าของพี่แดฮยอนที่โน้มลงมา ผมค่อยๆปิดเปลือกตาลง สัมผัสนุ่มนวลและแผ่วเบาแตะลงบนริมฝีปากทิ้งค้างไว้อย่างงั้นเนิ่นนานโดยไม่ได้ลุกล้ำเข้ามา ผมอยากจะเก็บเวลานี้ไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะผมคงจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้ไม่ได้แน่นอน....
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ พี่แดฮยอนค่อยๆถอนริมฝีปากออก ก่อนจะจ้องมองผมด้วยสายตาลึกซึ้ง ผมก็มองกลับด้วยสายตาเช่นเดียวกัน ก่อนที่เราทั้งคู่จะยิ้มออกมา
พี่แดฮยอนดึงผมเข้าไปกอดไว้ ใช้หน้าผากชนกับหน้าผากของผม ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว แสงสีส้มอ่อนสอดส่องลอดผ่านช่องว่างระหว่างเรา ช่างเป็นภาพที่งดงามที่ผมจะเก็บไว้ในห้วงความทรงจำตลอดชีวิต......

…….
…………..
…………………
ตอนนี้ผมกับพี่แดฮยอนอยู่บนรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่จะกลับบ้านแล้ว หลังจากที่เราเล่นน้ำต่อกันอีกนานจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า โชคดีที่ที่ชายหาดมีจุดบริการนักท่องเที่ยวอยู่ไม่ไกลนัก ผมกับพี่แดฮยอนจึงไปหาที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันที่นั้น จากนั้นก็ไปหาอะไรกินต่อแล้วก็กลับมาที่สถานีทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายพอดี...
ผมจ้องมองร่างข้างๆที่พล่อยหลับไปแล้ว หัวที่เอียงไปเอียงมาถูกผมจับให้ซบลงบนบ่าของผม ผมอมยิ้มจ้องมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลา พลันสายตาก็ต้องเศร้าลง... ผมจะได้เห็นใบหน้านี้ในมุมแบบนี้อีกไหมนะ เมื่อนึกขึ้นได้ผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ก่อนจะกดถ่ายรูปตัวเองกับคนข้างๆที่หลับไม่รู้เรื่อง
ผมฉีกยิ้มจ้องมองรูปที่ถ่ายได้ ภาพผมที่ฉีกยิ้มกับพี่แดฮยอนที่ซบหลับอยู่บนบ่า แต่จู่ๆน้ำใสๆก็หยดลงบนหน้าจอมือถือ มันไหลออกมาจากดวงตาของผมโดยไม่รู้ตัว ผมพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้คนที่หลับอยู่ได้ยิน ผมฝืนยิ้มอีกครั้ง ตอนนี้ผมควรจะมีความสุขสิไม่ใช่ร้องไห้
ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้า แต่แล้วมันก็กลั้นไว้ไม่อยู่จริงๆ ตลอดระยะทางการเดินทางกลับบ้านจึงเต็มไปด้วยน้ำตา ผมได้แต่นั่งร้องไห้เงียบๆไปตลอดการเดินทาง
…….
…………..
…………………
รถไฟจอดที่สถานี สถานีแรกที่ผมกับพี่แดฮยอนจากไป พี่แดฮยอนตื่นขึ้นมาได้ซักพักแล้ว ผมกับพี่แดฮยอนก้าวลงจากรถไฟ ที่สถานีไร้ผู้คนเพราะตอนนี้ดึกมากแล้ว อากาศรอบข้างเย็นลงจนผมต้องยกแขนขึ้นกอดตัวเองไว้
หนาวหรอครับจงออบพี่แดฮยอนถาม ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบ พี่แด ฮยอนถอดเสื้อกันหนาวที่ใส่อยู่มาคุมตัวผมให้ ผมทำท่าจะปฏิเสธแต่พี่แดฮยอนก็ส่งสายตาดุๆมาให้ ผมจึงกระชับเสื้อให้โอบคลุมตัวมากขึ้นแทน
พี่เอารถมา เดี๋ยวพี่ขับไปส่งจงออบที่บ้านนะครับพี่แดฮยอนบอก ผมพยักหน้ารับก่อนที่เราจะเดินไปขึ้นรถของพี่แดฮยอนที่จอดทิ้งไว้ก่อนไป
รถขับออกมาได้สักพัก ผมก็เผลอหลับไปโดยไปรู้ตัว ฮีตเตอร์ในรถถูกเปิดช่างอุ่นสบาย ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่ใกล้จะถึงบ้านแล้ว
พี่แดฮยอนจอดตรงนี้แหละครับผมบอกให้พี่แดฮยอนจอดรถตรงสวนสาธารณะใกล้บ้าน พี่แดฮยอนหันมามองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ
จอดทำไมหละจงออบ ยังไม่ถึงบ้านเลยนะ
จอดส่งผมตรงนี้แหละ ผมไม่อยากให้พ่อกับแม่เห็นว่าผมออกไปกับพี่แด ฮยอนมานะครับผมอธิบาย พี่แดฮยอนมองผมอย่างเข้าใจ ก่อนจะยอมจอดรถให้ แต่ก็ยังคว้าแขนผมไว้ตอนที่ผมกำลังจะก้าวลงจากรถ
แน่ใจนะว่าไม่ให้พี่ไปส่งถึงบ้านพี่แดฮยอนถามสีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก อีกนิดเดียวก็ถึงบ้านผมแล้วผมบอกก่อนจะเปิดประตูรถก้าวลงไป ผมส่งยิ้มให้ก่อนจะปิดประตูรถลง
ผมเดินจากมาได้ซักพัก ก็เพิ่งรู้ตัวว่าเสื้อของพี่แดฮยอนยังคุมอยู่บนตัวของผม นี้ผมลืมคืนเสื้อพี่แดยอนหรอเนี้ย... ผมหันหลังเดินกลับไปทางเดิม ไม่รู้ว่าพี่แด ฮยอนจะไปรึยัง
ผมเดินกลับมาที่ที่เดิม โชคดีที่รถของพี่แดฮยอนยังอยู่ ผมเดินเข้าไปไกล และต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะภายในรถไม่มีร่างของพี่แดฮยอนอยู่ พี่แดฮยอนหายไปไหน....
ปัง!”เสียงบางอย่างดังขึ้นมาจากทางหนึ่ง ผมหันไปมองด้วยความตกใจ หัวใจเต้นรัวแรงรู้สึกเป็นห่วงพี่แดฮยอนขึ้นมา ผมจึงออกวิ่งไปตรงทางนั้นทันที
พี่แดฮยอน....
ผมเดินตรงมายังที่ที่ได้ยินเสียงดังขึ้น สายตามองหาร่างของพี่แดฮยอนที่ไม่รู้ว่าจะอยู่แถวนี้รึเปล่า และแล้วเท้าของผมที่กำลังก้าวเดินก็ต้องชะงักหยุดอยู่ตรงมุมตึก เมื่อผมเจอกับพี่แดฮยอนแล้ว แต่พี่แดฮยอนไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว ตรงหน้าพี่แดฮยอนยังมีผู้ชายอีกสามร่างยืนอยู่ด้วย ผู้ชายพวกนั้นสวมหมวกและเสื้อผ้าสีดำ
หึ ใครสั่งพวกมึงมาอีกหละ คราวที่แล้วโดนกูฆ่าทิ้งไปสองยังไม่เข็ญอีกรึไงคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของพี่แดฮยอนทำให้ผมถึงกับนิ่งค้าง นี้มันหมายความว่ายังไงกัน?
ผู้ชายพวกนั้นไม่ได้ตอบอะไรแต่กับหยิบมีดออกมา ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่พี่แดฮยอนกลับทำเพียงยืนนิ่งเฉย ไม่ได้ตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นซักนิด ผมที่คิดจะเข้าไปจึงต้องห้ามตัวเองไว้ก่อน รอดูเหตุการณ์ตรงหน้า
ผู้ชายพวกนั้นพุ่งเข้าใส่พี่แดฮยอน แต่พี่แดฮยอนกลับหลบทั้งมัดทั้งเท้ารวมถึงมีดที่ฟาดฟันลงมาได้อย่างคล่องแคล่วจนผมยังต้องทึ้ง พี่แดฮยอนสวนกลับไปหลายมัดจนไอ้พวกนั้นลงไปนอนกองกลับพื้น มีดที่ถือไว้กระเด็นหลุดมือ
ผมยิ้มร่าออกมาเพราะคิดว่าพี่แดฮยอนเป็นฝ่ายชนะแล้ว ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็เถอะ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้ผมถึงกับช็อกก็เกิดขึ้น เมื่อพี่แดฮยอนหยิบปืนที่ด้านหลังออกมา ก่อนจะเร่งไปที่ร่างของไอ้พวกนั้นที่ไม่มีท่าทีว่าจะลุกขึ้นมาสู้ต่อได้ไว้แล้ว ผมเบิกตากว้าง....
ปัง!ปัง!ปัง!”เสียงปืนสามนัดดังขึ้นติดต่อกัน ภาพที่ผมเห็นคือทั้งสามร่างถูกกระสุนเจาะเข้าที่หัว เลือดสีแดงสดพร้อมเศษหัวสมองกระจายเต็มพื้น ก่อนที่จะหมดลมหายใจเหลือแต่ร่างไร้วิญญาณที่นอนจมกองเลือด
ผมยืนตัวแข็งทื่อ จ้องมองด้วยความสะพรึง สีหน้าของพี่แดฮยอนดูไม่รู้สึกอะไรซักนิดกับการฆ่าคน....! นั้นคือใครกัน...นั้นคือพี่แดฮยอนที่ผมรู้จักจริงๆหรอ พี่แดฮยอนแสยะยิ้มให้กับร่างไร้วิญญาณทั้งสามร่างนั้น ผมรู้สึกได้ถึงมือของตัวเองที่เริ่มสั่นเทา
ผมก้าวถอยหลังทีละนิดๆ สายตายังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของพี่แดฮยอนที่กลายเป็นฆาตกรในสายตาของผมไปแล้ว หัวใจของผมรู้สึกบีบรัดด้วยความหวาดกลัว จนกระทั่งผมถอยห่างออกมาพอสมควร ผมรีบหันตัวแล้ววิ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว
น้ำตามากมายอาบลงมาบนใบหน้า ภาพของพี่แดฮยอนที่ถือปืนแล้วยิงคนพวกนั้นยังติดตา ทำไมพี่แดฮยอนถึงทำแบบนั้นได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลย พี่แดฮยอนเป็นใครกันแน่ เขายังเป็นพี่ชายที่แสนใจดีของผมอยู่รึเปล่า ผมก้าวขาวิ่งออกไปอย่างสุดชีวิต อยากจะหนี...หนีออกไปให้พ้นจากคนคนนั้น คนที่ฆ่าคนได้โดยไร้ความเมตตา....

[Jung Dae Hyun]

หลังจากที่ผมฆ่าไอ้พวกที่คิดจะฆ่าผมแล้ว ผมก็จ้องมองร่างไร้วิญญาณของพวกมันด้วยความสมเพศ ผมเตือนแล้วนะว่าอย่ามายุ่งกับผมไม่งั้นก็จะพบจุดจบอย่างนี้แหละ แต่ไอ้การที่จะมีคนลอบฆ่าผมก็ไม่แปลก เพราะงานที่ผม ไอ้ยงกุก และไอ้เซโล่ทำย่อมต้องมีศัตรูอยากจะฆ่าทิ้งอยู่แล้ว แต่พวกผมก็ไม่เคยคิดจะส่งใครให้ไปฆ่าพวกมันก่อนเลยซักครั้ง มีแต่พวกมันที่คอยจะส่งคนมาฆ่าพวกเรา
พรึบ!”ผมรู้สึกเหมือนอะไรเคลื่อนไหวผ่านหางตา พอหันกลับไปมองก็ไม่พบแล้ว ผมจึงเดินตรงไปทางนั้น และสิ่งที่ผมเห็นก็ทำให้ผมถึงกับต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขารู้สึกอ่อนแรงลงจนแทบทรุดลงกับพื้น
จงออบ...ผมเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา แผ่นหลังของจงออบที่วิ่งจากไป ดูก็รู้ว่าคงเห็นเหตุการณ์เมื่อกี้แน่ๆ เขาเห็นว่าผมฆ่าคน... เห็นแล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของผมนั้นเป็นยังไง
จงออบ...พี่ขอโทษ....ผมได้แต่พร่ำพูดกับตัวเอง สายตาเจ็บปวดจ้องมองร่างนั้นที่วิ่งห่างออกไป และผมรู้สึกเหมือนกับว่าร่างนั้นจะไม่หันกลับมาหาผมอีกแล้ว


********



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น