วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

B.a.p : Dark Love ความรักสีดำ Chapter 12

[Moon Jong Up]

อีกไม่ถึงสองสัปดาห์ก็จะถึงวันหมั้นของพี่จียอนกับพี่แดฮยอนแล้ว ยิ่งวันนั้นใกล้เข้ามาผมยิ่งรู้สึกหัวใจบีบรัด ไม่อยากจะให้ถึงวันนั้นเลยจริงๆ
จงออบ...เสียงพี่จียอนเรียก ผมหันกลับไปมองก็พบพี่จียอนกำลังอยู่ในชุดกระโปงฟูฟ่องสีขาว พี่จียอนช่างดูงดงามเหลือเกิน จนผมยังอดทึ่งไม่ได้
พี่ดูเป็นยังไงบ้างหรอ...พี่จียอนถามด้วยสีหน้าประหม่าอย่างไม่มั่นใจ ผมฉีกยิ้มกว้างให้ก่อนจะเดินเข้าไปหา
พี่สาวของผมสวยมากๆเลยครับผมเอ่ยชมจากใจจริง พี่จียอนยิ้มกว้างให้ เรายิ้มแย้มให้กันและกันก่อนที่ผมจะต้องหุบยิ้มลง ใช่...พี่จียอดสวยมากและคงดูดีมากเมื่อได้ยืนคู่กับพี่แดฮยอนในชุดสูทสีดำ...ในวันแต่งงานของทั้งคู่.....
จงออบ...พี่จียอนยกมือขึ้นแตะบ่าของผม รับรู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ ผมได้แต่ฝืนยิ้มบางๆให้
ผมไม่เป็นอะไรครับ เป็นพี่น่ะดีแล้ว ผมขอแค่เวลาก่อนหน้านั้น ก่อนจะถึงวันที่ผมจะไม่ได้อยู่เคียงข้างพี่แดฮยอนอีกแล้ว แค่นั้นก็พอ...แค่นั้นก็มากพอแล้ว....ผมบอกเสียงเศร้า มันคงเป็นไปได้ยากที่ผมกับพี่แดฮยอนจะรักกันไปจนยืดยาว
จงออบพี่ขอโทษเรื่องที่พี่บอกไปตอนนั้นด้วยนะ จริงๆแล้ว...
ผมรู้ครับ พี่คงกลัวว่าผมจะเสียใจถ้าถึงวันที่ผมต้องปล่อยมือไปจากพี่แด ฮยอน พี่ก็เลยบอกผมแบบนั้น ผมไม่โกรธหรอกครับ ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วงผมพี่จียอนจ้องมองผมด้วยสายตาเศร้า ใช่...ตอนนี้ผมดูน่าสงสารกว่าพี่จียอนเสียอีก พี่จียอนยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด ผมปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาบนบ่าเล็ก
จงออบพี่ขอโทษ...พี่จียอนบอก ผมกอดรัดร่างเล็กๆของพี่จียอนแน่น
ไม่เป็นไรครับ หลังจากวันหมั้นของพี่แล้ว ผมจะไปจากที่นี้ทันที ผมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่และจะลืมเรื่องระหว่างผมกับพี่แดฮยอนซะพี่จียอนดันตัวผมออก ก่อนจะยกมือปาดน้ำตาให้
ขอบคุณนะจงออบ ขอบคุณที่ทำเพื่อตระกูลของเรา
พี่ต่างหากที่ทำเพื่อตระกูลของเรา ผมรักพี่นะครับผมบอก

พี่ก็รักจงออบเหมือนกัน เด็กดีของพี่ผมและพี่จียอนยิ้มให้กันและกัน ผมได้แต่นึกถึงวันนั้น วันที่ผมจะต้องจากไป ผมคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว ตั้งแต่กลับไปคบกับพี่แดฮยอน ความรักของผมกับพี่แดฮยอนมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย และทางเดียวที่จะยุติเรื่องนี้ได้ คือผมต้องเป็นฝ่ายไป ขอโทษนะครับพี่แดฮยอนที่ผมทำตามสัญญาไม่ได้ ขอโทษจริงๆ

********

[Jung Dae Hyun]

ผมยกมือข้างที่มีแหวนขึ้นจ้องมอง มืออีกข้างก็บังคับพวงมาลัยให้รถวิ่งไปตามถนน แหวนคู่ที่ผมกับจงออบมีคนละวง เห็นที่ไรต้องนึกถึงอีกคนทุกที่และมันก็ทำให้ผมต้องอมยิ้มทุกทีที่มอง
ผมเงยหน้าขึ้นมองถนนเบื้องหน้า สายตาสลับมองกระจกมองหลังเป็นระยะ จนกระทั่งผมสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง มีรถคันหนึ่งตามผมอยู่....
สีหน้าผมตึงเครียดขึ้นมาทันที มือกำพวงมาลัยรถแน่นขึ้น อีกนิดเดียวก็จะถึงบ้านแล้วแท้ๆ แต่ดันมีพวงแมลงมารังควานอีกจนได้ ผมหักเลี้ยวรถเข้าไปในซอยเปลี่ยว และตามคาดพวกมันเลี้ยวตามเข้ามา
ผมจอดรถตรงข้างตึกร้าง ที่นี้ไร้วี่แววของผู้คนพักอาศัย มีแต่ความมืดโอบล้อม รถของพวกมันจอดอยู่ไม่ห่างจากผมนัก ผมมองเห็นได้จากแสงไฟหน้ารถของพวกมัน ผมหยิบปืนที่ซ้อนไว้ขึ้นมาหัวใจเต้นรัว
พวกมันสองคนเดินลงมาจากรถ สวมหมวกและเสื้อผ้าสีดำ ในมือถือปืนเตรียมพร้อมปิดชีวิตของผม ผมกำปืนในมือแน่น
พวกมันค่อยๆเดินตรงเข้ามาที่รถของผม ปืนจ่อไว้เตรียมพร้อมยิงผมทุกเมื่อ พวกมันเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งคนหนึ่งเปิดประตูรถผมออก อีกคนที่ถือปืนจ่อไว้กระหน่ำยิง
ปัง!ปัง!ปัง!.....เสียงปืนหยุดลง พวกมันยืนดูผลงานแต่ก็ต้องประหลาดใจ เพราะในรถไม่มีใครอยู่เลย กระสุนของพวกมันทุกนัดฝังเข้าที่เบาะและกระจก ผมได้ยินเสียงพวกมันสบถและมองหาผมในความมืด
ผมแสยะยิ้มออกมา ในมือกำกระบอกปืนแน่น ก่อนจะโผล่ออกไปข้างหลังของพวกมัน
ปัง!ปัง!”เสียงปืนดังขึ้นเพียงสองครั้ง ร่างของพวกมันทั้งสองก็ลงไปนอนแน่นิ่งที่พื้น ผมยกยิ้มอย่างผู้ได้ชัยชนะ ที่จริงแล้วผมแอบออกไปจากรถตั้งนานแล้ว โดยอาศัยความมืดอำพรางตัว พวกมันโง่เองที่คิดจะฆ่าผม ไม่งั้นพวกมันคงไม่ต้องมาตายอย่างนี้ แต่ถ้าเป็นไอ้ยงกุกหรือไอ้เซโล่ พวกมันอาจต้องทรมานก่อนแล้วค่อยตายด้วยซ้ำ...!
ผมเดินตรงไปที่รถของตัวเองสำรวจความเสียหาย รถคันหรูราคาหลายแสนของผมคงจะใช้การต่อไม่ได้แล้ว ผมชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะต้องเดินตรงไปที่รถของพวกมันแทน อย่างน้อยพวกมันก็ทิ้งรถไว้ให้ผมขับกลับบ้านหละนะ

*********

ณ ตระกูลสายลม
ภายในห้องทำงานที่มีกองเอกสารมากมายกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ห้องถูกปล่อยปละละเลยอย่างไม่ใส่ใจ ร่างสูงใหญ่ของผู้นำตระกูลนั่งกุมขมับอยู่หลังโต๊ะทำงาน ข้างกายมีแก้วเหล้าที่ดื่มค้างไว้วางอยู่ ใบหน้าที่เริ่มมีริ้วรอยตามกาลเวลาดูเจ็บปวด เขากำลังนึกถึงเรื่องอดีตที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง
ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่อีจุนจะเดินเข้ามา เขาก้มโค้งให้ผู้เป็นเจ้านายของตน
มันเป็นความผิดฉันเองอีจุน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือความผิดของฉันคิมซูโรพูดกับลูกน้องคนสนิทอย่างตัดพ้อต่อว่าตัวเอง
มันไม่ใช่ความผิดของท่านหรอกครับ มันเป็นความผิดของ บัง ยงกุก คนที่จับคุณฮิมชานไปต่างหากอีจุนพยายามพูดปลอบเจ้านายของตน
ไม่ใช่ มันไม่ใช่ความผิดของเขา ที่เขาต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะฉัน นายไม่เข้าใจอีจุน....
เข้าใจสิครับ ท่านกำลังเป็นห่วงคุณฮิมชานมากเลยโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองอีจุนบอก
ไม่ใช่ จริงอยู่ที่ฉันเป็นห่วงฮิมชานมาก แต่คนที่ฉันเป็นห่วงมากกว่าคือบังยงกุกเด็กหนุ่มคนนั้นเขากำลังทำเรื่องผิดพลาด สิ่งที่เขากำลังทำ การแก้แค้นของเขามันจะส่งผลร้ายกับตัวของเขาเองอีจุนขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้านายของตัวเองพูด
หมายความว่ายังไงครับเขาถาม คิมซูโรส่ายหน้าให้
ยงกุกเขากำลังทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว....
อีจุนยังไม่เข้าใจอยู่ดี หมายความว่าไงที่เจ้านายของเขาเป็นห่วงคนที่จับลูกชายของตัวเองไป ยังมีเรื่องอะไรอีกมากที่เขายังไม่รู้งั้นหรอ เรื่องระหว่างตระกูลสายลมและตระกูลไฟ......

*********

[Bang Yong Gook]

ตอนนี้ผมยังอยู่ที่บ่อนของไอ้เซโล่ ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะคาสิโนในมือถือแก้วเหล้ากระดกเข้าปาก การพนันเป็นอีกอย่างที่ผมถนัด ผมชอบเวลาได้เห็นสีหน้าโง่ๆของไอ้พวกที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับผม พอหมดตูดก็ต้องขอยืมเงินจากบ่อน พอกลับมาเล่นก็หมดตูดอีก สุดท้ายพวกมันก็ต้องเป็นหนีบ่อน ไม่มีจ่ายก็ต้องโดนเก็บ นี้แหละวงจรชีวิตของนักพนัน ผมหละสมเพศพวกมันจริงๆ
สายตาของผมเหลือบมองร่างที่ผมลากออกมาจากที่คุมขังด้วย ไอ้ฮิมชานกำลังนั่งเท้าคางอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ มันไม่ได้ดื่มเหล้าเพราะผมสั่งไว้ มันจึงดื่มแต่น้ำผลไม้เท่านั้น สีหน้าของมันดูเซ็งๆกับที่นี้
ผมแอบจ้องมองใบหน้าด้านข้างของมัน ใบหน้าที่มีจมูกโด่งรั้น ริมฝีปากสีแดงเรื่อที่ชอบจิกกัดและเถียงผมประจำ แม้จะโดนผมทำรุนแรงกลับไปทุกครั้งมันก็ไม่เคยจำซักที ผิวขาวเนียนละเอียดที่ผมเคยสัมผัสมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แววตาที่มีแต่ความไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะร้องไห้แต่ผมก็ไม่เคยเห็นความอ่อนแอในดวงตาคู่นั้นของมันเลย
ถ้าไม่ติดว่ามันคือศัตรู! ผมคงโกหกไม่ได้ว่าผมคงต้องหลงรักมันแน่นอน แต่เป็นเพราะว่ามันคือศัตรู! สิ่งเดียวที่ผมจะมอบให้กับมันคือความเจ็บปวดที่แสนสาหัสเท่านั้น เจ็บปวดเท่ากับที่ผมเคยเจ็บปวดมาก่อน...!
ผมเผลอจ้องมองไอ้ฮิมชานอยู่นานจนลืมเรื่องการพนันตรงหน้าที่เล่นค้างไว้ ไอ้พวกที่นั่งร่วมโต๊ะกับผมคิดจะใช้โอกาสนี้โค้นล้มผมซะ แต่พวกมันคิดผิดแล้วหละ พอผมหันหน้ากลับมาไม่ถึงพริบตาผมก็ชนะพวกมันอีกครั้ง พวกมันร้องโอดครวญเพราะเงินที่มีอยู่ย้ายมาอยู่ในกระเป๋าผมแล้ว ผมเหยียดยิ้มอย่างผู้มีชัย ไม่มีอะไรที่ผมทำไม่ได้เพื่อชัยชนะและความสะใจหรอก
ผมหันไปมองที่ไอ้ฮิมชานอีกครั้ง และครั้งนี้มันหันมามองผมเช่นกัน เราสบสายตากันและกัน ก่อนที่มันจะเบือนหน้าหนี หึ...เกลียดกูสินะไอ้ฮิมชาน เกลียดกูเข้าไปเหอะ เพราะยิ่งมึงเกลียดกูมึงก็จะยิ่งต้องทุกทรมาน เพราะกูจะไม่มีวันปล่อยมึงไปเด็ดขาด! เพราะมึงเป็นของกู.....ของกูเพียงคนเดียว.....

 *********

[Zelo]

ผมกดโทรศัพท์ในมือโทรออกรัว แต่ไม่ว่าจะกดโทรออกซักกี่ครั้งปลายสายก็ไม่ว่างซักที ผมเริ่มขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด ผมติดต่อไอ้ยองแจไม่ได้อีกแล้ว ทำไมเดี๋ยวนี้ผมถึงโทรหามันไม่ติดเลย พอติดก็ได้คุยแค่สองสามประโยคมันก็วางสายบอกว่าติดธุระบ้าง นู้นนี้บ้างจนตอนนี้ผมกับมันชักเริ่มห่างเหินกันเรื่อยๆ
ผมนึกถึงตอนที่ไปบ้านมันครั้งล่าสุด ไอ้ยองแจดูมีท่าทางแปลกๆกับผม มันบอกผมว่ามันอยู่บ้านตลอด แต่เหมือนผมจะเห็นรถของมันเพิ่งขับเข้าไปในบ้าน ผมไม่ได้พูดเรื่องนี้กับมันเพราะผมพยายามที่จะเชื่อใจมัน แต่ท่าทางแปลกๆของมันก็ทำให้ผมกลัว มันไม่ได้กำลังปิดบังอะไรผมใช่ไหม....
เป็นห่าไรอีกว่ะ นั่งหน้าเป็นตีนเลยเป็นไอ้ยงกุกที่เดินเข้ามาทัก ตอนนี้ผมอยู่ที่บ่อนใต้ดินของมันหลังจากที่ไม่ได้มาซะนาน
ทำไมวันนี้มึงโผล่มานี้ว่ะ ไม่อยู่เฝ้านักโทษมึงแล้วหรอผมไม่ตอบแต่ถามมันกลับ มันยกยิ้มนิดๆ
ทำไมต้องเฝ้าว่ะ แทนที่จะเฝ้านักโทษอยู่บ้าน สู้กูลากมันมากับกูด้วยไม่ดีหรอมันพูดจบผมก็หันไปมองทางด้านหลังของมันทันที พบกับไอ้ฮิมชานที่มีลูกน้องไอ้ยงกุกยืนคุมอยู่
 “มึงลากเขามาอย่างงี้ไม่กลัวว่าจะหนีหรอว่ะผมถาม ไอ้ยงกุกเหยียดยิ้ม มันคว้าแก้วเหล้าขึ้นกระดกก่อนจะตอบ
ก็ลองหนีสิครั้งนี้กูจะยิงทิ้งให้ดูผมอดขนลุกไม่ได้เวลาที่ไอ้ยงกุกพูดเรื่องที่เกี่ยวกับการฆ่าคน มันพูดออกมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่รู้สึกอะไรซักนิด เช่นเดียวกับตอนลงมือกระทำ....
ว่าแต่มึงเหอะ อย่าเครียดมากสิว่ะ เดี๋ยวอาการก็กำเริบอีกหรอก คราวนี้กูกับไอ้แดฮยอนอาจช่วยมึงไม่ทันก็ได้นะเว้ยผมนิ่งเงียบ นึกถึงครั้งล่าสุดที่โรคของผมกำเริบ ถ้าตอนนั้นไอ้ยงกุกและไอ้แดฮยอนมาช่วยไว้ไม่ทัน ผมคง.....

[Kim Him Chan]

ผมยืนทำหน้าเบื่อโลกอยู่ท่ามกลางกลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นเหล้าและพวกผีพนันทั้งหลาย ทำไมไอ้ยงกุกมันต้องลากผมออกมาด้วย ได้ออกมาจากที่คุมขังมันก็ดีอยู่หรอก แต่ก็ใช่ว่างานที่ไอ้ยงกุกทำมันจะปลอดภัยกับผม ยิ่งคนเห็นผมอยู่กับไอ้ยงกุกผมก็ยิ่งกลัว กลัวว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบไปถึงชื่อเสียงของตระกูล และยังพวกศัตรูของไอ้ยงกุกอีก แล้วนี่ผมจะไม่โดนลูกหลงไปด้วยหรอ... ผมไม่เกี่ยวด้วยเลยนะ อยากฆ่าก็ฆ่าไอ้ยงกุกไปคนเดียวเลย
จีโอฉันยืนอยู่ตรงนี้จนเวียนหัวไปหมดแล้วนะผมหันไปบอกร่างสูงข้างๆที่ไอ้ยงกุกสั่งให้เฝ้าติดตามผมไว้ ผมรู้สึกวิงเวียนจริงๆเพราะกลิ่นเหล้ากับกลิ่นบุหรี่
งั้นเข้าไปในห้องทำงานดีกว่าครับจีโอบอกก่อนจะนำทางผมไป ผมรู้สึกดีใจนะที่ไอ้ยงกุกสั่งให้จีโอเฝ้าผมไม่ใช่ลูกน้องคนอื่น เพราะอย่างน้อยจีโอก็ใจดีกับผมเสมอ....
ปึก! โอ้ย!”ผมรีบกุมจมูกของตัวเองที่เดินชนเข้ากับอะไรบางอย่าง
คุณฮิมชานเป็นอะไรรึเปล่าครับจีโอรีบเข้ามาดูผม ผมก้าวถอยหลังเงยหน้าขึ้นมองสิ่งที่เดินชน มันคือคน... ไอ้คนคนนั้นจ้องมองผมอย่างงงๆ
นายเป็นใคร ลูกค้าใหม่หรอ ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้าแล้วมันจะเคยเห็นผมได้ยังไง เพราะผมเองก็เพิ่งเคยเห็นหน้ามันเหมือนกัน แต่มันก็หล่อดีอยู่หรอกนะ
เปล่าฉันไม่ใช่ลูกค้า ฉันคือ...
เมียกูเอง...! มึงมีปัญหาอะไรไหมไอ้คริสเสียงไอ้ยงกุกตระโกนแทรกขึ้นมา ก่อนที่มันจะเดินเข้ามายืนข้างๆผม มันโอบกอดผมทันทีแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
หึ ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ก็แค่เมียมึงเดินชนกูอีกฝ่ายบอกหน้าตาบ่งบอกว่าไม่เกรงกลัวไอ้ยงกุกซักนิด จนผมอดแปลกใจไม่ได้ ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน.... ไอ้ยงกุกหันมามองผมด้วยสายตาอำมหิต
คิดจะอ่อยมันรึไง....มีผัวอยู่เป็นตัวเป็นตนยังจะแรดอีก!”ผมเลือดขึ้นหน้า ยังไม่ทันจะทำอะไรซักนิด แต่กลับถูกมันด่าต่อหน้าคนอื่น ไอ้คริสนั้นหันมามองผม ผมผลักไอ้ยงกุกออก
ฉันขอโทษที่เดินชนนาย และจะมีกรุณามากถ้านายไม่ได้คิดว่าฉันอ่อยผมพูดกับคริส สายตาชำเลืองมองไอ้ยงกุก เน้นประโยคหลังให้ได้ยินชัดเจน ไอ้ยงกุกมองผมอย่างไม่พอใจ
ไม่เป็นไร นายต่างหากที่เจ็บตัว และฉันก็ไม่คิดอะไรทุเรศแบบนั้นด้วย   คริสบอกยิ้มนิดๆให้ผมก่อนจะชำเลืองมองไอ้ยงกุกเช่นกัน เหอะ...ขนาดไอ้บ้านี้ยังนิสัยดีกว่าไอ้ยงกุกซะอีก
ฉันชื่อคริสยินดีที่ได้รู้จักนะร่างสูงยืนมือมาตรงหน้าอย่างแสดงความเป็นมิตรมาให้
ฉันชื่อฮิมชานยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันผมบอกก่อนจะยืนมือออกไป แต่ยังไม่ทันที่มือจะแตะกับอีกฝ่าย ไอ้ยงกุกก็กระชากมือผมออก มันยืนขวางหน้าผมไว้ ก่อนจะแสดงสีหน้าหาเรื่องอีกฝ่าย
อย่ามาเสือกกับเมียกู!”มันบอก คริสลดมือตัวเองลงก่อนจะยกยิ้มนิดๆ
ไม่ได้คิดอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่มึงเฝ้าไว้ให้ดีหละกัน ไม่งั้นของของมึงอาจมาหากูเองไอ้ยงกุกแทบเลือดขึ้นหน้า มันบีบมือที่จับข้อมือผมไว้แน่น จนผมต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ คริสเหยียดยิ้มให้ก่อนจะเดินจากไป
มองเหี้ยอะไรกัน!”ไอ้ยงกุกหันไปพาลใส่พวกพนัน ก่อนจะหันมาหาผม ผมกระตุกมือออกจากการเกาะกุมของมัน แต่มันกับกระชากผมเข้าไปในห้อง ห้องที่ตอนแรกจีโอจะพาผมเข้าไป จีโอเดินตามมาด้านหลังอย่างทำอะไรไม่ถูก
ผมถูกเหวียงลงไปบนโซฟา ก่อนที่ไอ้ยงกุกจะตามเข้ามาบีบคางผมแน่น ผมพยายามดึงมือมันออก
อย่าให้กูรู้ว่ามึงไปยุ่งกับไอ้เหี้ยนั้นอีกหละ ไม่งั้นกูเอามึงตายแน่!”มันว่า สายตาอำมหิตจ้องมองผม แต่ผมไม่รู้สึกกลัวมันเลยซักนิด
ถ้ากูไม่สั่ง อย่าเสือกก้าวออกไปจากห้องนี้เด็ดขาดพูดจบมันก็ปล่อยมือออกจากคางของผม ก่อนจะเดินออกไปจากห้องปิดประตูเสียงดัง ผมจับกรามตัวเองที่เจ็บระบบ
เป็นอะไรมากมั้ยครับจีโอเอ่ยถามผมด้วยความเป็นห่วง ภายในห้องเหลือแค่ผมกับจีโอกันสองคน
ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่นี้ฉันไม่รู้สึกอะไรแล้วหละผมบอก มือกำมัดแน่นด้วยความโกรธ เหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้ผมคิดอะไรได้
จีโอ ผู้ชายคนนั้นเป็นใครหรอผมเอ่ยถาม จีโอทำสีหน้าเหมือนไม่อยากจะบอกแต่ก็ต้องบอกออกมาอยู่ดี เพราะผมคงเซ้าซี้ไม่เลิกแน่
คริสเป็นหุ้นส่วนของที่นี้ครับผมขมวดคิ้ว ถ้าเป็นหุ้นส่วนแต่ทำไมดูไม่ถูกกับไอ้ยงกุกเลยหละ ดูแล้วเหมือนจะเป็นศัตรูกันมากกว่าอีก...
แต่ดูเหมือนเขากับไอ้ยงกุกจะไม่ถูกกันนะ
ใช่ครับ พวกเขามีเรื่องกันตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แล้วก็ต่อกรกันมาตลอดตั้งแต่ตอนนั้น แต่ที่คริสมาเป็นหุ้นส่วนเพราะคุณแดฮยอนเห็นว่าหน้าจะมีประโยชน์ เพราะคริสเองก็อยู่วงการนี้เหมือนกันผมพยักหน้าตามคำบอกเล่าของจีโอ และผมพอจะคิดอะไรออกแล้วหละ
งั้นแสดงว่าเจ้านายของนายต้องทนทำงานกับคู่อริงั้นสิผมสรุป จีโอพยักหน้ารับ ผมยกยิ้มออกมา แผนการบางอย่างถูกวาดขึ้นในหัว ต่อจากนี้ไปเป็นตาของกูมั้งหละนะไอ้ยงกุก....!

*********



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น