[อึนกวัง]
“ปึงๆ
ปังๆ ตุ๊บ โป๊ะ เพล้ง!”ทุกคนกำลังงงใช่มั้ยครับว่าเสียงอะไร
มันคือเสียงซ้อมดนตรีของพวกเราเอง= =
“เห้ย
หยุดๆๆ”ผมตะโกนพูดขึ้นอย่างเหลืออด
“นี้พวกแกเล่นดนตรี
หรือกำลังก่อม๊อบประท้วงว่ะเนี้ย”
ทุกคนส่งยิ้มแหยๆมาให้ผม
ผมหละปวดกระบาลจริงๆ แค่เริ่มต้นก็เหลวแล้ว แล้วการแสดงที่จะจัดขึ้นจะรอดไหมเนี้ย
อากาศก็ร้อนจังเว้ย
“ใจเย็นๆก่อนสิ
นายจะหงุดหงิดอะไรนักหนา ก็ทุกคนเพิ่งเคยเล่นกันครั้งแรกนิ”มินฮยอกเอ่ยต่อว่าผม
โดยมีไอ้ที่เหลือคอยยืนพยักหน้าหงึกหงักที่ด้านหลัง
“ต
แต่ว่า...”
“แต่อะไร
ฉันก็เพิ่งเล่นครั้งแรกเหมือนกัน งั้นนายก็ว่าฉันด้วยสิ”เอาแล้วสิผม
มินฮยอกโกรธซะแล้ว ไอ้พวกที่อยู่ด้านหลังมินฮยอกยกยิ้มเมื่อเห็นผมหน้าจ๋อย
ผมละอยากเข้าไปแตะพวกมันจริงๆ
“ผมมีขอเสนอครับ....”เสียงหนึ่งตระโกนขึ้นบอก
ผมเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะพบว่าเป็นไอ้ซองแจที่ยกมือขึ้นฉีกยิ้มกว้าง ผมขมวดคิ้ว
“ขอเสนออะไร”มันเอามือลงก่อนจะทำสีหน้ากระตือรือร้น
“ถ้าเราจัดแสดงดนตรีรวมกันไม่ได้
ก็จัดการแสดงเดี่ยวไปเลยสิครับ”ผมถึงกับอึ้งในขอเสนอนี้
“การแสดงเดี่ยวหรอ.....”ผมทำสีหน้าครุ่นคิด
“ฉันเห็นด้วยนะ
การแสดงของเราในวันนั้นจะได้มีเยอะขึ้นด้วยเพราะจัดเป็นการแสดงเดี่ยว
นายว่าไงหละอึนกวัง”มินฮยอกหันมาถามความคิดเห็นผม
ผมรู้สึกหัวใจเต้นรัวขึ้นมา นี้มินฮยอกกำลังถามความคิดเห็นผมงั้นหรอ
ผมปลื้มสุดๆเลย >///<
“เห็นด้วยคร้าบที่ร้ากกกก....
ปึก! แอร๊ก!”ผมหน้าหงายล้มลงเมื่อโดนมินฮยอกใช้สันมือฟาดเข้าที่หน้าอย่างแรง
ทุกคนต่างส่งเสียงหัวเราะเยาะ
[ซองแจ]
“ฮ่าๆๆๆ
คุณอึนกวังสลบไปเลย”ผมหัวเราะร่วนไปกับทุกคน
ก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ
“พีเนียล....”ผมเรียก พีเนียลหันมาหาผมทั้งที่ใบหน้ายังหัวเราะอยู่นิดๆ
“หืม...อะไรหรอซองแจ”
“นายจะแสดงอะไรหรอ
การแสดงเดี่ยวน่ะ”ผมถาม พีเนียลกรอกตานิดๆอย่างครุ่นคิด
“อืม...ยังนึกไม่ออกน่ะ
แล้วนายหละ”เขาถามผมกลับ ผมอมยิ้มนิดๆที่มุมปาก
“ฉันชอบการแสดง
ฉันว่าฉันจะแสดงบทเลิฟซีนแต่ฉันจะให้นายมาเป็นผู้ร่วมแสดงของฉัน”พีเนียลหน้าขึ้นสีแดงขึ้นมาทันที
“จะบ้ารึไง
ใครจะยอมเล่นให้นายกัน”พูดจบพีเนียลก็เดินหนีผมไป
“เอ้า
เดี๋ยวสิพีเนียล....”ผมเอ่ยเรียกก่อนจะรีบเดินตามไปทันที
“พีเนียล....เดี๋ยวสิ
เขินแล้วคิดจะหนีฉันหรอ”ผมไล่ตามจนทันก่อนจะคว้าข้อมืออีกฝ่ายดึงให้หันหน้ามา
“ใครเขิน
ฉันไม่ได้เขินซะหน่อย”พีเนียลบอกแต่สีหน้ามันฟ้องว่าไม่ได้เป็นอย่างที่พูด
ผมฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้
“จริงหรอ...
แล้วถ้าฉันขอให้นายมาเล่นบทเลิฟซีนกับฉันจริงๆนายจะยอมไหม”พีเนียลหลุบสายตาหนีผม
เวลาเขาเขินแล้วน่ารักจริงๆเลย ผมชักจะอดใจไม่ไหวอีกแล้วนะ
“ถ
ถ้าเป็นนายฉันยอมทุกอย่างแหละ”ผมตาโต
พระเจ้าเหอะอะไรมันจะน่ารักขนาดนี้ คำพูดและท่าทางที่แสนจะยั่วยวน ผมจะไม่ทนแล้วนะ
“ฉันว่าไม่ต้องแสดงแล้วดีกว่า”ผมบอก พีเนียลเงยหน้ามองผมเหมือนกับจะถามว่าทำไม เขาทำอะไรผิดงั้นหรอ
แต่ที่จริงแล้ว.....
“เราไปเล่นบทเลิฟซีนกันในห้องตอนนี้เลยดีกว่านะ
ฉันไม่ไหวแล้ววววว”ผมบอกก่อนจะกระโดดตระคลุบ
แต่พีเนียลดันเบี่ยงตัวหลบได้
“น
นายจะบ้ารึไงซองแจ นี้มันยังกลางวันอยู่นะ”
“แล้วไง
ก็นายทำให้ฉันทนไม่ไหวเองนะพีเนียล”
“ม
ไม่ได้ หยุดเลยนะ อย่าเข้ามาใกล้นะ”ผมวิ่งไล่จะจับตัวเขาอีกครั้ง
แต่พีเนียลก็หลบได้ว่องไวก่อนจะวิ่งหนีผมไป
ผมยืนจ้องมองเขาที่วิ่งหนีไปก่อนจะยกยิ้มออกมา
พีเนียลจะรู้ไหมนะว่าทางที่ตัวเองวิ่งหนีผมนั้นมันคือทางไปบ้านพักของเรา หึ
“ซองแจ....”ผมชะงักเท้าที่กำลังจะวิ่งตามพีเนียลไป
ก่อนจะหันกลับมาหาเสียงที่ร้องเรียก ใครกันมาขัดจังหวะคนกำลังจะไปเล่นฉากเลิฟซีน
“อ้าว
คุณมินฮยอกมีอะไรหรอครับ”ผมส่งยิ้มบางๆให้
คุณมินฮยอกเดินเข้ามาหาผมสีหน้าดูแปลกๆชอบกล
“คือ...ฉัน....ฉัน.....”คุณมินฮยอกทำสีหน้าอึกอัก เหมือนจะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา
“มีอะไรหรอครับ
บอกผมได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมจัดการให้เอง”ผมบอกทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าคุณมินฮยอกมีเรื่องอะไร
แต่เพราะว่าเป็นคนที่เจ้านายผมตกหลุมรักซึ่งใครๆก็คงดูออก
เพราะฉะนั้นคุณมินฮยอกก็เหมือนเจ้านายผมอีกคนเหมือนกัน
“คือ....ฉัน.....”
“ครับ?”
คุณมินฮยอกยังไม่หายอึกอัก
ผมก้มหน้าลงไปเพื่อจะฟังชัดๆว่าคุณมินฮยอกต้องการอะไร
แต่แล้วสิ่งที่ผมไม่ขาดคิดก็เกิดขึ้น
เมื่อคุณมินฮยอกดันใช้สองแขนโอบรอบคอผมให้โน้มลงกว่าเดิม
ก่อนที่ตัวเองจะเขย่งเท้ายื่นใบหน้าขึ้นมาจูบผม
ผมเบิกตากว้างตัวแข็งทื่อรู้สึกสมองขาวโพลนไปหมด นี้มันเกิดอะไรขึ้นกัน!
[พีเนียล]
ผมวิ่งหนีซองแจมาด้วยหัวใจที่เต้นแรง
ก่อนจะมารู้สึกตัวอีกทีคือวิ่งมาถึงบ้านพักของพวกเราแล้ว
ตายหละนี้ผมวิ่งมาโดยที่ไม่ลืมหูลืมตาดูเส้นทางเลยหรอนี้ ถึงวิ่งมาจนถึงบ้านพักได้โดยที่ไม่รู้ตัว
แล้วอย่างงี้ซองแจจะเข้าใจผิดคิดว่าผมอ่อยเขารึเปล่าเนี้ย
ใบหน้าผมแดงจัดรู้สึกอายขึ้นมาถ้าซองแจเข้าใจผิดอย่างงั้นจริงๆ
การซ้อมการแสดงของคุณอึนกวังยังไม่จบ
ผมจำเป็นจะต้องเดินกลับไปทางเดิม แบบนั้นผมจะต้องเดินเจอกับซองแจแน่ๆ
แล้วผมควรจะทำสีหน้ายังไงดี.... ผมพยายามปรับสีหน้าและท่าทางของตัวเองให้เป็นปกติ
ก่อนจะเดินกลับไปยังเส้นทางเดิม หวังว่าซองแจจะไม่เข้าใจผิดแบบนั้นนะ
แล้วจะไม่ลากผมมาเล่นฉากเลิฟซีนด้วย
ผมเดินกลับมาด้วยหัวใจที่เต้นรัว
จนกระทั่งมาถึงตรงที่ผมวิ่งหนีจากซองแจไป
ภาพที่ผมเห็นทำให้ขาผมหยุดชะงักดวงตาเบิกกว้าง
หัวใจที่เต้นรัวหยุดนิ่งก่อนจะรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาแทน
ภาพซองแจที่กำลังจูบกับคุณมินฮยอก! ทำไมกัน.... ทำไมพวกเขาทั้งสองคนถึง..... ผมรู้สึกปวดร้าวข้างในอก
น้ำตาเอ่อคลอออกมา ตอนนี้ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว เข้าใจทุกอย่างแล้วจริงๆ
ซองแจคิดจะทำกับใครก็ได้สินะ
ผมหันหลังกลับช้าๆ
ภาพของทั้งคู่ที่กำลังประกบจูบกันอย่างดูดดื่มอยู่ด้านหลัง
ก่อนที่ผมจะวิ่งหนีจากไป.....
[อึนกวัง]
ผมเอนตัวพิงต้นไม้ก่อนจะหันหน้าหนีภาพตรงหน้า
ภาพที่ทำให้ผมต้องเจ็บปวดหัวใจ ผมไม่หน้าวิ่งตามเขามาเลย
“นายใจร้ายมากเลยนะมินฮยอก”ผมพึมพำออกมาอย่างเจ็บปวด ก่อนจะหันหลังหนีแล้วเดินจากไป
ในหัวได้แต่นึกว่า นี้มันถึงเวลารึยัง.... ถึงเวลาที่ผมควรจะตัดใจรึยัง.....
[ฮยอนชิก]
ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสงครามก็ไม่ปาน
เมื่อฝั่งซ้ายก็ฮุนนี่สุดที่รักส่วนฝั่งขวาก็ชางซอบ
ทั้งคู่จ้องตากันเอาเป็นเอาตายโดยที่มีผมนั่งคั่นกลาง
“เออ....ไม่รู้ทุกคนหายไปไหนกันหมดเนอะ
ทำไมถึงเหลือแค่พวกเราก็ไม่รู้”ผมพูดขึ้นหวังทำลายบรรยากาศกดดันนี้
แต่รู้สึกเหมือนมันจะยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่
“ฮยอนชิกอ่า....”ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆชางซอบก็เอ่ยเรียกชื่อผม
แถมเรียกด้วยน้ำเสียงยานคางแบบนั้นอีก ผมรีบหัวควับไปมองก่อนจะยิ้มแหยๆให้
“อ
อะไรหรอชางซอบ”ผมถาม ชางซอบช้อนสายตาหวานมองผมก่อนจะหันไปส่งสายตาบางอย่างให้อีกคนที่นั่งข้างผมอีกฝั่ง
“การแสดงเดี่ยวนายจะแสดงอะไรหรอ”
“อ
เออ....ยังไม่รู้สิ ฉันยังนึกไม่ออกน่ะ”
“หรอ
แต่ฉันว่านายน่าจะร้องเพลงนะ เสียงนายน่ะเพราะจะตาย
จำตอนเด็กๆที่นายร้องเพลงให้ฉันได้รึเปล่าหละ ตอนนั้นฉันชอบเสียงของนายมากเลยนะ”
ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ
เอาแล้วสิ ฝั่งขวาเริ่มปล่อยหมัดออกมาแล้ว
ผมหันไปมองทางด้านฝั่งซ้ายที่ดูเหมือนจะโดนหมัดเข้าไปเต็มๆกำลังนั่งกัดฟันกรอดๆ
ซวยแล้วสิ ดูท่าว่ามวยยกแรกจะเริ่มแล้ว
“ฉันว่านายร้องเพลงก็ดีเหมือนกันนะฮยอนชิก”ผมต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อฮุนนี่ที่รักเริ่มง้างหมัดขึ้นบ้าง
“ท
ทำไมหรอ... ฮุนนี่อยากฟังเสียงฉันร้องเพลงบ้างหรอ”ผมถามยิ้มๆแต่หน้าผากเหงื่อแตกผลัก
“เปล่าหรอก
เสียงของนายน่ะฉันเคยได้ยินแล้ว
เคยได้ยินตอนนั้นไง....ตอนที่เราขยับกายไปพร้อมๆกัน”ท้ายประโยคอิลฮุนลดเสียงเบาลง
แต่ก็ยังได้ยินกันทุกคนอยู่ดี
ผมกลืนน้ำลายอีกอึกลงคอ
ก่อนจะหันควับไปดูทางฝั่งขวาที่ดูเหมือนจะโดนหมัดที่แรงกว่าเสยหน้าเข้าเต็มๆ
ทั้งคู่กัดฟันกรอดๆจ้องตากันเขม่ง
ดูท่าว่าถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่น็อกเอ้าก็คงจบเกมไม่ได้ง่ายๆแน่
แล้วผมที่เป็นกรรมการจะห้ามทั้งคู่ยังไงหละเนี้ย
เฮ้อ.....เกิดมาหล่อก็แย่อย่างงี้แหละ
*******
[มินฮยอก]
ริมทะเลสาบที่เงียบสงบ
ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มบ่งบอกเวลากลางคืนที่หวนกลับมาอีกครั้ง
ผมนั่งนิ่งอยู่ที่ริมทะเลสาบ ในหัวสมองว่างเปล่า มีแต่ความเจ็บช้ำที่หัวใจ
ผมถูกปฏิเสธ....ผมถูกเขาปฏิเสธ
หลังจากที่ผมตัดสินใจจู่โจมจูบเขาด้วยความหึงและกลัวว่าจะไม่ได้เขามาเป็นของตัวเองพร้อมกับสารภาพรักออกไป
ผมก็ต้องพบกับความผิดหวังครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อซองแจเอ่ยปฏิเสธผม
แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ยังเอ่ยปฏิเสธอย่างสุภาพพร้อมกับให้เหตุผลกับผมอย่างดี
เขาคงรักพีเนียลมากเลยสินะ ผมรู้สึกอิจฉาจัง
แต่เขายังให้เหตุผลกับผมอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คืออึนกวัง เจ้านายของเขาที่รักผมมาก
“หึ
น่าสมเพศจริงๆเลย”ผมพึมพำกับตัวเองก่อนจะทุบฝ่ามือลงบนพื้นอย่างแรง
หยดน้ำตาล่วงหล่นลงมา
“ทำแบบนั้นไม่ดีเลยนะ”จู่ๆเสียงหนึ่งก็พูดขึ้น ผมหันควับไปมองทางด้านหลัง
อีกฝ่ายเดินเข้ามานั่งข้างๆก่อนจะจับมือข้างที่ผมทุบลงพื้นขึ้นมาจับไว้
“ทำแบบนั้นมือนายจะเจ็บนะมินฮยอก
ฉันไม่อยากให้มือนิ่มๆของนายต้องบาดเจ็บ”ผมจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งก่อนจะสะบัดมือออกแล้วปาดน้ำตาบนใบหน้าทิ้ง
“ฉันจะทำยังไงกับมือของฉันมันก็ไม่เกี่ยวกับนาย
อึนกวัง”ผมพูดก่อนทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องชะงัก
“อยู่แบบนี้กับฉันเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม”ผมหันควับกลับไปมอง นี้ผมฟังอะไรผิดไปรึเปล่า ครั้งสุดท้ายงั้นหรอ?
“ช่วยอยู่กับฉันลำพังแบบนี้อีกสักพักเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม
แล้วฉันจะยอมตัดใจจากนายมินฮยอก”ผมไม่ได้ฟังผิดไป
สายตาที่มองผมของอีกฝ่ายนั้นช่างดูเศร้าสร้อยจนน่าเจ็บปวด
คงถึงเวลาแล้วสินะ....เวลาที่ผู้ชายตรงหน้าผมจะปล่อยมือไปจากผมซะที
เขาจะยอมตัดใจจากผมสักที แต่ทำไม....ทำไมผมถึงไม่รู้สึกดีใจซักนิดเลย
[ซองแจ]
ผมกำลังยืนยิ้มกริ่มอยู่หน้าประตูห้อง
ก่อนจะค่อยๆแง้มประตูห้องเข้าไป
สิ่งที่ผมเห็นคือแผ่นหลังของพีเนียลที่นั่งอยู่บนเตียงหันหลังให้อยู่
ผมยกยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง กะว่าจะเข้าไปแกล้งให้อีกฝ่ายตกใจเล่นซะหน่อย
หลังจากนั้นก็จะสะสร้างเรื่องเมื่อกลางวันต่อ เรื่องฉากเลิฟซีน
ผมค่อยๆปิดประตูอย่างเบามือที่สุดก่อนจะค่อยๆย่องเข้าไปหาตัวคนที่นั่งอยู่บนเตียง
สองมือยกขึ้นมาจะจับร่างอีกฝ่าย มุมปากกระตุกยิ้มอย่างตื่นเต้น
ก่อนที่ผมจะพุ่งเข้าใส่ร่างอีกฝ่ายโดยไม่ให้รู้ตัว
“แฮ่!!!”
“อ๊ะ!!!”พีเนียลกระโดลุกขึ้นอย่างตกใจก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างตื่นๆ
“ฮ่าๆๆๆ
ตกใจใช่ไหมหละ แกล้งนายนี้สนุกจังเล..... พ พีเนียลนายร้องไห้หรอ”ผมหยุดหัวเราะทันที เมื่อพบว่าบนใบหน้าอีกฝ่ายมีหยาดน้ำตาไหลอาบแก้ม
พีเนียลรีบยกมือขึ้นเช็ดใบหน้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว
“เปล่านิ
ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
“ไม่ได้เป็นอะไรที่ไหน
นายเป็นอะไรพีเนียล”ผมเข้าไปคว้ามืออีกฝ่ายไว้ พีเนียลเงยหน้าขึ้นสบตากับผม
ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่าแต่สายตานั้นของเขาเหมือนกับว่ากำลังตัดพ้อผมอยู่
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ
นายถอยออกไปเถอะ”พีเนียลผลักตัวผมออกห่างก่อนจะหันหลังหนี
ผมถึงกับตัวแข็งทื่อจ้องมองเขา นี้มันเกิดอะไรขึ้น
“พีเนี....”
“ขอโทษนะ
ฉันง่วงนอนแล้ว”พูดจบเขาก็ล้มตัวลงบนที่นอนก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมหัวจนมิด
ใครจะบอกผมได้มั่งว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมจ้อมองร่างที่อยู่ใต้ผ้าห่มด้วยความงุนงง
ถึงจะสงสัยแต่ผมก็ไม่อยากจะรบกวนเขา คงต้องรอพรุ่งนี้สินะ
ไม่แน่พรุ่งนี้เขาอาจจะยอมบอกผมก็ได้ว่าเป็นอะไรแล้วเกิดอะไรขึ้น
“งั้นฉันไปนอนบ้างดีกว่า
ฝันดีนะ”ผมเอ่ยบอกก่อนจะเดินไปที่ฝั่งเตียงของตัวเองแล้วล้มตัวลงนอนบ้าง
ก่อนจะหลับตาลงผมหันไปมองเขาอีกครั้ง มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลง
*******
มาอัพต่อไวๆน้า สนุกมากๆ
ตอบลบมาต่อเร็วๆๆๆนะค่ะพูดเลยว่าbtobหาอ่านยากมากแล้วก็ขอของมินกวังเยอะๆๆหน่อยนะค่ะจะรออ่านค่ะ
ตอบลบสนุกจัง น่ารักมากอ่ะ
ตอบลบเมื่อไหร่จะมาอัพคะ ToT
ตอบลบสงสารอึนกวังอินมากอยากอ่านต่อขอร้องล่ะไรท์
ตอบลบสงสารอึนกวังอินมากอยากอ่านต่อขอร้องล่ะไรท์
ตอบลบสงสารอึนกวังอินมากอยากอ่านต่อขอร้องล่ะไรท์
ตอบลบเผลอหลงมาอ่านไม่คิดว่าจะติดเรื่องนี้กลายเป็นว่าติดแล้วเรียบร้อย ไม่ทราบว่าจะช่วยอัพตอนต่อไปมั้ยอ่ะ ชัก ติด เรื่องนี้ แล้วสิ
ตอบลบ