Intro…..
ณ
เมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ตกอยู่ภายใต้ความมืดของกฎหมาย ประชาชนทุกคนต่างต้องอยู่ใต้อำนาจของผู้ที่เป็นใหญ่
นั้นคือตระกูลเก่าแก่ทั้งหก แต่ละตระกูลจะมีสร้อยที่เป็นรูปสัญลักษณ์ของตัวเอง
ได้แก่ ไฟ น้ำ สายลม เมฆ หิมะ และพายุ
ตระกูลที่มีสัญลักษณ์เป็นไฟนั้น
เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีอำนาจมากที่สุด และผู้คนต่างหวาดกลัวมากที่สุด
แต่แล้ววันหนึ่งก็ได้มีการค้นพบว่าตระกูลนี้ได้มีเบื้องหลังที่ชั่วร้าย
ทำเรื่องราวผิดกฎหมายมากมาย จึงถูกกำจัดจนเหลือแค่ห้าตระกูล
และต่อมาตระกูลสายลมจึงขึ้นมามีอำนาจสูงสุดแทน
ตามด้วยตระกูลลูกพี่ลูกน้องคือ น้ำ และ หิมะ แต่ตระกูลที่มีสัญลักษณ์คือหิมะกลับอ่อนแอเกินไป
จึงต้องตกไปอยู่ในลำดับท้ายสุดของตระกูลทั้งหมด
ส่วนตระกูลเมฆ
หรือว่าเมฆาและพายุ ต่างยังคงที่อยู่อย่างเดิม
แต่ก็มีข่าวรั่วไหลออกมาบ้างว่าทั้งสองตระกูลก็แอบทำเรื่องชั่วร้ายเหมือนกัน!!!
ณ
งานเลี้ยงในโรงแรมหรู เป็นงานที่จัดขึ้นมาพบปะระหว่างนักการเมือง รัฐบาล นักกฎหมาย
และตระกูลเก่าแก่ทั้งห้า ผู้คนในงานต่างแต่งตัวเลิศหรูอลังการ
เป็นงานที่จัดขึ้นมาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของทุกฝ่าย
ชายวัยกลางคนที่ดูภูมิฐานและมีอำนาจมาก
พร้อมกับภรรยาข้างกาย และลูกชายที่สวมสร้อยคอจี้รูปสายลม เดินเข้ามาในงาน
ผู้คนระหว่างทางต่างก้มหัวและทักทายด้วยความเคารพ
ไม่แม้แต่ผู้ที่มีอำนาจใหญ่โตในรัฐบาล
ทั้งสามเดินเข้าไปหาครอบครัวหนึ่ง
ก่อนจะเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง
ทั้งพ่อและแม่ของทั้งสองฝ่ายต่างเริ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“อ้าว...
ฮิมชานโตขึ้นเยอะเลยนะ”ชายที่เป็นหัวหน้าตระกูลของอีกฝ่ายเอ่ยทักทายชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังพ่อและแม่ของตน
“สวัสดีครับ”ฮิมชานโค้งทำความเคารพ สร้อยคอรูปสายลมห้อยลงมา แสงสีครามดึงดูดสายตาผู้คน
ตระกูลสายลม.....
“ดูท่าว่าจะได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าตระกูลสายลมคนใหม่เร็วๆนี้แน่เลยนะ”หัวหน้าตระกูลของอีกฝ่ายพูดยิ้มๆกับพ่อของเขา
“อ๊ะ! ฮิมชาน....”จู่ๆเสียงหนึ่งก็เอ่ยเรียกเขา
เมื่อเขาหันไปมองก็ต้องยิ้มกว้างก่อนที่ร่างนั้นจะเดินมาถึง
“ไงยองแจ
หายไปไหนมาเรา”หัวหน้าตระกูลอีกฝ่ายเอ่ยถามลูกชายของตนที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ผมไปเดินเล่นในงานมาครับ
สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า”ยองแจตอบผู้เป็นพ่อของตน
ก่อนจะหันไปโค้งทำความเคารพผู้ใหญ่อีกสองท่าน สร้อยคอรูปสายน้ำสีน้ำเงินห้อยลงมา
ช่างเป็นสีที่หน้าหลงใหล
ตระกูลสายน้ำ......
“จงออบหละ มารึยัง”ฮิมชานถามคนที่เป็นทั้งเพื่อนและญาติห่างๆกัน
“อือ...อ๊ะ! นั้นไง มาพอดี”ยองแจบอกก่อนจะชี้ไปที่ซุ้มประตูทางเข้า
ชายและหญิงวัยกลางคนเดินนำหน้าเข้ามา
ใบหน้าของทั้งสองช่างดูอ่อนโยนและใจดี
พร้อมกับลูกๆทั้งสองของตัวเองที่เดินตามมาด้านหลัง
หนึ่งในนั้นคือน้องชายที่ชื่อจงออบ และพี่สาวของเขาจียอน
ทั้งคู่สวมใส่สร้อยประจำตระกูลเป็นรูปเกล็ดหิมะ มันส่องแสงแวววาวสีขาวออกมา
ตระกูลหิมะ.....
“พี่ฮิมชาน...พี่ยองแจ...”เสียงใสน่ารักเอ่ยทักท้ายพร้อมกับยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาหา
ทำให้โดนพ่อกับแม่ของตัวเองดุที่เสียมารยาท
“สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า”จงออบโค้งทำความเคารพด้วยใบหน้ายู่ๆเพราะโดนดุ
“พี่ฮิมชาน...พี่ยองแจ...ไปข้างนอกกันเถอะ”จงออบเปลี่ยนอารมณ์เอ่ยชวนพี่ๆทั้งสองอย่างอารมณ์ดี
ทั้งฮิมชานและยองแจพยักหน้าให้อย่างตามใจ ก่อนจะถูกน้องชายคนเล็กลากออกไปด้านนอก
บรรยากาศภายในงานกำลังสนุกสนาน
เสียงดนตรีคลาสสิกกำลังบรรเลงขับกล่อมทุกคน ตอนนี้เหลืออีกสองตระกูลที่ยังมาไม่ถึงงานเลี้ยง
และแล้วประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมกับร่างของชายหนุ่มทั้งสองคนเดินเข้ามา
ทั้งคู่ช่างมีใบหน้าที่หล่อเหลาสะกดสายตาของบรรดาหญิงสาวในงาน
คนทางด้านซ้ายสวมสร้อยคอประจำตระกูลรูปก้อนเมฆ ส่วนคนด้านขวาสวมสร้อยคอรูปพายุ
ตระกูลเมฆา และ ตระกูลพายุ......
“เด็กทั้งสองนั้นใครหรอค่ะ”หญิงผู้เป็นภรรยาหัวหน้าตระกูลสายลมเอ่ยถาม
“อ่อ
นั้นคงเป็นแดฮยอนลูกชายตระกูลเมฆา และจุนฮงลูกชายตระกูลพายุ
สงสัยทั้งสองคงได้เลื่อนเป็นผู้นำตระกูลแล้วหละมั้ง”
ผู้เป็นสามีตอบพร้อมกับข้อสันนิทาน
เพราะชายหนุ่มทั้งสองนั้นมากันเองโดยที่ไม่มีพ่อหรือแม่
ซึ่งเป็นปกติสำหรับเวลาที่แต่ละตระกูลยกตำแหน่งให้ผู้สืบทอดแล้ว
ก็มักจะให้ออกงานเองเพื่อเปิดตัว
ชายหนุ่มทั้งสองเอ่ยทั้งทายแขกผู้ใหญ่อย่างเป็นธรรมชาติ
ตอนนี้ภายในงานก็มีผู้นำของตระกูลทั้งห้าครบแล้ว งานดำเนินต่อไปอย่างคลื่นเครง
เสียงดนตรีเริ่มเปลี่ยนเป็นจังหวะเร็วขึ้น
ชวนให้แขกทั้งหญิงและชายต่างลุกออกมาเต้นรำ
ฮิมชาน
ยองแจ และจงออบ ต่างก็กำลังยืนพูดคุยอยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนาน
จนกระทั่งถึงเวลาใกล้จบงาน จู่ๆประตูก็เปิดออกอีกครั้ง
ทุกคนทุกผู้ในงานต่างหันไปจับจ้อง
ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงใหญ่
ใบหน้าหล่อคมคาย สายตาคมเหยียด มุมปากเหยียดยิ้ม
เขาดูน่าหลงใหลและดูน่าหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน ที่ลำคอแกร่งมีสร้อยคอเป็นโซ่ส่วนจี้ของมันนั้นคือหัวกะโหลก
เขาเดินเข้าไปหากลุ่มของหัวหน้าตระกูลทั้งสามบ้าน ก่อนจะก้มโค้งให้และเอ่ยแนะนำตัว
“สวัสดีครับ ผมบัง
ยงกุก ผู้นำตระกูลดาร์ก”ทุกคนในงานต่างแตกตื่นตกใจกับคำพูดของเขา
เขายกยิ้มอย่างพอใจ
“อ้าว... ไอ้ยงกุก”เสียงหนึ่งเอ่ยทักทายก่อนที่สองร่างจะเดินเข้ามาหา
“ว่าไงไอ้เซโล่...
ไอ้แดฮยอน...”เขาหันกลับไปทักทายเพื่อนรักทั้งสอง
“มาจนได้นะคุณผู้นำตระกูลดาร์ก”เซโล่ทักทายกลับ ใช่แล้วเขาคือผู้นำของตระกูลใหม่ที่มีชื่อตระกูลว่าดาร์ก
หรือว่าความมืด
ผู้คนในงานรวมทั้งผู้นำของตระกูลทั้งสาม
ฮิมชาน ยองแจ และจงออบที่เพิ่งเดินเข้ามา ต่างมีสีหน้าประหลาดใจ
ตระกูลดาร์ก(ความมืด)?......
*******
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น